กล่าวตามจริง นางไม่เชื่อหรอกว่าหร่านเจียงจะกระทำการอึกทึกครึกโครมเยี่ยงนี้เพียงเพื่อตามหาตัวนาง สำหรับเขาแล้วนางก็เป็นเพียงสาวใช้ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร แม้นางจะช่วยชีวิตเขา ทำให้เขารู้สึกดีกับนาง ก็คงไม่ถึงขั้นต้องระดมองครักษ์เสื้อแพรและเจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่ออกตามหานางเสียทั่วเมืองหรอก
เหมียวลั่วชิงข่มกลั้นความเจ็บปวดไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะค้นมาถึงห้องที่นางอยู่ นางก็หนีออกไปได้ทันเวลา
การใช้วรยุทธ์เช่นนี้จะต้องใช้กำลังภายในทำให้แผลของนางปริออก นางสัมผัสได้ว่าที่แผ่นหลังของตนมีเลือดซึมออกมา
นางซ่อนตัวไปมาสิบวัน ภายในสิบวันนี้เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าประตูเมืองตรวจสอบคนเข้าออกอย่างเข้มงวดโดยตลอด แต่ละสถานที่ในตัวเมืองก็มีองครักษ์เสื้อแพรตรวจสอบกลับไปกลับมา ท้ายที่สุดก็ยังไม่เว้นแม้กระทั่งขอทาน
เหมียวลั่วชิงจะไปที่ใดก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าการตรวจสอบของหร่านเจียงจะสิ้นสุดลงเมื่อใด นางไม่กล้าไปพักที่โรงเตี๊ยมและก็ไม่กล้าไปพักอ้างแรมที่ใดเป็นเวลานาน หลายวันนี้นางพักอยู่ด้านนอก บ้างก็นอนบนหลังคา บ้างก็หลบเข้าไปปูพื้นนอนในลานบ้านคนอื่น
ยามนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูสารท ทว่ายามค่ำคืนก็หนาวเย็นอยู่บ้าง อาการบาดเจ็บของนางหนักหนาอยู่เหมือนกัน กอปรกับการหนีตายในหลายวันนี้บาดแผลมีแนวโน้มจะแย่ลง
เหมียวลั่วชิงแอบก่นด่าเสียงหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะองครักษ์เสื้อแพรมาสร้างเรื่องจนทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในสภาพคับขัน เหตุใดนางจะต้องนอนกลางดินกินกลางทรายด้วยเล่า ไยต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างยากลำบาก มิเช่นนั้นป่านนี้นางคงออกจากเมืองไปนานแล้ว
ยามเช้านางก็กินขนมแป้งอบร้อนๆ สองชิ้นที่ซื้อมาจากแผงริมทางและกินโจ๊กไปชามหนึ่ง ทว่านางกลับยังรู้สึกปวดศีรษะ เท้าอ่อนแรง นางซ่อนตัวมาสิบวันก็รู้สึกว่าความกดดันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
นางไปที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง ต้องการซื้อยามารักษาอาการบาดเจ็บบางส่วนเพื่อระงับอาการ
“แม่นางบาดเจ็บหรือ” เถ้าแก่ร้านถามยิ้มๆ
“ข้ามาซื้อยาให้พี่ชาย เขาได้รับบาดเจ็บ” นางเอ่ยขึ้น
เถ้าแก่ร้านก็ยังถามอีกว่า “เช่นนั้นพี่ชายของเจ้าบาดเจ็บจากอะไร มีด? น้ำร้อนลวก? หรืออย่างอื่น”
“เมื่อวานพี่ชายข้ามีเรื่องชกต่อย ถูกคนใช้กระบี่แทงเข้า”
“อ๋อ บาดเจ็บจากการโดนกระบี่แทง” เถ้าแก่ร้านแสดงท่าทีกระจ่างแจ้งแล้วก็เริ่มจัดสมุนไพรให้นาง
ผ่านไปเพียงครู่เถ้าแก่ร้านก็เอ่ยกับนางว่า “แม่นางรอสักครู่ มีสมุนไพรตัวหนึ่งหมด ข้าจะไปเอาที่ด้านหลัง”
เหมียวลั่วชิงทอดสายตามองเขาแล้วพยักหน้ายิ้มๆ “รบกวนท่านด้วย”
ครั้นเถ้าแก่ร้านหมุนกายเลิกผ้าม่านเดินเข้าไปด้านใน เหมียวลั่วชิงก็ไม่พูดไม่จารีบหมุนกายเดินออกจากร้านในทันใด
นางไม่ได้เอ่ยว่าตนเองบาดเจ็บ บนดวงหน้าก็ยังแต้มสีดำไว้อีก ไม่ได้แสดงถึงอาการป่วยออกมาแต่อย่างใด ทว่าประโยคแรกที่เถ้าแก่ร้านกล่าวกลับถามนางว่าบาดเจ็บหรือไม่
เขาจัดสมุนไพรอย่างเชื่องช้า แม้ว่าใบหน้าจะแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าแววตากลับคอยตรวจสอบอยู่ตลอด แล้วต่อมาก็เอ่ยว่าขาดสมุนไพรไปตัวหนึ่ง ให้นางรอสักครู่