สาวน้อยอวี๋เอ๋อร์ทนเห็นผู้ประสบภัยต้องหิวโหยไม่ไหว จึงร่วมมือกับพวกร้านขายยาในตัวอำเภอตั้งแผงโจ๊กขึ้นที่หัวถนน แจกจ่ายอาหารง่ายๆ ให้แก่บรรดาผู้ประสบภัยที่น่าสงสาร นางจะเอารถม้าบรรทุกหมั่นโถวที่เพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ ไปที่แผงโจ๊กด้วยตนเองทุกวัน
เมื่อเหล่าผู้ดีมีเงินทั้งหลายจากพื้นที่ต่างๆ เห็นดังนี้ก็พากันช่วยเหลือและสนับสนุน ทำให้แก้ปัญหาเรื่องจวนข้าหลวงขาดแคลนเสบียงแจกจ่ายผู้ประสบภัยไปได้
ทว่าเวลานี้จำนวนผู้ประสบภัยได้ลดน้อยลงไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ลูกสาวของหวงซื่อก็ยังไปช่วยเหลืออยู่ทุกวัน ผู้เป็นมารดาอย่างนางจึงอดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่ได้หรอกท่านแม่ ในเมืองยังมีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่ไม่มีบ้านให้กลับ น้ำตอนล่างก็ยังไม่ลดลงเลย” เผยจื่ออวี๋สั่นศีรษะ
“ให้คนอื่นไปทำแทนสิ” แต่ผู้เป็นมารดาก็ยังไม่ยอมแพ้
“ไม่ได้หรอก ถ้าหากว่าข้าชิงถอนตัวก่อน พวกท่านลุงท่านป้าที่ตามมาช่วยเหลือทีหลังจะต้องถอนตัวไปด้วยแน่ๆ ถึงเวลานั้นบางทีพวกผู้ประสบภัยอาจไม่มีข้าวกินเลยนะท่านแม่ ในเมื่อพวกเราไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง อะไรที่พอช่วยได้ก็ควรช่วยให้เต็มที่สิ”
“แม่ไม่อยากให้เจ้าต้องเหนื่อยไปช่วยงานที่แผงโจ๊กแต่เช้า บ่ายก็ต้องไปทำงานที่สวนยา ส่งของ เก็บบัญชี คิดเงินอีก ดูเจ้าสิพักนี้ผอมลงไปตั้งเป็นกอง”
“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไรหรอกน่า ร่างกายข้าแข็งแรงออกจะตาย อีกอย่างการที่ข้าทำบุญสร้างกุศลเช่นนี้ เพราะหวังว่าพระโพธิสัตว์จะช่วยคุ้มครองสุขภาพของท่านแม่ให้แข็งแรงๆ ยิ่งขึ้นไปอีกด้วย” หญิงสาวหยิบซาลาเปาอีกลูกขึ้นมากัดกิน
เมื่อเก้าปีก่อน หลังจากที่เผยจื่ออวี๋ได้เจอต้นตระกูลราชาโสมที่ช่องเขาแล้ว นางก็เริ่มต้นค้นพบบรรดาลูกหลานโสมที่อยู่ด้านข้างอีกมากมายด้วย เด็กหญิงจึงค่อยๆ ขุดพวกมันขึ้นมาทีละต้นๆ อย่างระมัดระวัง
เว้นไว้แต่ต้นตระกูลโสมกับท่านปู่ท่านย่าโสมพวกนั้นแล้ว โสมที่อายุน้อยต้นอื่นๆ ล้วนถูกนางนำไปขายที่ร้านยาในตัวเมืองจนหมด ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
เผยจื่ออวี๋รู้ดีว่าพื้นที่ด้านหลังเขานั้นเป็นของครอบครัวสกุลหนึ่งที่คิดอยากจะขายทิ้งมานาน แต่เพราะเสียงเล่าลือเกี่ยวกับเทพแห่งขุนเขา ทำให้ขายใครไม่ได้ นางจึงซื้อมาปลูกต้นโสมได้ในราคาต่ำที่สุด
ไม่นานเผยจื่ออวี๋ก็ทำเงินจากโสมได้ไม่น้อย นางจึงซื้อที่บนภูเขาทั้งหมดเพื่อทำสวนยาและเพาะปลูกสมุนไพรชนิดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยอาศัยความรู้เรื่องยาสมุนไพรที่ติดตัวมาจากโลกยุคปัจจุบัน ทำให้สมุนไพรที่นางเพาะเลี้ยงล้วนมีคุณภาพและปริมาณดีกว่าเจ้าอื่นมากจนปลูกขายแทบไม่ทัน
พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปเก้าปีแล้ว ในยามนี้เผยจื่ออวี๋ได้กลายมาเป็นผู้ค้ายาสมุนไพรรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการค้า และเป็นเศรษฐินีคนหนึ่ง
เพียงแต่หญิงสาวไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของนาง จึงวางตัวเรียบง่ายอย่างมาก และยังอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับมารดา เพียงแต่ปรับปรุงตัวบ้านให้มีความแข็งแรงและสวยงามมากขึ้นเท่านั้น
หวงซื่อลูบแก้มลูกสาวอย่างอ่อนโยน “เด็กโง่ ถ้าหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แม่ก็อยากให้บุญกุศลช่วยหนุนนำตัวเจ้ามากกว่า ขอให้เจ้าได้พบกับสามีที่ดีๆ สักคน”
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ