บทที่สอง ล่าจระเข้
เชียนโม่ถูกพาตัวไปอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่มีรางวัลอะไร
พวกเขาพาเธอไปที่เรือนหลังใหญ่ข้างภูเขาถงลวี่ หญิงสูงวัยผู้หนึ่งพาเธอไปชำระล้างร่างกาย ตอนเห็นผิวพรรณขาวผ่องและเส้นผมที่ดำขลับของเธอ ทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นตะลึง
เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวถูกเอาไปหมด พวกเขาให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เอี่ยม เป็นเสื้อคลุมตัวกว้างแขนเสื้อใหญ่ตามแบบฉบับของคนโบราณ
กงอิ่นพึงพอใจกับผลพลอยได้ที่ไม่ได้คาดคิดนี้มาก เมื่อแรงงานทาสที่ชื่อโม่ผู้นี้ได้รับการแต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วพามาอยู่ตรงหน้าเขา เขามีท่าทีตื่นเต้นระคนดีใจ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“เสียดายพูดภาษาได้ไม่ดี” คนรับใช้ที่พาเชียนโม่มาเอ่ยขึ้น
“พูดไม่ดีไม่เป็นไร” กงอิ่นยิ้มแล้วสั่งกำชับ “หลังจากต้าหวังล่าสัตว์แล้วต้องจัดงานเลี้ยงแน่ ตอนจะเข้าบรรทม เจ้าพานางไปปรนนิบัติ”
คนรับใช้รับคำ
สถานที่แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณแท้จริงที่เชียนโม่เห็นเป็นที่แรก
เรือนหลังนี้สร้างอิงภูเขา เปรียบกับเพิงที่พักของทาสทั้งหลายแล้ว เรียกได้ว่าใหญ่โตโอฬาร รูปแบบชายคาที่งดงาม มีเสาเป็นต้นๆ ตั้งค้ำตัวเรือน เป็นเรือนใต้ถุนสูงตามแบบฉบับของแคว้นฉู่ หากคุณปู่ได้มาเห็นคงดีใจจนบอกไม่ถูก
แต่เชียนโม่หาได้ดีใจ เธอร้อนใจมาก ฟังจากคำพูดของกงอิ่นพุงโตและคนที่อยู่รอบข้างก็เข้าใจแล้วว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร ในใจกระสับกระส่าย เธอไม่รู้ว่าพวกเขาจะเอาตัวเธอไปมอบให้ใคร เพียงรู้สึกไร้เหตุผลสิ้นดี
ทว่านี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายทั้งหมดเสียทีเดียว
คงเพราะไม่จำเป็นต้องเฝ้าพวกทาสตลอดเวลาเช่นในเขตเหมืองแร่ ทหารรักษาการณ์จึงมีไม่มาก เชียนโม่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ครึ่งวัน ไม่นานก็พบโอกาสที่จะหลบหนีช่องทางหนึ่ง…น้ำที่ใช้ดื่มกินในเรือนหลังนี้ต้องใช้รถเทียมวัวขนมาจากข้างนอก บนรถเทียมวัวบรรทุกถังขนาดใหญ่ คนสามารถลงไปซุกซ่อนได้ อีกทั้งตอนออกไป พวกทหารรักษาการณ์ก็ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด
หลังจากผ่านไปหนึ่งคืนด้วยความกระวนกระวายใจ เชียนโม่ก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า เธอเอาผ้าพับที่ได้มาทำเป็นห่อสัมภาระแบกไว้บนหลัง แล้วหาเคียวได้เล่มหนึ่งที่มุมห้องครัว จึงเอามาเป็นอาวุธป้องกันตัว
รอบด้านยังไม่ค่อยมีผู้คน เธอจับตามองการมาถึงของรถขนน้ำ ฉวยโอกาสช่วงที่คนรับใช้เอาน้ำไปเทในบ้าน เข้าไปซ่อนตัวในถังเปล่าใบหนึ่ง
การเคลื่อนไหวของเธอเบาและไว แม้แต่วัวที่ลากรถก็ยังไม่ตื่นตกใจ ยังคงก้มหน้าก้มตาเคี้ยวหญ้า
หลังจากปิดฝาถังลง รอบด้านก็มีแต่ความมืด
เชียนโม่ขดตัวอยู่ในนั้น ฟังเสียงพูดคุยและเสียงฝีเท้าของคนที่อยู่ข้างนอก อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
ผ่านไปนานโข ในที่สุดรถก็เริ่มเคลื่อนตัว ล้อรถที่ทำจากไม้บดผ่านก้อนหินที่อยู่บนพื้นถนนดังกึงกัง เชียนโม่คอยเงี่ยหู เพียงหวังจะหนีออกไปให้เร็วที่สุด แล้วก็เป็นดังหวัง รถวิ่งไม่หยุดตลอดทาง เธอรู้สึกได้ว่ารถวิ่งผ่านเนินยาวช่วงหนึ่ง เมื่อมาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของเมื่อวาน เธอก็รู้ว่าพ้นออกจากเรือนหลังนั้นมาแล้ว
เชียนโม่รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย ในถังทั้งอึดอัดทั้งร้อน เหงื่อเปียกชุ่มหลังเสื้อ แต่เธอไม่กล้าบ่นแม้แต่คำเดียว ผ่านเส้นทางมาอีกนานโข ในที่สุดรถก็หยุดนิ่ง เชียนโม่ได้ยินเสียงสายน้ำไหลริน
ไม่มีเสียงพูดคุย เชียนโม่ดันฝาถังขึ้นอย่างระมัดระวัง โผล่นัยน์ตาออกไป แล้วก็เห็นว่าที่นี่เป็นป่าเขาแห่งหนึ่ง มีน้ำใสแจ๋วไหลออกมาจากซอกผา
คนขับรถจูงรถเทียมวัวไปที่หน้าน้ำพุ เอาท่อนไม้ไผ่ขนาดใหญ่รองน้ำพุ ให้น้ำไหลลงมาในถัง
เขาไม่เห็นเชียนโม่ หลังจากยืนรออยู่ข้างน้ำพุครู่ใหญ่ก็เดินไปปลดทุกข์ที่ละแวกนั้น