ฉู่เหิงจือเห็นนางจ้องมาที่ตนเองอย่างอึ้งๆ ก็ยกมุมปากยิ้มน้อยๆ “รบกวนคุณหนูกวนนำทางด้วย”
กวนอวิ๋นซีเม้มริมฝีปาก หันหน้ากลับไปแล้วเริ่มเดินไปข้างหน้าแต่ก็อดพึมพำไม่ได้
นางลืมไปเลยว่าเขามีหน้ากาก! เขาเตรียมตัวมาพร้อม นางกลับเป็นห่วงเกินความจำเป็น
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าการสวมหน้ากากสีขาวเงินนั้นทั้งดูลึกลับและดูมีอำนาจ เมื่อเทียบกับเขาแล้วนางดูกระจอกไปถนัดตา นางเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งนาน เขาแค่มีหน้ากากก็ดูมีอำนาจกว่านางเสียอีก ถ้ารู้เช่นนี้นางจะได้เตรียมหน้ากากมาเพื่อสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญบ้าง
“อีกครู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นท่านก็หลบอยู่หลังข้านะ เข้าใจหรือไม่”
“หลบอยู่หลังเจ้า?”
เขาเอ่ยเพียงประโยคนี้นางก็เข้าใจได้ถึงความหมายแฝงในวาจา หากจะกล่าวถึงวรยุทธ์นางไม่มีทางสู้เขาได้
“ข้าเคยชินกับภูมิประเทศที่นี่ มีข้านำทางไม่มีทางหลงหรอก ยิ่งไปกว่านั้นอีกสักครู่สถานที่ที่เราจะไป ผู้คนที่นั่นหวาดกลัวคนของทางการยิ่ง เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา แต่ข้ารู้วิธีเกลี้ยกล่อมพวกเขา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าถึงจะไม่เกิดเรื่อง เข้าใจหรือไม่”
เขาพยักหน้าอย่างกระจ่างแจ้ง “เข้าใจแล้ว”
ครั้นเห็นเขาตกลงนางก็ถอนหายใจโล่งอก
เห็นด้วยก็ดี นางทำไปเพื่องานใหญ่ที่ยังไม่สำเร็จในชีวิตก่อน นางต้องการยืมอำนาจจากคุณชายตระกูลเสนาบดีผู้สูงศักดิ์เพื่อจะเบิกทางให้กับเหล่าพี่น้องบนภูเขา มิเช่นนั้นนางจะเปลืองน้ำลายอธิบายให้เขาฟังด้วยเหตุใดกัน คงคิดว่านางชอบอวดเก่งล่ะสิ! ฮึ!
ทางบนภูเขาขรุขระยิ่ง หากเดินเท้าขึ้นไป ท้องฟ้ามืดแล้วก็ยังเดินไม่ถึง จะต้องพึ่งวิชาตัวเบา ดังนั้นนางจึงแสดงวิชาตัวเบาออกมา กระโดดจากต้นไม้ต้นนี้ไปยังต้นนั้น กระโดดจากก้อนหินก้อนนี้ไปยังเนินเขา
ครั้นไม่มีคนอื่นอยู่ที่นั่นด้วยนางก็แสดงนิสัยเดิมออกมา นางสวมชุดรัดกุม กระโจนไปมาในป่าเขา ครั้นฉู่เหิงจือที่ตามมาอยู่ด้านหลังเห็นร่างนางลอยเบาหวิวราวกับนกนางแอ่น กระโดดไปมาอย่างรวดเร็วในป่าไม้ ในใจก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
แม้จะรู้จักอีกด้านหนึ่งของนางแล้ว แต่สำหรับเขา ยิ่งเข้าใกล้นางยิ่งรู้สึกว่านางคล้ายปริศนา ทุกครั้งที่ได้พบหน้าก็มีความประหลาดใจเพิ่มขึ้นทุกครั้ง
นางที่อยู่เบื้องหน้านี้กับนางที่เป็นแม่นางกวนที่ทุกคนวาดภาพไว้อย่างวิจิตรงดงามนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะเกินความคาดหมายแต่เขาก็รู้ดีแก่ใจ อันที่จริงเขาดีใจมากที่ได้รู้ว่ากวนอวิ๋นซีตัวจริงไม่ใช่คุณหนูผู้เปราะบางใช้ชีวิตอยู่แต่ในเรือน
เขายกมุมปากขึ้น จ้องเงาร่างอันงดงามของนางอย่างไม่วางตา คอยตามฝีเท้านางไป
เงาร่างทั้งสองกระโจนอย่างรวดเร็วท่ามกลางป่าไม้ หากมองมาจากที่ไกลก็เห็นเพียงเงาดำตะคุ่มๆ สองร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดูคล้ายห่านป่าคู่หนึ่งกำลังเริงระบำเคียงคู่กันไป
หลังจากที่กวนอวิ๋นซีกระโดดผ่านยอดเขามาแล้วก็ร่อนลงสู่พื้นดิน เดินเข้าไปในทางแคบๆ สายหนึ่ง
หนทางในที่แห่งนี้ ถึงหลับตานางก็เดินได้
กระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามรังตอนที่ตัดสินใจจะสวามิภักดิ์ต่อทางการนางยังมีหนทางหนีเอาตัวรอดอีกสองวิธี ค่ายที่ทางการโจมตีและเข้ายึดไม่ใช่ค่ายใหญ่ของพวกเขา แต่เป็นเพียงที่พักชั่วคราว ด้วยเหตุนี้ครั้นพบว่านี่คือกับดัก บรรดาพี่น้องจึงมีโอกาสคิดหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนได้
ยามนี้สถานที่ที่นางพาฉู่เหิงจือมาเป็นเพียงที่หนึ่งเท่านั้น อันที่จริงนางจงใจอ้อมมา ที่แห่งนี้หากไม่มีคนนำทางจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเดินทางอย่างไร
หลังจากเข้าสู่ทางเล็กๆ ที่วกไปวนมาก็เกือบถึงอาณาเขตของโจรภูเขาแล้วซึ่งจะดึงดูดความสนใจจากคนเฝ้าภูเขาได้