ไม้กระดานยาวหนาแผ่นหนึ่งเชื่อมกราบเรือกับริมฝั่งเข้าด้วยกัน ผู้คนก้าวขึ้นไปอย่างระมัดระวัง เดินขึ้นไปบนฝั่ง
เชียนโม่แอบสังเกตไปรอบๆ ด้าน เห็นบริเวณริมฝั่งมีเรือแบบเดียวกันนี้อยู่สิบกว่าลำ เรือแต่ละลำกำลังปล่อยคนออกมาราวกับฝูงมด บนฝั่งมีเสียงเอะอะโวยวาย มีคนจำนวนมากกว่าเดิมถือหอกยาวชี้มาที่พวกตน มีคนใช้เชือกยาวมัดโยงคนทั้งหมดให้เชื่อมเป็นแถวยาวอย่างคล่องแคล่ว
ทาส!
คำนี้ผุดขึ้นมาในใจของเชียนโม่อย่างไม่มีอะไรให้สงสัย
เชียนโม่กับพวกหญิงสาวที่อยู่บนเรือถูกมัดรวมไว้ด้วยกัน ข้างหน้าคือเด็กหญิงที่ไม่สบายตอนอยู่บนเรือคนเมื่อครู่ ถัดไปอีกก็คือแม่ของเด็กหญิง
ข้างทางมีอ่างดินเผาวางเรียงอยู่หลายใบ ในนั้นมีข้าวต้มเหลวๆ บรรจุอยู่ ข้างอ่างแต่ละใบจะมีคนยืนอยู่คนหนึ่ง ใช้กระบวยตักน้ำข้าวต้มขึ้นมาให้พวกทาสดื่ม ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ เชียนโม่ก็ได้กลิ่นเหม็นบูดแล้ว
พวกทาสทนหิวมาสองวันแล้ว ไม่อาจมัวมาคำนึงถึงอะไรมากมาย พอกระบวยถูกยื่นส่งมาก็ใช้สองมือประคองดื่มอึกๆ ลงไป
คนพวกนั้นก็ใช่จะมีความอดทนมากนัก หลายครั้งที่ยังไม่ทันดื่มหมดกระบวยก็ผลักคนให้เดินต่อ แล้วตักกระบวยใหม่ให้คนถัดไป หากทาสชักช้าอืดอาดสักหน่อยก็จะถูกโบยตีด้วยแส้
เชียนโม่เห็นแมลงวันตอมอยู่บนปากอ่างเหล่านั้น ทั้งในอ่างก็มีบางอย่างที่ไม่รู้ว่าคืออะไรลอยอยู่ อดที่จะรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาไม่ได้
ต้องกินให้อิ่มจึงจะหนีออกไปได้! เธอพูดเสียงดังอยู่ในใจ ตอนกระบวยถูกยื่นส่งมา เชียนโม่ลังเลอยู่ชั่วขณะแล้วก็ดื่มอึกๆ ลงไปทันที
รสชาติแย่มาก แต่กระเพาะที่ไม่ได้แตะถูกน้ำและข้าวมาสองวันกลับสบายขึ้นไม่น้อย
ทาสทั้งหลายถูกมัดโยงรวมกันกลุ่มละสิบคน เรียงเป็นแถวยาวเหยียดเดินช้าๆ ไปข้างหน้า ข้างทางมีคนถือหอกยาวเฝ้าดูพวกเขา บางคนก็มีท่าทีผ่อนคลาย จับเป็นกลุ่มสองสามคนพูดคุยเล่นกัน
ตอนเชียนโม่เดินผ่านพลันได้ยินคำบางคำลอยมาเข้าหู ดูมีความคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย คล้ายมีอะไรบางอย่างเคาะเข้ามาที่กลางใจ เธอหันไปมองคนเหล่านั้นอย่างห้ามใจไม่อยู่
ความจริงตอนที่ถูกจับตัว การแต่งกายของคนเหล่านี้ก็ได้ให้คำตอบนางรางๆ แล้ว
เส้นผมผูกรวบไว้บนศีรษะ เสื้อคอไขว้ ชายเสื้อยาวมาถึงต้นขา ยังมีรองเท้าของพวกเขา เชียนโม่เคยเห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ที่สำคัญที่สุดคือภาษาของพวกเขา
ภาษาฉู่ เชียนโม่ฟังออก พวกเขากำลังจ้องมองหญิงสาวในขบวน วิพากษ์วิจารณ์ว่าคนนี้ดีไม่ดี คนนั้นดีไม่ดี…จู่ๆ ก็มีคนหัวเราะพลางร้องตะโกนออกมาคำหนึ่งแล้วเดินเข้ามาคว้าตัวเชียนโม่เอาไว้
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ เพียงเห็นพวกที่พูดคุยกันอยู่เมื่อครู่ต่างมองมาที่เธอ มีสองสามคนจ้องมาที่กางเกงของเธอแล้วหัวเราะอย่างไม่มีเจตนาดี ดูจากสายตาของพวกเขา เชียนโม่เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอสวมเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว เปรียบกับคนอื่นๆ ที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งแล้วเรียกได้ว่ามิดชิดที่สุด แต่ความเคยชินในการแต่งตัวของคนที่นี่กลับไม่เหมือนกัน พวกเขาต่อให้เสื้อผ้าปิดคลุมร่างกายไม่มิดเช่นไรก็ต้องเอาผ้าพันเอวพันสะโพกเอาไว้ แต่กางเกงที่อยู่บนตัวของเชียนโม่มองดูแล้วกลับเห็นขาสองข้างแยกกันอย่างชัดเจน ในสายตาของพวกเขาคงไม่ต่างอะไรกับการใส่บิกินีกระมัง ก่อนหน้านี้เชียนโม่ก็ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ และไปยืมผ้าผืนใหญ่มาพันเอวเอาไว้ แต่ตอนที่เธอถูกจับขึ้นเรือมา ผ้าผืนนั้นได้หายไปแล้ว…พอนึกถึงเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นมาต่อจากนี้ เธอก็แทบจะเสียสติไปเลย