อวิ๋นจ้าวเช็ดเท้าจนสะอาดแล้วก็มุดกลับเข้าไปในผ้าห่มอันอบอุ่น เห็นสี่เชวี่ยกำลังจะออกไปก็ถามขึ้นว่า “สี่เชวี่ย ทางสกุลลู่มีข่าวอะไรบ้างหรือไม่”
สี่เชวี่ยรู้สึกแปลกใจ “จะมีข่าวอะไรได้เจ้าคะ คุณหนูอยากถามว่าทางนั้นได้ส่งจดหมายมาให้อีกหรือเปล่าใช่หรือไม่เจ้าคะ แต่คุณหนู จดหมายเหลวไหลอย่างนั้น ท่านไม่ต้องคิดรับเป็นฉบับที่สองแล้ว แค่ฉบับเดียวก็ยั่วโมโหคนได้เกินพอ!”
สี่เชวี่ยไม่รู้ที่มาที่ไป อวิ๋นจ้าวจึงไม่คิดกล่าวโทษ ที่สี่เชวี่ยกล้าแสดงความรังเกียจลู่อู๋เซิงถึงเพียงนี้ ไม่ใช่เพราะเมื่อก่อนนางด่าทอเขาอย่างร้ายกาจกว่านี้หรอกหรือ ในเมื่อยามนี้สกุลลู่ยังไม่มีข่าวอะไร ก็หมายความว่าลู่อู๋เซิงยังมีชีวิตอยู่ เหตุการณ์ทุกอย่างหมุนย้อนกลับมาที่เดิมในวันที่แปดเดือนสิบสอง นางเอนกายนอนอย่างโล่งใจ พลางกล่าวเสริมว่า “บอกพ่อครัวด้วยว่าต้มเมล็ดซิ่งให้นิ่มหน่อยนะ”
แม้สี่เชวี่ยจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังกล่าวรับคำแล้วออกจากห้องไป
ประตูห้องปิดลงเบาๆ อวิ๋นจ้าวมีหรือจะหลับตาลงได้ ถึงนางจะกลับมาแล้ว แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ไม่อาจวางใจลงได้
นางคิดทบทวนเรื่องราว ‘หลายวันมานี้’ ในสมองอย่างละเอียดรอบหนึ่ง พบว่าทุกห่วงโซ่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ทำผิดพลาดไปเรื่องหนึ่งล้วนเสี่ยงเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างยิ่ง
ครั้งแรกที่กลับมา เมล็ดซิ่งต้มไม่นิ่ม ท่านย่าปวดฟัน นางไปเชิญหมอหลวงมาตรวจจนล่วงเกินติ้งเป่ยโหวโดยไม่เจตนา ส่งผลให้ท่านย่าต้องจากโลกนี้ไป
ครั้งที่สองพอกลับมา เมล็ดซิ่งต้มนิ่มแล้ว ท่านย่าแข็งแรงดี แต่เพราะร่างกายแข็งแรงดีก็เลยเรียกนางให้ไปไหว้พระที่วัดด้วยกัน และสาเหตุนี้เองที่ทำให้นางมีโอกาสรั้งตัวลู่อู๋เซิงเอาไว้ และพาเดินเข้าไปในป่าไผ่ด้วยกัน จนเจอกลุ่มคนร้ายดักซุ่ม ลู่อู๋เซิงจึงต้องตายจากไป
ตอนนี้กลับมาครั้งที่สาม…
อวิ๋นจ้าวพลิกตัวกอดผ้าห่มไว้ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างรอบคอบ
ไม่อาจเชิญหมอหลวงจนไปล่วงเกินติ้งเป่ยโหว ไม่อาจให้ลู่อู๋เซิงเข้าป่าไผ่ เลี่ยงไม่ให้เจอคนซุ่มทำร้าย
ทว่ากลุ่มชายชุดดำช่างน่ากลัวเหลือเกิน นางอยากรู้ฐานะของพวกเขา มิฉะนั้นนางคงไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะทำให้เส้นทางเดิมในช่วงสิบปีนี้ต้องยุ่งเหยิงวันใดอีก อาจเดือดร้อนถึงลู่อู๋เซิง ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน
ถ้าหากความทรงจำของนางดีพอ จนจำได้ว่าที่แท้ช่วงนี้ในแต่ละวันเคยทำอะไรไปบ้าง นางจะต้องใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบเช่นนี้ไปให้ครบสิบปีแน่ จากนั้นหนึ่งวันก่อนที่ลู่อู๋เซิงจะตายในสิบปีข้างหน้า ก็ไปขวางเอาไว้ไม่ให้เขาไปจุดที่ต้องจบชีวิตลง ช่วงชีวิตที่เหลือจะได้อยู่ต่อไปอย่างไร้กังวล
แต่นางที่มาจากสิบปีข้างหน้า ไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันได้อย่างแจ่มชัด ฉะนั้นจึงทำได้เพียงต้องระมัดระวังรอบคอบ รับมือได้อย่างทันท่วงที
ไข่มุกราตรีจะพานางกลับมาได้อีกกี่ครั้งก็ยังไม่รู้ นอกจากนี้ประเดี๋ยวมันก็สำแดงอิทธิฤทธิ์ ประเดี๋ยวก็ไม่ได้ดั่งใจ ทำให้นางรู้สึกกระวนกระวาย และไม่อาจก้าวผิดได้เลยสักก้าวเดียว
ค่ำคืนวันที่แปดเดือนสิบสองทั้งยาวนานและน่าอึดอัด อวิ๋นจ้าวยังคงกลัวดวงอาทิตย์ยามเช้าโผล่พ้นขอบฟ้า ในใจเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปโดยราบรื่น
นางพลิกตัวอีกครั้ง ผ้าห่มนุ่มนิ่มแสนอบอุ่นทำให้นางคลายความวิตกกังวลลงได้
ทันใดนั้นชั่วขณะที่นางจะนอนหลับฝัน ก็นึกเรื่องสำคัญมากได้เรื่องหนึ่ง
นางควรกระชากหน้าเจ้าคนสารเลวช่างยุอย่างซ่งโหย่วเฉิงเช่นไรดี