องค์ชายเก้าหยุดยืนอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้พลางขานชื่อในกระดาษทีละแผ่น เสียงกงกงที่อยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ทำหน้าที่จดบันทึก สุดท้ายก็พบว่า…น่าประหลาดแท้ เป็นเซี่ยซูจริงเสียด้วย ทั้งยังชนะอู่หลิงอ๋องไปเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
“เป็นไปไม่ได้!” องค์ชายเก้าโกรธจนสะบัดชายแขนเสื้อแล้วเดินกลับไปนั่งตามเดิม
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว
มีเพียงเว่ยอี้จือและเซี่ยซูที่สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ราวกับว่าที่ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกตน
ตอนนี้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเปราะบางยิ่ง ฮ่องเต้รู้สึกหมดสนุกแล้ว งานเลี้ยงครั้งนี้นอกจากพระองค์ไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว ยังทำให้เซี่ยซูได้หน้าไปอีก จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง ไม่ช้าก็อ้างว่าเวียนศีรษะขอตัวออกจากงานเลี้ยงไปก่อน
เซี่ยซูเห็นสถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ก็รีบกล่าวลาเช่นกัน นางเป็นถึงอัครเสนาบดี หากยังอยู่ต่อจะยิ่งทำให้คนวางหน้าไม่ติด มีแต่ทำให้องค์ชายเก้ายิ่งอารมณ์เสียมากขึ้นเท่านั้น
“ลูกหลานพวกชั้นต่ำก็ไม่รู้ธรรมเนียมเช่นนี้แหละ!” องค์ชายเก้ากล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง
เว่ยอี้จือยกจอกสุราขึ้นพลางมองตามด้านหลังเซี่ยซูที่รีบร้อนจากไป เขาเพียงยิ้มโดยไม่พูดอะไร
เซี่ยซูเดินเร็วออกมา ไม่ว่าเหล่านางกำนัลจะส่งสายตาให้มากมายเพียงไรก็ไม่คิดสนใจ นางเพิ่งพ้นจากประตูวัง มู่ไป๋ก็ตรงเข้ามาหาทันที นางรีบออกคำสั่ง “เตรียมพู่กันกับหมึกไว้ด้วย”
“ขอรับ” มู่ไป๋ไม่กล้าชักช้า เขารีบประคองผู้เป็นนายขึ้นรถ จุดตะเกียงให้ ก่อนจะหาพู่กัน กระดาษ หมึก และจานฝนหมึกมาให้อย่างพร้อมสรรพ
เซี่ยซูกางพัดออก เอากระดาษปูทับลงไปบนพัดแล้วเริ่มตวัดพู่กัน เขียนไปได้สักพักก็จะมีหยุดนึกบ้างเป็นครั้งคราว หลังจากเขียนพู่กันขยุกขยิกอยู่พักใหญ่แล้วจึงได้หยุดมือ
“เอาล่ะ คัดลอกชื่อที่ข้าเขียนไว้ออกมา”
มู่ไป๋รับกระดาษมา จนถึงตอนนี้จึงค่อยกล้าเอ่ยถาม “คุณชายรีบร้อนเพียงนี้ เขียนอะไรไว้หรือขอรับ”
“ก็ข้าร้อนใจน่ะสิ เวลากระชั้นชิดมาก เกรงจะหลงลืมสิ่งที่จดจำเอาไว้” นางกางพัดจีบออกโบกไปมา หัวใจที่เต้นรัวค่อยๆ สงบลง
วันนี้ฉวยโอกาสตอนที่องค์ชายเก้าเสนอให้มีการหยั่งเสียง นางก็ลอบจดจำตำแหน่งที่นั่งของขุนนางทั้งหลายเอาไว้ ซึ่งนางกำนัลจะคอยเดินเก็บใบเสนอชื่อตามลำดับ ยามที่องค์ชายเก้าขานชื่อก็ทำตามลำดับเช่นเดียวกัน ขอเพียงสามารถเทียบชื่อที่ขานกับตำแหน่งที่นั่งของคนเหล่านั้นได้ นางก็จะรู้ว่าใครบ้างที่เลือกนาง และใครบ้างที่ไม่ได้เลือก…
หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนของสกุลเซี่ยก็ไม่มีอะไรให้ว่ากล่าวได้ แต่หากเป็นคนของสกุลเซี่ยแต่ไม่เลือกนาง เช่นนั้นคงต้องจัดการกับพวกเขาบ้างแล้ว
เซี่ยซูหลับตาคิดคำนวณในใจอย่างถี่ถ้วน ทันใดนั้นก็ตกตะลึง นางหยิบกระดาษในมือมู่ไป๋มาดูแล้วดูอีก มุมปากถึงกับกระตุก “ไม่น่าเป็นไปได้กระมัง…”
เว่ยอี้จือเลือกข้า?!
นี่…ความจำของข้าเพี้ยนไปแล้วหรือไร!