“ท่านราชครู…ต้องจัดงานฉลองวันเกิดให้ท่านไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงมาสร้างโรงเรือนดอกไม้ให้ข้าแทนเล่า” เนี่ยชิงหลินดึงสติตนเองกลับมาจากทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของดอกไม้บานสะพรั่งท่ามกลางสายหมอกที่ปกคลุมราวกับแดนสวรรค์และแสงเรืองรองรายรอบตรงหน้าได้อย่างยากเย็น เอ่ยถามด้วยความสะเทิ้นอายอยู่สักหน่อย
ราชครูเว่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “องค์หญิงยังทรงจำได้ด้วยหรือว่าเป็นวันเกิดของกระหม่อม ทรงเตรียมของขวัญวันเกิดไว้แล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” เนี่ยชิงหลินกำลังคิดจะพูด แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นแถบรัดเอวที่คาดอยู่ที่เอวของราชครูเว่ยเข้าโดยไม่รู้ตัว เมื่อครู่นี้ท่านราชครูสวมเสื้อคลุมไหล่อยู่ นางจึงไม่ทันได้สังเกต แต่พอเข้ามาในโรงเรือนดอกไม้ได้สักพักก็เริ่มรู้สึกร้อน ทั้งสองจึงปลดเสื้อคลุมออก นางจึงเห็นแถบรัดเอวนั่นทันที
นั่นคือแถบรัดเอวที่มีพื้นเป็นสีดำ ปักลวดลายด้วยดิ้นทองฝังแผ่นหยก งานปักที่ดูมีชีวิตชีวาทำให้แถบรัดเอวนี้ดูโดดเด่นไปทั้งเส้นเลยทีเดียว ที่หางของมังกรวารีที่เกี่ยวกระหวัดพันกันอยู่นั้นมีการปักลายที่ลอยเด่นออกมาอย่างละเอียดประณีต เดิมทีเนี่ยชิงหลินไม่เข้าใจในเรื่องพวกนี้ แต่พอได้รับคำชี้แนะจากเสิ่นฮองเฮาถึงได้กระจ่างว่านี่เป็นรูปแบบการปักซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรีช่างปักฝีมือดีทั้งหลายในเมืองหลวง โดยจะปักชื่อของผู้ปักลายแบบกลับด้านเอาไว้ ซึ่งบุรุษทั่วไปมักไม่ค่อยสังเกตเห็น แต่แท้จริงแล้วนี่คือสิ่งที่สตรีซ่อนความรู้สึกของตนไว้ในผลงาน ให้ติดตัวอยู่บนกายของชายหนุ่มตลอดเวลานั่นเอง
การปักกลับด้านบนแถบรัดเอวราชครูเว่ยที่ดูแล้วคือตัวอักษรคำว่า ‘หวั่น’ นั้นน่าจะเป็นฝีมือการปักของนายหญิงสามหรงหวั่นเหนียงแห่งจวนสกุลเว่ย ตอนที่ร่วมเย็บรองเท้าอวยพรกับเหล่าฮูหยินทั้งหลายด้วยกันเมื่อคราวก่อนก็ได้ยินพวกที่ปากมากช่างจำนรรจาพูดถึงอยู่ว่านายหญิงสามแห่งจวนสกุลเว่ยมีฝีมือการเย็บปักถักร้อยอันยอดเยี่ยม งานปักจำนวนมากมายหลายชิ้นบนตัวของท่านเว่ยโหวก็เป็นผลงานจากฝีมืออันประณีตของนาง ส่งผลให้สตรีในเมืองหลวงต่างพากันเลียนแบบรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นนั่นกันเป็นแถว
ดูจากสีสันอันสดใสของแถบรัดเอวนั้นแล้ว เหมือนว่ายังไม่เคยโดนน้ำมาก่อน น่าจะเพิ่งปักเสร็จได้ไม่นาน ขนาดเนี่ยชิงหลินปักมังกรวารีที่เกล็ดหลุดเส้นด้ายกระโดดแค่ตัวหนึ่งเท่านั้นยังต้องจดจ่ออยู่กับมันตั้งหลายวันหลายคืน แล้วแถบรัดเอวที่อยู่บนตัวท่านราชครูซึ่งปักอย่างประณีตวิจิตรงดงามกว่าของนางเป็นพันเท่าเส้นนั้นต้องใช้เวลานานถึงเพียงใดกันถึงจะปักออกมาได้อย่างนี้…
แล้วไยข้าต้องอวดผลงานปักบิดๆ เบี้ยวๆ นั่นด้วยเล่า
ครั้นคิดดังนี้เนี่ยชิงหลินก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในฝีมือตนเอง จึงกลืนถ้อยคำที่กำลังจะหลุดออกจากปากกลับเข้าไปทีละนิดๆ ก่อนเปิดปากเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าคิดแล้วคิดอีก รู้สึกว่าท่านราชครูมีของพร้อมหมดทุกอย่าง ไม่ได้ขาดอะไรทั้งนั้น เลยไม่รู้จริงๆ ว่าควรเตรียมอะไรให้ดี…”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเว่ยเหลิ่งเหยาหม่นหมองลงแวบหนึ่ง นางไม่ได้เตรียมอะไรให้เลยจริงๆ หรือ นี่เป็นการลืมไปชั่วขณะหรือว่าไม่ได้ใส่ใจเขาเลยสักนิดกันแน่
แต่เกิดเป็นบุรุษย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้อยู่แล้ว ความคิดที่ทำให้ไม่สบายใจจึงผุดขึ้นมาเพียงแวบเดียวแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว “โรงเรือนดอกไม้ที่กระหม่อมออกแบบเองนี้เป็นที่ถูกพระทัยดึงดูดสายพระเนตรขององค์หญิงได้ รอยยิ้มขององค์หญิงเมื่อครู่นี้ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขาพูดพลางจูงมือเล็กของเนี่ยชิงหลินไว้ แล้วพาไปเดินชมดอกไม้นานาพันธุ์ในโรงเรือนดอกไม้แห่งนี้
เนื่องจากคืนนี้เนี่ยชิงหลินมีเรื่องให้ครุ่นคิดในใจ จึงกินอาหารไปไม่มากเท่าไร ไม่นานท้องของนางก็เริ่มร้องดังสะท้อนไปทั่ว ‘ดินแดนเทพเซียนแสนอัศจรรย์’ อย่างชัดเจน ทำเอาแก้มขององค์หญิงหย่งอันแดงสุกปลั่งราวกับลูกตำลึงก็ไม่ปาน ราชครูเว่ยพูดกลั้วหัวเราะว่า “บรรดาขุนนางข้าราชสำนักล้วนไม่ประหยัดกันแล้ว เหตุใดองค์หญิงจึงยังทรงใช้ชีวิตอย่างประหยัดทั้งฉลองพระองค์ทั้งพระกระยาหารอยู่อีกเล่าพ่ะย่ะค่ะ ไปเถิด ไปเสวยอะไรรองท้องยามดึกเป็นเพื่อนกระหม่อมดีกว่า”
เนื่องจากเมื่อครู่ในสวนดอกไม้ร้อนอบอ้าว จึงปลดผ้าคลุมขนสัตว์ออกไป แต่พอออกมาด้านนอกแล้วเจออากาศเย็นเข้า ราชครูเว่ยเกรงว่าเนี่ยชิงหลินจะเจออากาศที่ประเดี๋ยวร้อนประเดี๋ยวหนาวอย่างปุบปับแล้วจะจับไข้เอาได้ จึงเอาเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ของตนมาห่มให้นาง แล้วรวบตัวนางอุ้มขึ้นรถม้าไป
พอกลับมาถึงตำหนักเฟิ่งฉู ซั่นหมัวมัวได้เตรียมอาหารและสุราไว้คอยท่าแล้ว เพียงรอให้คนทั้งสองนั่งประจำที่ เนื่องจากเป็นของว่างรองท้องยามดึก อาหารในจานเล็กจึงถูกจัดอย่างประณีตละเอียดลออทั้งสิ้น ราชครูเว่ยไม่ได้ขยับตะเกียบคีบอาหารเข้าปาก แต่กลับคอยคีบอาหารมาให้เนี่ยชิงหลินอยู่เรื่อยๆ ราชครูเว่ยเป็นเจ้าของวันเกิดแท้ๆ แต่คืนนี้กลับต้องมาคอยดูแลเอาใจใส่ข้าอีก เนี่ยชิงหลินรู้สึกว่าผิวหน้าบอบบางของตนเริ่มทนไม่ได้เสียแล้ว จึงคิดในใจว่า พรุ่งนี้ต้องตั้งใจคิดหาวิธีตอบแทนและเตรียมของขวัญที่เหมาะสมให้ท่านราชครูอย่างจริงจังให้จงได้