นางร้องฮึเสียงเย็น เอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “หากข้าทรยศสำนักจริง แล้วข้าจะโดนหร่านเจียงตามล่าจนไม่มีที่ไปเช่นนี้หรือ หากไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตท่าน ข้าจะยอมพลาดโอกาสที่จะได้เข้าใกล้หร่านเจียงหรือ”
ครั้นนางเอ่ยวาจานี้ออกไป คนชุดดำทั้งหมดล้วนตะลึงงัน
อี้ก็ตกตะลึงไปด้วย ต่อมาเขาก็ยิ้มเย็น
“เจ้ามาขวางกระบี่ของข้า ไม่ว่าจะมองจากทางใด คนที่เจ้าคิดจะช่วยชีวิตคงเป็นหร่านเจียงกระมัง”
“วันนั้นท่านนึกว่าเขาโดนฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด ออกจากจวนโดยมีเพียงองครักษ์หกคนอยู่ข้างกาย อันที่จริงเขาหลอกใช้องค์หญิงเจ็ด หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง มีคนดักซุ่มอยู่รอบด้าน เขาวางแผนไว้เสียดิบดี รอให้ปลาใหญ่มาติดเบ็ด”
ครั้นอี้ได้ฟังแล้วก็ตกใจและขมวดคิ้วต่อ แววตาเฉียบคมคู่นั้นจับจ้องมาที่นางอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เหมียวลั่วชิงเอ่ยต่อว่า “เขาออกจากจวน จะเลือกสตรีนางใดก็ย่อมได้ แต่เขากลับมาเลือกข้าที่ไม่โปรดปรานแล้ว ท่านไม่คิดว่าแปลกหรือ”
ครั้นนางเอ่ยวาจานี้ อี้ก็ดำดิ่งลงสู่ความเงียบงันคล้ายกับกำลังคิดใคร่ครวญ
“ท่านลงมือสังหารเขา หากข้าช่วยท่านก็จะตกหลุมพรางของเขาไปด้วย เขาจะกวาดพวกเราเรียบไม่มีเหลือ ภายใต้สถานการณ์คับขัน ข้าทำได้เพียงต้องลองเสี่ยง ขวางกระบี่ให้กับเขา ที่ข้าทำเช่นนี้ไม่เพียงทำลายแผนของเขาได้ ยังช่วยให้ท่านมีเวลาหนีด้วย แล้วด้วยความที่เขาคาดไม่ถึงในการกระทำของข้า จึงไม่แน่ใจว่าข้าเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ แล้วฉวยโอกาสที่เขากำลังลังเลอยู่นั้นหลุดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้าย”
พออี้ฟังแล้วก็รู้สึกไม่คาดฝันจริงๆ ทว่าเขากลับหรี่ตาลง “เจ้าพูดจริงหรือ”
นางไม่ยอมตอบแต่ถามกลับ “แล้วท่านคิดว่าอย่างไรเล่า ข้าต้องไปขวางดาบให้เขาด้วยหรือ หลังจากที่ข้าช่วยชีวิตเขาแล้วกลับไม่ยอมเสพสุขในฐานะผู้มีพระคุณ ร้องขอแก้วแหวนเงินทองจากเขา แต่กลับหนีออกจากจวน จากนั้นก็ต้องพบจุดจบที่โดนท่านจับตัว?”
อี้เงียบงันไปโดยพลัน แม้ว่าแววตาเขายังคงเฉียบคมยิ่งนัก แต่เหมียวลั่วชิงรู้ดีว่าเขาไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่านางทรยศจริงหรือไม่ นางถึงขนาดมั่นใจว่าเขาเชื่อในคำให้การของตนอยู่หลายส่วน
คำอธิบายของนางในครั้งนี้ปราศจากพิรุธใดๆ เพราะที่หร่านเจียงวางกับดักไว้ก็เป็นความจริง ขอเพียงอี้ไปตรวจสอบก็จะรู้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่องครักษ์เสื้อแพรออกตามหานางอยู่ทุกที่ ไก่บินสุนัขเตลิดกันไปหมด ชาวบ้านต่างหวาดกลัว อี้จะไม่รู้เรื่องนี้เชียวหรือ
เป็นดังที่นางคาด อี้เพียงแค่จ้องนางสักครู่แล้วก็เอ่ยปากสั่งการคนอื่น “นำตัวนางลงไป เฝ้าให้ดี”
เหมียวลั่วชิงหลุบตาลง เก็บงำความยินดีไว้แล้วค่อยๆ ถอนใจโล่งอก
แค่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ก็นับว่าประเสริฐแล้ว ขอเพียงอี้เชื่อในคำพูดของนาง นางก็ยังมีโอกาสที่จะหนี พอนึกถึงตรงนี้นางก็มีความหวังมากขึ้น กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้นั้นยากเย็นยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นหร่านเจียงหรืออี้ก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินความเป็นตายให้นาง
แม้เหมียวลั่วชิงจะถูกอี้กักบริเวณไว้ แต่คำพูดนางอาจจะได้ผล เนื่องจากอี้ขังนางไว้ในห้อง แต่ก็ไม่ได้ทรมานนาง ซ้ำยังส่งผู้ใต้บังคับบัญชาสตรีคนหนึ่งมาพันแผลให้นางใหม่ ส่งอาหารให้นางครบสามมื้อ