ทดลองอ่าน อัครเสนาบดีหญิง บทที่ 1 – บทที่ 2 – หน้า 13 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อัครเสนาบดีหญิง บทที่ 1 – บทที่ 2

13 of 13หน้าถัดไป

เซี่ยซูเลิกม่านรถแล้วลงมา นางเดินไปยังข้างรถของเว่ยอี้จือแล้วเอ่ยว่า “เคยได้ยินมาว่าสกุลเว่ยแห่งเหอตงมีชายรูปงามหลายคน วันนี้ได้ร่วมเดินทางด้วยกัน ข้าก็เชื่อว่าจริง อู่หลิงอ๋องช่างรูปงามจนทั่วหล้าหวั่นไหว มีหรือจะไม่ได้รับผลแตงมากำนัลจนเต็มรถเช่นนี้”

เว่ยอี้จือก็ลงจากรถเช่นเดียวกัน ชุดขุนนางราชสำนักสีดำปักลายงดงามบนร่างเขายิ่งขับให้ตัวเขาดูสูงส่ง เขายิ้มแย้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ยว่า “ท่านอัครเสนาบดีกล่าวผิดไปแล้ว ข้าน่ะหรือจะเทียบกับท่านได้”

ทั้งสองต่างผลัดกันเอ่ยชมไปมาอย่างเสแสร้ง ทันใดนั้นสีหน้าเซี่ยซูก็มีแววละอายพาดผ่าน นางกระแอมทีหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นบนรถท่านมีทับทิมกับหลี่จื่อ มากมาย พูดไปก็น่าอายนัก ของที่ข้าชอบมีน้อยอย่าง จำเพาะต้องมาชอบกินสองสิ่งนี้ ไม่ทราบว่า…”

เว่ยอี้จือหัวเราะเบาๆ ก่อนเอ่ยขึ้นในทันที “ฝูเสวียน เลือกทับทิมกับหลี่จื่อบนรถไปใส่ไว้ในรถม้าอัครเสนาบดีด้วย”

ฝูเสวียนนิ่วหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนไปทำตามคำสั่งแต่โดยดี

ไม่นานนัก ชาวบ้านที่แอบตามพวกเขามาเงียบๆ ก็นำเรื่องที่เห็นนี้ไปขยายความต่อ

“นี่ พวกเจ้าอย่าเอาแต่ทะเลาะกันดีกว่า ยามนี้แม้แต่อู่หลิงอ๋องยังยกผลไม้ของตัวเองให้ท่านอัครเสนาบดีเลย นั่นก็หมายความว่าอู่หลิงอ๋องยอมยกธงยอมแพ้แล้ว!”

“ฮ่าๆๆๆ เช่นนั้นท่านอัครเสนาบดีของข้าก็เป็นชายงามอันดับหนึ่งของต้าจิ้นเรา!” ฝ่ายที่สนับสนุนเซี่ยซูพากันได้ใจ

“ไม่ใช่ๆๆ! ข้าไม่เชื่อหรอก!” ผู้ที่สนับสนุนเว่ยอี้จือถึงกับหมดสติไปสามคน

หลังจากทั้งสองฝ่ายบอกลากันอยู่พักใหญ่ ฝูเสวียนก็กระซิบถามเว่ยอี้จือผ่านม่านกั้น “จวิ้นอ๋อง เหตุใดท่านต้องอ่อนน้อมต่ออัครเสนาบดีด้วยเล่า เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขากำลังวางอุบายหาทางเอาชนะท่าน”

“ช่างเถอะ เดิมทีการแข่งขันนี้ข้าก็แสร้งเกริ่นขึ้นมาอย่างนั้นเอง ชายชาตรีหยัดยืนระหว่างฟ้าดิน ไยต้องอาศัยเพียงหน้าตา” ทันใดนั้นเว่ยอี้จือก็หัวเราะเบาๆ “แต่อัครเสนาบดีผู้นี้ก็น่าสนใจจริงๆ”

 

ฝ่ายเซี่ยซูที่ดูน่าสนใจผู้นี้ พอกลับถึงจวนแล้วก็นั่งอยู่หลังโต๊ะตั้งอกตั้งใจกินทับทิม มู่ไป๋แกะเปลือกทับทิมให้พลางพูดอย่างกระหยิ่มใจ “บ่าวก็ว่าอู่หลิงอ๋องผู้นั้นเทียบคุณชายไม่ได้หรอก”

เซี่ยซูเบ้ปากอย่างไม่แยแส “อย่าได้พูดจาโอ้อวดเกินไปนัก ในมือเขามีกำลังทหารมากมายเพียงนี้แต่ก็ยังได้รับความชื่นชมจากฝ่าบาทถึงขั้นนี้ได้ คุณชายอย่างข้านึกชื่นชมเขาจริงๆ”

มู่ไป๋กลอกตาใส่อย่างดูแคลน

ในลานบ้านจุดไฟแล้ว พ่อบ้านชราเดินมาถึงหน้าห้องหนังสือ มองเมินกองเปลือกทับทิมราวกับไม่เห็นแล้วเอ่ยรายงาน “คุณชาย มีคนรับใช้จากจวนต้าซือหม่าเอาของมาส่งให้ท่านขอรับ”

“หืม?” เซี่ยซูลุกขึ้นจากหลังโต๊ะ “เอามาดูซิ”

มู่ไป๋รีบเดินไปรับที่ปากประตูทันที ที่แท้ก็เป็นชุดสีขาวชุดหนึ่ง เขาหยิบออกมาดูแล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า “คุณชาย นี่เป็นชุดลำลองที่ท่านสวมไปงานเลี้ยงวันนั้นมิใช่หรือขอรับ”

เซี่ยซูรับมาดู ชุดของข้าจริงด้วย

ตอนนั้นพอนางเห็นชุดเนื้อผ้าธรรมดานี้ก็รู้แล้วว่าอู่หลิงอ๋องจงใจชูเรื่องชาติกำเนิดมาตั้งข้อรังเกียจนาง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนางจึงจงใจทิ้งชุดที่ขาดชุดนี้เอาไว้ ดูเผินๆ เหมือนลืมไว้ แต่ที่จริงเป็นการ ‘ให้ของขวัญตอบแทน’ ต่างหาก

เซี่ยซูหยิบชุดที่ตั้งใจใช้เป็นของขวัญตอบแทนขึ้นมาดูอย่างละเอียด แล้วก็ต้องตกตะลึง

ชายชุดที่ถูกกระบี่แทงจนขาดถูกเย็บติดกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว ตรงที่ผ้าเย็บต่อกันใช้ดิ้นทองคำปักเป็นลวดลายไว้ ดูแล้วประณีตงดงามยิ่ง

“คนที่มาพูดอะไรบ้าง”

พ่อบ้านเอ่ย “คนที่มาบอกว่าอู่หลิงอ๋องกำชับด้วยตนเองว่าต้องส่งเสื้อผ้าให้ถึงมือคุณชาย ดิ้นทองที่ใช้ปักลายนี้เป็นสินสงครามที่ได้จากการสู้รบกับแคว้นถู่อวี้หุน ถือเสียว่าเป็นสิ่งตอบแทนของกำนัลของท่านก็แล้วกัน”

เซี่ยซูรู้สึกขบขันยิ่ง “แต่เขาไม่ได้รับของกำนัลของข้านี่”

“อู่หลิงอ๋องบอกว่านั่นเป็นลาภที่มิควรได้ แต่เสื้อผ้าชุดนี้เขาทำขาดเองกับมือ ย่อมต้องส่งคืนในสภาพสมบูรณ์”

เซี่ยซูพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เขามีความคิดละเอียดอ่อนมากทีเดียว”

นางทำเสียงจึ๊กจั๊กสองทีขณะนึกย้อนกลับไป งานเลี้ยงวันนั้น เว่ยอี้จือเริ่มต้นด้วยการทำให้นางขายหน้าก่อนแท้ๆ จู่ๆ ก็มามอบของกำนัลให้ตามหลังเสียอย่างนั้น นี่แสดงให้เห็นว่าศัตรูผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใช้อุบายอย่างหนึ่ง ทว่าต่อมาก็ใช้อีกอุบายแล้ว ทำเอานางงุนงงสับสนว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ หากนางไม่ควบคุมสติของตนเองให้ดี นางอาจกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจนทำอะไรผิดพลาดได้

เซี่ยซูหยิบเสื้อผ้าส่งให้มู่ไป๋ นางเพิ่งจะนั่งลงกินทับทิมต่อ พ่อบ้านที่เพิ่งเดินออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้ง

“คุณชาย คุณชายขอรับ แย่แล้ว บ่าวชราเพิ่งทราบข่าวมาว่าคุณชายหร่านเกิดคิดสั้นเสียแล้วขอรับ!”

เซี่ยซูถึงกับสำลักทับทิมที่กินเข้าไป นางไอแค่กๆ อยู่นาน ได้แต่บ่นอุบในใจ คุณชายหร่านนี่ใครกัน

 

โปรดติดตามตอนต่อไป…

13 of 13หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com