ทดลองอ่าน เกิดใหม่อีกที ไม่ขอสามีสกุลหลี่ บทที่ 5 – บทที่ 6 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เกิดใหม่อีกที ไม่ขอสามีสกุลหลี่ บทที่ 5 – บทที่ 6

เวลานั้นมารดาของหลี่ซิวหยวนจึงได้ตอบตกลงเรื่องการแต่งงานนี้ หลังจากนั้นเสิ่นหยวนก็พักอยู่ที่บ้านท่านตามาโดยตลอด จนกระทั่งไว้ทุกข์ให้มารดาครบหนึ่งปีแล้ว นางถึงได้กลับเมืองหลวง พักอยู่ที่บ้านได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็แต่งออกไปจวนสกุลหลี่

นึกถึงเรื่องเหล่านี้เมื่อชาติก่อนขึ้นมาเสิ่นหยวนก็ให้รู้สึกสะท้อนใจเหลือเกิน ยังจำได้ว่าสองวันหลังจากนางเกิดใหม่ในชาตินี้ ท่านตาได้ให้คนเรียกนางไปที่ห้องหนังสือของเขา

ทั้งชีวิตท่านตามีเพียงบุตรชายหนึ่งคน บุตรสาวสองคน โชคร้ายที่ท่านยายจากไปเร็ว หลังจากนั้นบุตรชายก็สิ้นใจตามไปอีก เหลือหลานชายไว้ให้เพียงคนเดียว บุตรสาวทั้งสองยามนี้ก็สิ้นใจไปหนึ่งคนแล้ว ในใจคนชราอย่างเขาย่อมจะโศกเศร้าระทมใจเป็นธรรมดา

ยามเสิ่นหยวนได้พบท่านตาก็รู้สึกว่าเวลาสั้นๆ เพียงวันสองวันนี้เขาคล้ายจะแก่ลงไปไม่น้อย

ท่านตาเห็นนางมาถึงก็กล่าวขึ้นว่า ‘ก่อนมารดาเจ้าจากไปได้เขียนจดหมายมาให้ข้าฉบับหนึ่ง ข้าเพิ่งจะได้รับเมื่อวาน’

ท่านตาพูดถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจ ‘มารดาเจ้าบอกไว้ในจดหมายว่าหากในใจเจ้ายังคะนึงถึงหลี่ซิวหยวนผู้นั้นอยู่ จะแต่งกับเขาให้ได้ นางก็จะให้ข้าพยายามจนสุดกำลังเพื่อช่วยทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ข้าเรียกเจ้ามาตอนนี้ก็ด้วยอยากถามเจ้าถึงเรื่องนี้ เจ้ายังอยากแต่งให้หลี่ซิวหยวนผู้นั้นอยู่หรือไม่’

เสิ่นหยวนย่อมไม่อยากแต่ง

ชาติก่อนพอแต่งให้หลี่ซิวหยวนแล้ว นางถึงได้รู้ว่าที่แท้ผู้ที่ในใจเขาชอบมาตลอดคือเซี่ยเจินเจิน บุตรสาวของอาจารย์เขา พอนางแต่งไปเช่นนั้นก็เป็นการแยกพวกเขาสองคนออกจากกัน และสุดท้ายตนเองก็ไม่มีจุดจบที่ดี

นางกล่าวขอบคุณในความหวังดีของท่านตา ก่อนจะยืนกรานปฏิเสธ หลังจากนั้นท่านตาก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ทว่าตอนนี้บิดากลับเอ่ยถึงมันขึ้นมาอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้มีคนพูดเรื่องนี้ต่อหน้าบิดาไม่หยุด ทำให้ในใจบิดายิ่งขุ่นเคืองนางกระมัง ทว่านับแต่นางได้กลับมาเกิดใหม่ก็ให้คนส่งพวกคุณธรรมสตรี ตำราสอนหญิง รวมถึงพระสูตรที่นางคัดลอกเองมาให้บิดาเป็นประจำ ใช้สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านางสำนึกผิดจากใจจริงแล้ว ซ้ำยังเย็บพวกถุงเท้า สนับเข่าจำนวนหนึ่งให้คนส่งมาให้บิดาด้วย

แน่นอนว่าแรกๆ นางเย็บปักได้แย่ยิ่ง หลังได้เรียนจากฉางหมัวมัวถึงได้ค่อยๆ ดีขึ้น ทว่านางรู้สึกว่าต่อให้งานที่ตนทำแรกๆ นั้นย่ำแย่เพียงไรก็ยังควรให้คนส่งของที่ตนทำมาให้บิดา หลังจากนั้นฝีมือนางเริ่มค่อยๆ ดีขึ้น จึงยิ่งควรส่งของที่ตนทำเหล่านั้นมาให้บิดาอีก

แม้ของที่นางทำล้วนเป็นของชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ยังคงมีข้อดี ประการแรก…การทำเช่นนี้สามารถแสดงให้เห็นว่าในใจบุตรสาวอย่างนางมีบิดาอย่างเสิ่นเฉิงจางอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นห่วงเป็นใยว่าเขาจะหนาวจะร้อนหรือไม่ด้วย ส่วนประการที่สองซึ่งสำคัญที่สุดคือนางทำเช่นนี้ก็เท่ากับให้บิดาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในทุกวันของนาง

ช่วงเวลานั้นนางสงบใจลงได้และอ่านหนังสือเกี่ยวกับหลักสามเชื่อฟัง* สี่คุณธรรมของสตรีที่เมื่อก่อนนางไม่คิดจะอ่านที่สุด ทั้งภาวนาขอพรให้มารดาจากใจ คัดพระสูตรทุกวัน และนางยังเรียนเย็บปักถักร้อยจนเป็น เหล่านี้ล้วนเป็นการแสดงท่าทีว่าตนเองสำนึกผิดแล้วให้เสิ่นเฉิงจางเห็น

บางครั้งการกระทำก็มีพลังในการสั่นคลอนใจคนได้มากกว่าคำพูดใดๆ

และก็เป็นไปตามคาด บิดาเห็นคุณธรรมสตรี ตำราสอนหญิง และพระสูตรที่นางคัด รวมถึงได้รับบรรดาถุงเท้า สนับเข่าที่นางทำกับมือแล้วก็ถึงกับตอบจดหมายนางอย่างหาได้ยาก แม้ถ้อยคำในจดหมายยังคงรุนแรงยิ่ง แต่นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว

น่าเสียดาย หลังจากจดหมายฉบับนั้นบิดาก็ไม่ส่งจดหมายมาอีก เสิ่นหยวนเดาว่าน่าจะเพราะมีคนพบว่าบิดาเขียนจดหมายให้นาง จึงไปพูดบางอย่างจนทำให้บิดาขุ่นเคืองนางต่อ ฉะนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุว่าเพราะอะไรชาตินี้เสิ่นหยวนถึงกลับเมืองหลวงมาก่อนกำหนด

ชาติก่อนข้ารอจนผ่านช่วงไว้ทุกข์ให้มารดาไปแล้วถึงค่อยเดินทางจากฉางโจวกลับมาเมืองหลวง

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าชาตินี้การกลับมาก่อนล่วงหน้าจะทำให้ได้พบกับหลี่ซิวเหยาระหว่างทาง ไม่รู้เหมือนกันว่านี่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่

เสิ่นหยวนโยนความคิดที่ผุดขึ้นมากะทันหันในสมองนี้ทิ้งไป ก่อนจะร้องไห้พูดอีกว่า “ท่านพ่อ ลูกสำนึกผิดและปรับปรุงตัวแล้ว เกือบหนึ่งปีมานี้ลูกให้คนส่งคุณธรรมสตรี ตำราสอนหญิง และพระสูตรเหล่านั้นมาให้ท่าน ซ้ำยังมีงานเย็บปักเหล่านั้นอีก ลูกไม่เชื่อหรอกว่าในใจท่านพ่อจะไม่ทราบ”

เสิ่นหยวนรู้ว่าแม้ภายนอกเสิ่นเฉิงจางจะดูเคร่งครัดเข้มงวด แต่อันที่จริงเป็นคนหูเบา ไม่ค่อยมีความคิดเป็นของตนเอง ผู้อื่นพูดอะไรต่อหน้าเขาบ่อยมากหน่อยก็ทำให้เปลี่ยนใจได้ทันที

และก็เป็นไปตามคาด พอเสิ่นเฉิงจางเห็นเสิ่นหยวนร้องไห้จนมีคราบน้ำตาเปรอะเต็มหน้า ซ้ำปากยังพูดคำเหล่านี้ออกมา เพลิงโทสะที่เพิ่งลุกพึ่บขึ้นในใจเขาก็สลายไปทันใด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com