บทที่หก
วันต่อมา หลี่รั่วอวี๋ตื่นแต่เช้า แต่ฉู่จิ้งเฟิงกลับนอนหลับสนิท ท่าทางเหมือนนอนดึกเกินไป ท่อนแขนเหล็กคู่นั้นราวกับผ้ารัดนางไว้แน่น ทำให้นางลุกขึ้นไม่ได้ จำต้องนอนเล่นนิ้วมือของตนเองแต่โดยดี
จากนั้นก็มาเล่นผมนุ่มลื่นของฉู่จิ้งเฟิง ผ่านไปนานกว่าเขาจะตื่น แต่ยังไม่รีบร้อนลุกขึ้น ต้องกอดนางกินปากเล็กและลิ้นก่อน
ภรรยาใหม่ต้องไปคารวะพ่อแม่สามี หลี่รั่วอวี๋ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ แต่พี่คนโตก็เปรียบเสมือนมารดา และยังต้องไปยกน้ำชาให้ท่านหญิงไหวอิน
หล่งเซียงตอนเช้าเห็นคุณหนูของตนอยู่ดีมีสุขนั่งดื่มนมแพะอยู่ที่โต๊ะอาหาร หัวใจที่ลอยสูงก็วางลงได้เสียที
หลังเสียงเรียกเศร้าโศกของนางเมื่อคืน นางก็ถูกพ่อบ้านในเรือนกลางสวนตำหนิยกใหญ่ ทว่านางเป็นสาวใช้ติดตามฮูหยินซือหม่ามาจึงไม่ถูกลงโทษหนัก แต่ด้วยหล่งเซียงรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์สกุลหลี่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎระเบียบในจวนโหว นางคิดพลางหวีผมแต่งหน้าให้คุณหนูอย่างคล่องแคล่ว
เพราะแต่งงานแล้ว จึงไม่อาจหวีผมทรงสาวน้อยได้ หล่งเซียงจึงเกล้าผมสูงให้คุณหนู แล้วคาดแถบผ้าปักไข่มุกทับทิมแดงที่หน้าผากทำให้ดูเหมือนหญิงที่แต่งงานแล้วขึ้นหลายส่วน
หลี่รั่วอวี๋เปลี่ยนมาสวมชุดกระโปรงยาวสีดอกท้อแล้ว หล่งเซียงก็มองสำรวจทั่วตัวอีกฝ่าย
ช่างงดงามจริงๆ ถ้าไม่พูด ผู้ใดก็ดูข้อเสียของคุณหนูไม่ออก
ตอนฉู่จิ้งเฟิงพาหลี่รั่วอวี๋ไปยกน้ำชาให้ท่านหญิงไหวอิน ท่านหญิงก็มองฮูหยินคนใหม่ผู้นี้อย่างพอใจ ก่อนจะมอบกำไลทองฝังหยกรูปวิหคชาดตามตะวันที่วังหลวงส่งมาให้
คังติ้งอ๋องเห็นหน้าพี่สะใภ้ผู้นี้เป็นครั้งแรก แม้ว่าเขาจะได้ยินพี่สาวพูดถึงพี่สะใภ้ผู้นี้ว่าเพราะอุบัติเหตุทำให้สมองเสื่อมไปบ้าง แต่เมื่อได้เห็นหน้าก็คิดว่ารูปร่างหน้าตาราวนางฟ้านางสวรรค์เช่นนี้ ถึงสมองเสื่อมแล้วอย่างไร ก็ยังดึงดูดชายหนุ่มให้หลงใหลได้ มิน่าเล่าพี่ชายจึงได้ใจร้อน ต้องการสาวงามมาครอบครองให้ได้
เขาจึงยืนข้างๆ พูดด้วยรอยยิ้ม “ซีจือคารวะพี่สะใภ้”
หลี่รั่วอวี๋เพียงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วขยับไปหลบด้านหลังฉู่จิ้งเฟิง
คนที่นี่ นางไม่รู้จักผู้ใดสักคน หญิงในชุดหรูหราผู้นั้นก็เคยเห็นที่บ้านเพียงครั้งเดียว นางนึกอยากจะกลับบ้าน อยากอยู่กับท่านแม่และน้องชาย ในตอนนี้นางแนบติดแผ่นหลังแข็งแกร่งของฉู่จิ้งเฟิงแล้วถูไถไปมา
ท่าทางเหมือนเด็กผู้หญิงเช่นนี้ จ้าวซีจือมองตะลึงไปเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อว่าสาวงามเช่นนี้จะกลายเป็นคนสมองเสื่อม ตอนนี้เห็นทีไม่ใช่เรื่องโกหก จะว่าไปแล้วพี่ชายก็ขาดการไตร่ตรองที่ดี เขาเป็นถึงซือหม่าแห่งต้าฉู่ หากเพียงแค่หลงใหลความงาม รับเข้ามาเป็นอนุก็พอแล้ว เหตุใดต้องรับเป็นภรรยาเอกด้วย แม้จะพูดว่าหากภายหน้าคิดจะหย่าภรรยา ขุนนางเก่าแก่ในราชสำนักเหล่านั้นคงไม่กล้ายั่วโมโหซือหม่าผีเห็นยังหวั่นผู้นี้ ถึงกระนั้นก็ยังพูดง่ายแต่ไม่น่าฟังไม่ใช่หรือ