สุดท้ายเขาจึงลุกขึ้นมานั่งนิ่งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ เป็นเวลาครึ่งค่อนวัน เมื่อถึงเวลาเช้ามืดของฤดูหนาวที่ท้องฟ้ายังคงมืดทึบ เขาก็แต่งตัวอย่างง่ายๆ แล้วผลักประตูออกไป เดินไปตามตรอกอันเงียบสงัดที่รายล้อมไปด้วยหมอก
โดยไม่ทันรู้ตัว เขาก็กลับมาอยู่ที่บ้านเก่าในเรือนหมู่ของตรอกซงเซียง
จากนั้นเขาก็เห็นนาง
ตอนนั้นฟ้ายังไม่ทันสางดี ก็มีแสงสลัวเลือนรางของเทียนไขส่องออกมาจากครัวเล็กในบ้านเก่า เงาร่างบอบบางสายหนึ่งกำลังง่วนทำงานยุ่ง
นางยุ่งมากจริงๆ ทำตั้งแต่จุดไฟในเตา ต้มน้ำแช่ข้าว เตรียมผักและเครื่องปรุง เริ่มต้นหุงและเคี่ยวข้าวอย่างพิถีพิถัน นานๆ ครั้งก็จะหันมาคุมไฟ ทั้งที่มือนางยุ่งออกขนาดนั้น และตัวนางก็หมุนคว้างไปมาในครัวราวกับลูกข่าง แต่ละครั้งที่ขยับตัวกลับเป็นไปอย่างเบามือและเดินเพียงก้าวเดียวก็บรรลุถึงที่ นั่นทำให้การเคลื่อนไหวของนางดูคล่องตัวและเงียบเชียบ แม้งานจะมากแต่ก็เป็นระเบียบ ทำหลายอย่างได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด
ตอนแรกเขารู้สึกมึนงง พลันนึกถึงเรื่องที่ท่านยายเฉียวเคยบอกเขามาก่อน ว่าจะยกบ้านเก่าให้คนเช่า
ท่านยายปล่อยเช่าบ้านเก่าของเขาให้กับแม่นางน้อยผู้หนึ่ง…เดิมเขาคิดเช่นนี้ จนกระทั่งเห็นเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่าและผอมบางกว่ามากเดินตาปรือเข้ามาในครัว ค่อยดูออกว่าที่แท้บ้านเก่าของเขาปล่อยเช่าให้กับพี่น้องคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ด้วยกัน
เขาหลบอยู่ในมุมมืดของเรือนหมู่ มองดูหญิงสาวเรียกสาวน้อยให้มานั่งบนเก้าอี้เล็ก จากนั้นก็เทน้ำร้อนควันฉุยลงในอ่าง ผสมน้ำเย็นลงไป พอแช่มือลงไปเพื่อทดสอบความร้อนแล้ว ก็นำผ้าสะอาดลงไปชุบแล้วบิด จากนั้นจึงค่อยกางออกมาเช็ดหน้า ลำคอและมือให้เด็กสาว แล้วก็สั่งให้ดรุณีน้อยใช้กิ่งหยางหลิ่วกับเกลือขัดฟันบ้วนปาก
ไม่ว่าจะผ่านการล้างหน้า กระทั่งปล่อยให้หน้าและแก้มถูกหญิงสาวขัดเสียจนแดงเถือกอย่างไร ดรุณีน้อยก็ยังคงง่วงงุนไม่คลาย แกว่งศีรษะเล็กแล้วหาวปากกว้าง แต่พอเห็นว่าพี่สาวลุกไปทำงานต่อแล้ว เด็กสาวก็หยิบกิ่งหยางหลิ่วขึ้นมาแต่โดยดี แล้วเริ่มแปรงฟัน
เขามองโดยไม่อาจละสายตา มุมปากอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ในใจรู้สึกโอนอ่อนโดยไม่มีสาเหตุ…อืม ก็ไม่เชิง ‘ไม่มีสาเหตุ’ เขารู้ดีว่าสาเหตุคืออะไร
เขานึกถึงช่วงเวลาในวัยเด็กที่เขาใช้ชีวิตในบ้านเก่า
เมื่อบิดาด่วนจากไป มารดากับเขาต้องอยู่อย่างพึ่งพากันและกัน มารดายังคงเตรียมน้ำล้างหน้าให้เขา บอกให้เขาบ้วนปากเช่นเดิม และเข้าห้องครัวเตรียมอาหารตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ต้มโจ๊กปรุงยาให้เขา
โจ๊กที่หญิงสาวเคี่ยวอยู่ในครัวส่งกลิ่นหอมจางๆ ของอาหารออกมา เป็นกลิ่นหอมของเครื่องปรุงที่ผสมลงไปรวมกับกลิ่นของเมล็ดข้าว นำเอาความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนที่แท้จริงมาให้ ในเช้ามืดของฤดูหนาว เขาที่ทั้งตัวสวมเสื้อผ้าเนื้อบางถูกกลิ่นหอมของอาหารกักเอาไว้ แม้ว่าเขาจะมีร่างกายแข็งแรง กำลังภายในลึกล้ำ ไม่กลัวความเยือกแข็งในวันที่อากาศหนาวเหน็บ แต่หากยังตากอากาศต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่มกระแอมไอถี่ขึ้นเพราะเสมหะ ในไม่ช้าก็จะได้รับบาดเจ็บภายใน
ท้องเขาหิว
อยากกินมากๆ
เขาจ้องโจ๊กในครัวของหญิงสาวหม้อนั้นด้วยความละโมบ แต่ไม่อาจเข้าไปปรากฏตัวอย่างบุ่มบ่าม แล้วขอโจ๊กหนึ่งชามจากผู้อื่น เพื่อดับความอยากและเติมท้องให้เต็มได้
หากเขาเข้าไปทั้งอย่างนั้น ย่อมทำให้หญิงสาวตกใจหน้าถอดสีเป็นแน่ ดังนั้นจึงได้แต่อดทนเอาไว้ อดทนอดกลั้นจนสุดชีวิต เขาขบกรามจนปวดไปหมด ใช้แรงเรี่ยวมหาศาลปานใช้เก้าโคถึกกับสองพยัคฆ์ฉุดตนเองให้เดินหันหลังจากไป