เห็นนางสวมเสื้อผ่าหน้าผ้าไหมหางโจวสีฟ้าอ่อนปักลายดอกไห่ถังตรงคอเสื้อก็ขมวดคิ้วถามว่า “เจ้าออกมาไยไม่สวมเสื้อผ้าหลายๆ ชั้น”
จากนั้นก็ปลดเสื้อคลุมผ้าต่วนสีครามบนร่างตนเองลงมาคลุมไว้บนร่างนาง
นี่ก็คือเสื้อคลุมตัวที่ไม่กี่วันก่อนเมิ่งอี๋เหนียงคลุมให้เจียงเทียนโย่วต่อหน้าเหยาซื่อในเรือนหลิวเซียง เมิ่งอี๋เหนียงเห็นแล้วก็มองเจียงเทียนโย่วพลางกล่าวว่า “นายท่านยังคลุมเสื้อคลุมตัวนี้อยู่? ผู้น้อยนึกว่าท่านจะโยนทิ้งไปแล้วเสียอีก”
เจียงเทียนโย่วเป็นคนไม่ละเอียดอ่อน ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนาง จึงถามว่า “เสื้อคลุมดีๆ ข้าจะทิ้งได้อย่างไร”
“ผู้น้อยคิดว่านายหญิงจะต้องทำเสื้อคลุมที่ดียิ่งกว่าให้ท่าน นายท่านจะยังเห็นของที่ผู้น้อยทำอยู่ในสายตาได้อย่างไรเจ้าคะ” เมิ่งอี๋เหนียงคอตก เสียงที่เอ่ยก็เบาลง
ภายใต้แสงจันทร์มองเห็นเพียงเรือนร่างผอมบางของนาง อีกทั้งยามนี้ก้มศีรษะพูดถ้อยคำเหล่านี้เสียงแผ่ว ดูไปก็น่าสงสารเป็นหนักหนา แม้แต่เหล็กกล้ายังอ่อนลงจนพันรอบนิ้วได้แล้ว
เจียงเทียนโย่วชมชอบสตรีที่อ่อนน้อมอ่อนหวานอยู่แต่เดิม เห็นเมิ่งอี๋เหนียงคิดเผื่อเขาทั้งใจ ดึกแล้วยังอุตส่าห์มาเด็ดดอกสายน้ำผึ้งไปต้มให้ดื่มด้วยตนเอง ยามนี้ยังได้ยินนางพูดเช่นนี้อีก ก็รู้สึกว่าเขามีความสำคัญในใจนางอย่างมาก นางเองก็ไม่อาจไม่มีเขาเช่นกัน หัวใจจึงถูกทำให้หวั่นไหวและก็อ่อนยวบ
เขาจึงกุมมือนางพลางพูดยิ้มๆ “ข้ารู้ว่าสองสามคืนนี้ข้าไม่ได้ไปเรือนเจ้า ในใจเจ้าจะต้องตำหนิข้าเป็นแน่ แต่เหยาซื่อเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ท่านแม่ก็บอกให้ข้าไปเรือนนางตลอด ข้าได้แต่เชื่อฟังทำตาม เจ้าวางใจได้ ในใจของข้ามีเจ้าเพียงผู้เดียว ใครก็สู้เจ้าไม่ได้”
เมิ่งอี๋เหนียงได้ยินแล้วในใจก็รู้สึกหวานล้ำ
จริงอยู่ว่านางอยากแย่งชิงความโปรดปรานให้ตนเอง แต่นางก็พึงใจในตัวเจียงเทียนโย่วจริงๆ ด้วย เพราะพึงใจจึงทนเห็นสตรีอื่นมาร่วมแบ่งปันกับนางไม่ได้ ดังนั้นพอเห็นไม่กี่วันมานี้เจียงเทียนโย่วเอาแต่ไปค้างที่เรือนหลิวเซียง ในใจนางก็รู้สึกราวกับมีมดนับแสนคอยกัดอยู่ตลอด
ในใจอยากให้เจียงเทียนโย่วไปที่เรือนนาง ทว่าได้ยินเขาพูดเช่นนี้ นางก็ยังคงแสดงสีหน้ายอมรับอย่างว่าง่ายออกมา “ผู้น้อยเข้าใจเจ้าค่ะ นายท่านกับนายหญิงไม่ได้พบกันหลายปี นายท่านสมควรจะไปอยู่เป็นเพื่อนนางให้มาก”
เมิ่งอี๋เหนียงมองแสงจันทร์เหนือศีรษะเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวกับเจียงเทียนโย่ว “ดึกมากแล้ว นายท่านรีบไปเถิดเจ้าค่ะ หากไปช้า นายหญิงจะต้องคอยชะเง้อมองอยู่ที่ประตูแน่นอน อย่าปล่อยให้นายหญิงรอนาน ความรู้สึกของการรอคอยนายท่านมาหาอยู่ทุกเวลาเช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย”
พูดถึงตรงนี้เสียงเมิ่งอี๋เหนียงก็เจือแววโศกาอาดูรหลายส่วน ทว่ายังคงเร่งให้เจียงเทียนโย่วไปเรือนหลิวเซียง
เจียงเทียนโย่วไม่ได้ไป กลับถามนางว่า “สองสามวันมานี้เจ้ามิใช่ชะเง้อมองว่าข้าจะมาหรือไม่มาอยู่ที่ประตูทุกวันเช่นกันหรอกรึ”