เจียงหานหยวนชะงัก ก่อนจะปล่อยมือจากทารกหญิงแล้วหมุนตัวเดินออกไป
“นายกองควันสัญญาณทำศึกไถ่โทษ ทว่าแม้สู้จนตัวตายก็มิอาจลบล้างความผิดได้ทั้งหมด พลทหารสองนายนั้นให้ตัดหัวทันทีตามกฎทหาร แล้วออกหนังสือเตือนไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่างทั่วทั้งกองทัพ ส่วนความผิดของหลี่เหอนั้นข้าตัดสินแทนไม่ได้ ให้ไปขอรับผิดจากท่านแม่ทัพใหญ่เอง!”
หลังประโยคนั้นนางรับบังเหียนม้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งส่งให้ แล้วผินหน้าไปมองฝานจิ้งที่ติดตามอยู่ไม่ห่าง
“อาฝาน รบกวนท่านช่วยอยู่ที่นี่ต่อเพื่อดูแลเรื่องที่เหลือ พร้อมทั้งตรวจตราแนวชายแดนแถบนี้ทั้งหมดอีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีช่องโหว่ใดๆ อีก”
“ขอรับ ท่านแม่ทัพเดินทางต่อเถิด อย่าได้กังวลเลย”
“แล้วก็…” เจียงหานหยวนเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะมองแผ่นหลังของสตรีที่ยังนั่งคุกเข่ากอดบุตรสาวร่ำไห้อยู่ไกลๆ “มอบเงินบำรุงขวัญให้พวกนางแม่ลูกสองเท่า ให้หักไปจากเบี้ยหวัดข้า” นางบอกเบาๆ
ฝานจิ้งผงะอึ้ง เขาหันไปมองตาม ก่อนจะรับคำ
“วันนี้ใครได้รับบาดเจ็บให้กลับค่ายทั้งหมด! ส่วนที่เหลือตามข้าออกเดินทางต่อ!”
นางพลิกตัวขึ้นหลังม้าหลังกล่าวจบ กำบังเหียนด้วยมือข้างเดียว ทำท่าจะควบม้าออกไป
หยางหู่ปรี่เข้าไปขวางหน้าม้านางอย่างร้อนรน จากนั้นก็แกว่งแขนข้างที่เพิ่งพันแผลเสร็จหมาดๆ ให้ดู “ท่านแม่ทัพ ข้าสบายดีขอรับ! แผลเล็กน้อยไกลหัวใจ ข้าจะตามท่านไปด้วย!”
“กลับไปเดี๋ยวนี้!”
เจียงหานหยวนเอ็ดเบาๆ แล้วบังคับม้าขี่อ้อมเขาไป
ทหารอีกสิบกว่านายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหัวเราะคิกคักทำมือทำไม้ใส่หยางหู่พลางผิวปาก ก่อนจะขึ้นม้าควบตะบึงตามออกไปทันที ทิ้งให้หยางหู่กับพวกที่ได้รับบาดเจ็บยืนอยู่ที่เดิมอย่างฮึดฮัดขัดใจ
หยางหู่มองตามแผ่นหลังตรงหน้าที่เล็กลงทุกที ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จนอดจะตะโกนด่าสหายร่วมทัพคนหนึ่งที่ขี่ม้าจากไปไม่ได้
“เจ้าลิงจาง ไอ้ทุเรศเอ๊ย! วันนี้ถ้าไม่ได้ข้าช่วยรับดาบให้ เจ้ากลายเป็นศพไปแล้ว! ทีนี้ล่ะได้ติดตามท่านแม่ทัพอย่างสบายใจเชียวนะ! รอก่อนเถิด กลับมาเมื่อไรข้าจะเล่นงานให้น่าดู!”
สหายร่วมทัพที่ถูกเรียกว่า ‘เจ้าลิงจาง’ นอกจากจะไม่เหลียวหลังแล้วยังเร่งควบม้าให้เร็วขึ้น พริบตาเดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
คนอื่นที่ถูกทิ้งไว้ด้วยกันเห็นแล้วรู้สึกสาแก่ใจอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าหัวเราะ ได้แต่กลั้นหัวเราะไว้อย่างลำบากยากเย็น
“พอทีๆ! ทำตามคำบัญชาท่านแม่ทัพ คืนนี้พวกเจ้านอนพักกันก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางกลับ…”
ฝานจิ้งเองก็ปวดหัวนิดๆ กับคนหนุ่มเลือดร้อนผู้นี้ที่แม่ทัพหญิงคัดเลือกมาด้วยตนเอง ทั้งยังเป็นคนโปรดเสียด้วย
แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางแสดงความรู้สึกนี้ออกไปอย่างเด็ดขาด ใบหน้าที่ฉายแววเฉียบขาดและรกครึ้มไปด้วยหนวดเครานั้นเคร่งขรึม เอ่ยทวนคำสั่งของเจียงหานหยวนด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
หยางหู่จำต้องเลิกราเพียงแค่นั้น เขาเหลือบมองทางที่มาอย่างหดหู่ ไม่นึกว่าจะเห็นพลส่งสารนายหนึ่งขี่ม้าเร็วมุ่งหน้าตรงดิ่งมาทางนี้อยู่ลิบๆ
“แม่ทัพฉางหนิงอยู่ที่ใด ท่านแม่ทัพใหญ่มีคำสั่งด่วนให้แม่ทัพฉางหนิงเร่งกลับค่ายทันที…” พลส่งสารเห็นพวกฝานจิ้งก็เหยียบโกลนม้าลุกขึ้นยืนต้านลมบนหลังอาชาพร้อมกล่าวเสียงดัง
พลส่งสารมาพร้อมข่าวจากแม่ทัพใหญ่เจียงจู่วั่ง
เจียงหานหยวนจำต้องหยุดเดินทางกลางคันแล้วย้อนกลับไปยังค่ายที่บิดานางประจำอยู่ ซึ่งเป็นค่ายใหญ่ใกล้กับด่านซีสิงของเมืองเยี่ยนเหมิน
นางมาถึงที่หมายในช่วงกลางดึกของหลายวันให้หลัง