ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 84-85
ทว่าราชครูเว่ยกลับไม่ได้คิดมากถึงเพียงนั้น ช่วงนี้งานรัดตัวยิ่งนักจนไม่ได้มาหากั่วเอ๋อร์ที่นี่นานพอดูเลยทีเดียว ของขวัญที่หญิงสาวเตรียมมอบให้อย่างจริงใจย่อมสู้การได้ใช้เวลายามค่ำคืนร่วมกันอย่างอบอุ่นบนเตียงมิได้
จนกระทั่งกั่วเอ๋อร์กินอาหารว่างมื้อดึกเสร็จและบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ราชครูเว่ยจะเริ่มมื้ออาหารของตนได้เสียที เนื่องจากคนงามผู้นี้ถูกอุ้มออกจากเตียงไปยังโรงเรือนดอกไม้จึงประหยัดเวลาในการชำระกายลงไป ต่อให้เปลื้องชุดออกก็ยังสามารถได้กลิ่นหอมรวยรินของดอกไม้ในโรงเรือนที่ติดตัวมา
อาจเป็นเพราะไม่ได้เตรียมของขวัญอวยพรวันเกิดไว้ให้ เนี่ยชิงหลินจึงจำต้องมอบของขวัญทรงคุณค่าสุดพิเศษให้แทน องค์หญิงเก็บงำความเขินอายไว้ในใจ ที่ผ่านมาเพียงพลิกแพลงท่าทางเล็กๆ น้อยๆ นางก็เอียงอายจนหน้าแดงเม้มปากน้อยๆ ด้วยความเคอะเขินแล้ว แต่วันนี้ถึงใบหน้าของนางจะแดงเรื่อจรดลำคอ ทว่ากลับโอนอ่อนผ่อนตามอย่างนุ่มนวลแต่โดยดี หญิงงามเปี่ยมเสน่ห์เช่นนี้มีหรือที่ชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความรักร้อนแรงจะอดใจไหว
หลังจากค่ำคืนอันดื่มด่ำผ่านไป พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเนี่ยชิงหลินก็เหนื่อยล้าจนรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว จึงขดตัวอยู่ในผ้าห่มไม่ยอมลุกขึ้น ราชครูเว่ยต้องไปประชุมราชสำนักเช้า จึงกอดเจ้าลูกแมวขี้เซาแล้วจูบเบาๆ อีกสองสามหนก่อนจะลุกขึ้น
ขณะที่ซั่นหมัวมัวช่วยราชครูเว่ยเปลี่ยนชุดอยู่ด้านนอกนั้น นางก็ถือโอกาสถามขึ้นว่า “ท่านราชครูไม่คาดแถบรัดเอวที่องค์หญิงทรงปักให้เองกับมือหรือเจ้าคะ”
มือที่กำลังแต่งกายของราชครูเว่ยถึงกับชะงักทันทีพลางเลิกคิ้วถาม “องค์หญิงทรงปักแถบรัดเอวรึ”
ซั่นหมัวมัวขมวดคิ้วด้วยความกังวลใจ รู้สึกว่าตนเองพูดมากเกินไปเสียแล้ว หากองค์หญิงไม่พูด แสดงว่าอาจจะอยากให้ราชครูเว่ยประหลาดใจแกมยินดีก็เป็นได้กระมัง
แต่ด้วยคำพูดเปรยๆ ของซั่นหมัวมัว ราชครูเว่ยก็นึกเอะใจ ในไม่ช้าก็พบกล่องผ้าไหมใบหนึ่ง พอเปิดออกดูก็เห็นแถบรัดเอวสีขาวที่น่าจะพรมน้ำปรุงจากดอกไม้กลิ่นหอมจรุงใจแตะจมูกอยู่ภายในกล่องนั้น พอหยิบแถบรัดเอวเส้นนั้นอย่างเบามือ เล็บก็ไปเกี่ยวถูกด้ายที่ฝีเย็บกระโดดเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
ครั้นคลี่แถบรัดเอวออก ราชครูเว่ยที่ดูอยู่เป็นนานกว่าจะเข้าใจได้ก็รำพึงในใจ ปักได้ไม่เลวเลยจริงๆ! เป็นมังกรวารีที่มีหัวมีหางครบถ้วนสมบูรณ์ตัวหนึ่งเสียด้วย! ที่ปลายหางมังกรมีปมด้ายสีแดงพันกันเป็นลูกกลมๆ อยู่กลุ่มหนึ่ง หากสังเกตดีๆ ดูเหมือนผลไม้ที่ยังไม่สุกอีกต่างหาก ริมฝีปากเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมาพร้อมกับถอดแถบรัดเอวบนตัวออกโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี แล้วนำแถบรัดเอวที่องค์หญิงปักไว้มาคาดทับบนเสื้อคลุมชุดขุนนางของตนแทน เขายืนหมุนตัวอยู่หน้าคันฉ่องส่องไปมาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงย่องกลับเข้าไปในห้องด้านใน จับมือนุ่มเนียนที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่มขึ้นมาดู พอเห็นปลายนิ้วที่มีรูเข็มเล็กๆ มากมายหลายจุด ราชครูเว่ยถึงกับขมวดคิ้วแน่น พลอยเจ็บปวดไปกับยอดดวงใจสุดที่รักด้วย! ต่อไปต้องให้องค์หญิงอยู่ให้ห่างจากงานเย็บปักถักร้อยพวกนี้เสียหน่อยแล้ว งานที่เปลืองเรี่ยวแรงต้องใช้สมาธิอย่างมากจนเหนื่อยล้าทั้งกายใจเช่นนี้ควรทำให้น้อยที่สุดเป็นการดี
แต่เมื่อคิดถึงภาพที่โฉมงามจุดตะเกียงนั่งเย็บของขวัญให้ตนแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย อดที่จะรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาไม่ได้ ราชครูเว่ยผู้สง่างามราวกับเทพเซียนจึงนั่งอยู่ข้างเตียง กุมมือเล็กข้างหนึ่งของเจ้าแมวน้อยขี้เซาที่หลับสนิทอยู่พลางยิ้มกว้างราวกับตกอยู่ในภวังค์เช่นนี้อยู่พักใหญ่
หากมิใช่เพราะเช้านี้มีเรื่องสำคัญต้องหารือกัน ราชครูเว่ยก็ออกจะเหนื่อยหน่ายกับการประชุมราชสำนักเช้าอยู่เหมือนกัน จนใจที่งานบ้านเมืองรัดตัวรอให้เขาไปสะสาง สุดท้ายก็ต้องไปจนได้
ประตูไม้ขนาดใหญ่และหนักของวังหลวงเปิดออกอย่างช้าๆ บรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหลายเดินเรียงแถวเป็นสองแถวทยอยเข้าสู่ด้านในจนถึงท้องพระโรงอย่างเป็นระเบียบ พักนี้พระพลานามัยของฮ่องเต้ไม่ใคร่สมบูรณ์แข็งแรงดีนัก บัลลังก์มังกรจึงว่างเปล่า หลังจากเหล่าขุนนางเข้าประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว ราชครูเว่ยจึงนั่งลงบนเก้าอี้มังกรวารีของตน
เพียงแต่ครั้งนี้การแต่งกายของราชครูเว่ยออกจะผิดแผกไปจากเดิมอยู่สักหน่อย ชุดราชสำนักสีดำเรียบหรูประดับด้วยลวดลายทองถึงแม้จะไม่หรูหราเท่าชุดลำลอง แต่กลับทำให้ราชครูเว่ยดูสุขุมสง่างาม ทว่า…แถบรัดเอวสีขาวนี่คืออะไรกันแน่! โดยปกติแล้วราชครูเว่ยจะคาดแถบรัดเอวที่มีสีเดียวกันกับชุด ซึ่งดูกลมกลืนเข้ากันดีมาโดยตลอด ทว่าคราวนี้กลับคาดแถบรัดเอวสีขาวอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนซึ่งดูไม่เข้ากันกับชุดราชสำนักสีดำเอาเสียเลย! หรือนี่เป็นการจับคู่การแต่งกายแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ
อยากดูดีมีเสน่ห์ต้องยึดมั่นในความกตัญญู จะว่าไปแล้วสีขาวก็ไม่ได้แย่ ตัดกับสีดำอย่างโดดเด่นชัดเจน แม้จะข่มความสง่างามลงไปบ้างแต่ก็ถือว่ายอมรับได้
แต่แถบรัดเอวนี้ปักลวดลายมังกรวารีตัวหนึ่งซึ่งยื่นหัวออกไปคาบไข่มุกมังกรไว้เม็ดหนึ่งด้วย…แต่ไข่มุกมังกรควรจะต้องกลมกว่านี้หรือไม่! แต่นี่จะเหลี่ยมก็ไม่ใช่จะกลมก็ไม่เชิง ยังดูเหมือนขาดไปเสี้ยวหนึ่ง หากไม่จับคู่กับมังกรวารีก็คงคาดเดาไม่ออกจริงๆ ว่านี่คือไข่มุกมังกรเม็ดหนึ่ง ตัวมังกรปักด้วยด้ายสีทองทั้งตัว ลำตัวมังกรท่อนบนเย็บประดับด้วยไข่มุกอย่างสะเปะสะปะ ส่วนลำตัวท่อนล่างกลับเปลือยเปล่าไม่มีลวดลายอะไรทั้งสิ้น ดูแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นงานของพวกมือใหม่
แถบรัดเอวสีขาวนี้เปรียบเสมือนวงกลมสีดำที่วาดลงบนใบหน้าของหญิงสาว ซึ่งโดดเด่นสะดุดตายิ่งนักเมื่ออยู่ต่อหน้าขุนนางทุกคนอย่างหาใดเปรียบได้ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือการแต่งกายของราชครูเว่ยผู้สง่างามราวกับเทพเซียนผู้นี้จริงๆ
ราชครูเว่ยไม่แยแสต่อเหล่าขุนนางที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าตกตะลึงเลยสักนิด ออกจะภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำไป ประเดี๋ยวก็เอื้อมมือไปแตะแถบรัดเอวสีขาวนั่น อัครมหาเสนาบดีชิวหมิงเยี่ยนเบนสายตาไปทางอื่นอย่างแข็งทื่อเพื่อสงบจิตใจ ก่อนจะอ่านรายงานฎีกาต่อราชครูเว่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ยังรายงานฎีกาไม่ทันจบ จู่ๆ เสียงกรุ๊งๆ กริ๊งๆ ที่สดใสกังวานก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน ชิวหมิงเยี่ยนและขุนนางทั้งหลายมองตามเสียงนั้นไป แล้วก็เห็นว่าขณะที่ราชครูเว่ยลุกขึ้นยืนเพื่อบิดเอวให้สบายตัวสักหน่อยเมื่อครู่นี้นั้น ไข่มุกหลายเม็ดก็ร่วงกราวออกจากเส้นด้ายที่เย็บไว้กระเด็นกระดอนตกลงมากระทบกับพื้น…
ราชครูเว่ยลูบแถบรัดเอวด้วยความปวดใจ สั่งให้ขุนนางทั้งบุ๋นทั้งบู๊ช่วยกันก้มหาไข่มุกด้วยสีหน้ามืดมน ท้ายที่สุดก็ตามหาไข่มุกที่กระจัดกระจายพวกนั้นกลับมาได้ทั้งหมด
มีบางคนที่เก่งในการตีความคาดเดาเจตนาของผู้บังคับบัญชาเริ่มร้อนตัว หรือว่าการกระทำครั้งนี้ของราชครูเว่ยต้องการสื่ออะไรเป็นนัยแก่เหล่าขุนนางกันแน่ อืม ต้องเป็นความหมายนี้แน่ๆ…คาดแถบรัดเอวให้แน่นเข้าไว้ อย่าได้คิดฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเป็นอันขาด หาไม่แล้วพวกเจ้าจะต้องร่วงหล่นไม่เป็นท่าเหมือนไข่มุกพวกนั้น คนทั้งครอบครัวของเจ้าจะต้องสวมชุดกระสอบไว้ทุกข์คาดแถบรัดเอวสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ให้พวกเจ้ากันทั้งหมดนี่ล่ะ!
(ติดตามต่อได้ในรูปแบบฉบับเต็มได้ในเดือนธันวาคม 2568)
Comments



