ตอนที่เจินจยาฝูติดตามมารดามาถึงห้องโถงจัดงาน การอวยพรได้มาถึงช่วงท้าย เหลือแค่เพียงแขกสตรีที่อายุน้อยแล้ว นางยืนปะปนอยู่ในกลุ่มสตรีที่งดงามสดใส ยืนอยู่ในมุมหนึ่งของห้องโถงจัดงาน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นที่กลางห้องโถงแขวนแผ่นป้ายคำอวยพรเอาไว้สูง บนนั้นมีตัวอักษรสีทองที่เผยเฉวียนเขียนเป็นคำอวยพรให้มารดาว่า ‘ชีวิตเปล่งประกายเจิดจรัส’ ตรงกลางห้องโถงมีโต๊ะงานเลี้ยงตั้งในตำแหน่งที่สะดุดตา วางสิ่งของพระราชทานที่ปูรองด้วยผ้าไหมสีเหลืองเอาไว้ คทาหรูอี้ ด้ามยาวคู่หนึ่งวางนอนอยู่ ขนมเปี๊ยะรูปลูกท้อวางกองเป็นภูเขาอยู่สองข้างซ้ายขวา จากนั้นก็เป็นของขวัญวันเกิดหลากสีสันที่ถูกวางเอาไว้ตามลำดับ ตกแต่งอย่างหรูหรา ร่ำรวยเงินทอง ความสง่าที่พูดได้ไม่รู้จบ ความมั่งคั่งที่บรรยายได้ไม่หมดสิ้น
ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลเผยไม่ได้มีสภาพเหมือนที่เจินจยาฝูเห็นเมื่อยามบ่ายแล้ว ราตรีนี้ศีรษะของอีกฝ่ายประดับมาลามุก สวมชุดนายหญิงตราตั้ง มือกำไม้เท้าเศียรมังกรที่แกะสลักจากไม้กฤษณาทั้งท่อน ดูสง่างามไปทั้งร่าง นั่งตัวตรงอยู่ตรงกลาง มองดูแล้วสีหน้าค่อนข้างสดใสแข็งแรง คอยบอกผู้คนที่มาคารวะอวยพรวันเกิดให้ลุกขึ้นเป็นระยะๆ
เจินจยาฝูยังคงมีฐานะเป็นญาติรุ่นหลัง เรียงลำดับอยู่ท้าย ทุกขั้นตอนล้วนทำตามการนำของผู้ทำพิธี นางร่วมคารวะฮูหยินผู้เฒ่าพร้อมกับคนข้างหน้า
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มกว้าง บอกให้ทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วไปร่วมกินดื่มที่โถงด้านหลัง ท่ามกลางเสียงหัวเราะยิ้มแย้ม นางติดตามผู้คนออกมาจากห้องโถงจัดงาน
เรื่องงานแต่งของสกุลเผยกับสกุลเจิน จวบจนวันนี้แทบไม่มีผู้ใดไม่รับรู้ เมิ่งซื่อกับเจินจยาฝูเองก็กลายเป็นจุดรวมความสนใจของผู้คนรอบข้าง แขกสตรีของสกุลเผยต่างทยอยกันมาพูดคุยกับเมิ่งซื่อก่อน เอ่ยชื่นชมรูปโฉมงดงามอ่อนหวานของเจินจยาฝู นางติดตามอยู่ข้างกายมารดา ก้มหน้าลงอย่างขวยเขิน มีท่าทีเหมือนที่สตรีในห้องหออย่างนางพึงมี ทว่าความจริงแล้วนางกลับลอบเอาแต่มุ่งความสนใจไปที่เฉวียนเกอเอ๋อร์
เรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นไม่มากพอจะพิสูจน์ว่านางกับเฉวียนเกอเอ๋อร์มีดวงชะตาขัดกัน
ในแผนการของนาง คืนนี้ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่ง
ถึงแม้เฉวียนเกอเอ๋อร์จะเกเรอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็เป็นเด็กที่ฉลาดคนหนึ่ง รู้ว่าทางจวนเว่ยกั๋วกงไม่อนุญาตให้เขาทำตามใจเหมือนสกุลซ่งของท่านยาย ทั้งตัวเขายังรู้สึกกลัวท่านย่าทวดอยู่บ้าง เมื่อได้เห็นท่านยายจึงเอาแต่ร้องโวยวายต้องการไปหานางทางด้านนั้น
คืนนี้ซ่งฮูหยินมีแต่ผู้คนมารายล้อมประจบสอพลอ บารมีถึงขั้นกดข่มซินฮูหยินลงได้ ซินฮูหยินจะยอมปล่อยหลานชายให้ไปหานางได้อย่างไร จึงเรียกให้คนจับจูงเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา พาตัวมาไว้ข้างกายตนเอง ไม่ยอมให้อยู่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว ส่งผลให้จนกระทั่งงานเลี้ยงดำเนินมาถึงช่วงท้าย เริ่มมีแขกกล่าวลากลับไปแล้ว เจินจยาฝูก็ยังหาโอกาสอันเหมาะสมที่จะเข้าใกล้เด็กคนนี้ไม่ได้ จึงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาแล้ว
งานแต่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นางจะต้องรีบลงมือ อุตส่าห์รอให้มารดากับซินฮูหยินได้มานั่งอยู่ด้วยกันแล้วแท้ๆ เฉวียนเกอเอ๋อร์กลับง่วงนอนขึ้นมา ซินฮูหยินจึงเรียกให้คนส่งเขากลับห้องไปนอน ตัวเขาจึงถูกอุ้มจากไปทั้งอย่างนี้
เจินจยาฝูรู้ว่าวันนี้น่าจะไม่มีโอกาสแล้ว นางกดข่มความผิดหวังในใจ ได้แต่ติดตามเมิ่งซื่อพบปะผู้คนต่อไป
กลางยามไฮ่ งานเลี้ยงวันเกิดก็จบลง แขกที่ยังเหลืออยู่ต่างทยอยจากไป
จวนเว่ยกั๋วกงที่ครึกครื้นมาตลอดทั้งคืนค่อยๆ สงบเงียบในที่สุด
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ช่วงกลางวัน เมิ่งซื่อก็ยุ่งวุ่นวายไม่หยุดมาโดยตลอด ยามนี้ก็เหนื่อยล้าแล้ว เนื่องจากบุตรชายขอตัวจากไปก่อน นางจึงพาแค่เจินจยาฝูมาบอกลา
ซินฮูหยินเอ่ยขอบคุณเมิ่งซื่อ บอกว่าโชคดีที่วันนี้มีนางคอยช่วยเหลือ ช่วยแบ่งเบาภาระตนเองไปได้ไม่น้อย ต้องการส่งนางออกจากจวนด้วยตนเอง