ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 1-2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 1-2

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 1 มีคนขัดขวางการแต่งงาน

“ข้าไม่ยอม!”

ภายในห้องโถงใหญ่จวนสกุลเสิ่น เสิ่นกุยหย่ากระทืบเท้าเร่าๆ ยกมือชี้หน้าสตรีนางหนึ่งพลางแผดเสียงตะโกน “นางเป็นเพียงบุตรของอนุ มีสิทธิ์อะไรได้คู่แต่งงานดีกว่าพี่กุยหรงเสียอีก! ว่ากันตามศักดิ์ภรรยาเอกอนุภรรยา คุณหนูที่สูงส่งที่สุดในจวนนี้คือข้าต่างหาก เรื่องดีๆ อย่างแต่งเข้าจวนอัครเสนาบดี นางมีสิทธิ์อะไรมาได้ไปครอง ข้าไม่ยอม!”

นายผู้เฒ่าและฮูหยินสกุลเสิ่นนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ทั้งคู่ พร้อมด้วยเหล่าอี๋เหนียง* บุตรชายสองสามคนที่ยังไม่ได้ออกเรือน และคุณชายอีกคนหนึ่ง เด็กสาวที่ถูกเสิ่นกุยหย่ายกมือชี้เอาแต่ก้มหน้างุดไม่ส่งเสียง

วันนี้ทางจวนอัครเสนาบดีมาขอชื่อและเวลาตกฟากฝ่ายหญิงไปผูกดวงตามธรรมเนียม โดยคนที่พวกเขาต้องการสู่ขอคือคุณหนูสามสกุลเสิ่น หรือก็คือเสิ่นกุยเยี่ยนผู้กำลังถูกเสิ่นกุยหย่าชี้หน้าอยู่ในตอนนี้

จริงอยู่ที่สกุลเสิ่นเป็นตระกูลขุนนาง ทว่านายผู้เฒ่าเสิ่นเป็นเพียงรองเสนาบดีขั้นสี่เท่านั้น สามารถเกี่ยวดองกับตระกูลของอัครเสนาบดีได้เช่นนี้ถือว่าอาจเอื้อมของสูง การแต่งงานครานี้จึงทำให้เสิ่นกุยหย่าริษยาจนดวงตาร้อนผ่าว

“เจ้าไม่ยอมแล้วจะมีประโยชน์อันใด” นายผู้เฒ่าเสิ่นเอ็ด “เอะอะโวยวายเช่นนี้ใช้ได้หรือ นึกว่าใครอยากเข้าไปอยู่ในจวนอัครเสนาบดีก็ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปได้หมดหรือไร คู่ครองคนนี้เยี่ยนเอ๋อร์ได้มาด้วยตัวนางเอง ไม่มีผู้ใดไขว่คว้ามาให้นางทั้งนั้น”

เสิ่นกุยหย่าอารมณ์เสียสุดขีด “ที่ไปเยี่ยมคารวะจวนอัครเสนาบดีครานั้น หากไม่เป็นเพราะท่านพ่อลำเอียงพาแต่กุยเยี่ยนไปคนเดียว มีหรือวาสนาเช่นนี้จะหล่นใส่ศีรษะนาง เช่นนี้ยังไม่เรียกว่า ‘ไขว่คว้ามาให้นาง’ อีกหรือเจ้าคะ”

“โอหัง!” นายผู้เฒ่าเสิ่นตบลงบนเท้าแขนเก้าอี้อย่างมีโทสะ “พ่อจะทำอะไรต้องให้เจ้าคอยกำกับด้วยหรือ”

เสิ่นฮูหยินที่นั่งอยู่ข้างๆ สะดุ้งเฮือก รีบเอ่ยขึ้น “หย่าเอ๋อร์เลิกโวยวายทีเถิด การแต่งงานของกุยเยี่ยนถูกกำหนดมานานแล้ว ตอนนี้ก็เพียงถามชื่อกับเวลาตกฟาก** ไปผูกดวงตามขั้นตอนเท่านั้น เจ้าจะมาเต้นเร่าๆ ไปด้วยเหตุใดกัน”

การแต่งงานระหว่างเสิ่นกุยเยี่ยนกับกู้เจาตงบุตรชายของอัครเสนาบดีถูกกำหนดไว้ตั้งแต่นางอายุแปดขวบ เสิ่นกุยหย่าเองก็รู้ แต่ก่อนหน้านี้นางไม่เคยเห็นกู้เจาตงมาก่อนนี่! เพิ่งได้พบเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาสะกดใจ บุคลิกโดดเด่นสง่างาม แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้เสิ่นกุยเยี่ยนได้บุรุษดีๆ เช่นนี้ไปครอง

คนที่นางชิงชังที่สุดก็คือเสิ่นกุยเยี่ยนนี่ล่ะ ทั้งที่ร่วมบิดาเดียวกัน เสิ่นกุยเยี่ยนกลับงามเฉิดฉันกว่าพี่สาวน้องสาวทุกคน รูปงามอย่างเดียวยังพอว่า นี่ยังเหมือนเทพบนสวรรค์เข้าข้างแต่เด็ก ท่องจำโคลงพันคำได้ตั้งแต่อายุห้าขวบ ดีดพิณเป็นเพลงได้ตั้งแต่อายุหกขวบ แต่งกลอนครบบทภายในเวลาหนึ่งก้านธูป*** ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ครั้นพออายุแปดขวบยังเข้าตาท่านอัครเสนาบดี ถูกเลือกเป็นว่าที่ลูกสะใภ้

ดวงดีปานนี้จะไม่ให้ผู้อื่นชังน้ำหน้าได้หรือ

“ถึงอย่างไรลูกก็ไม่ยอม!” เพียงคิดถึงรูปโฉมโดดเด่นของกู้เจาตง ใบหน้าของเสิ่นกุยหย่าก็กระตุกริกๆ แล้ว “ท่านพ่อก็ช่างไม่กลัวจะล่วงเกินท่านอัครเสนาบดี ถึงจะส่งสตรีเลือดไพร่ที่มีมารดาเป็นสาวใช้ไปให้เป็นลูกสะใภ้!”

‘เพียะ!’ ในที่สุดนายผู้เฒ่าเสิ่นก็ลุกขึ้นมาสะบัดมือตบบุตรสาว

เสิ่นกุยหย่าเงียบเสียงทันใด ได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา “ท่านพ่อ…”

“ไม่คิดเลยจริงๆ ชีวิตข้าเสิ่นซื่อชิงไม่เคยมีสิ่งใดด่างพร้อย แต่กลับให้กำเนิดเดรัจฉานเช่นเจ้าออกมาได้” นายผู้เฒ่าเสิ่นสั่นเทิ้มไปทั้งร่างด้วยแรงอารมณ์ “กุยเยี่ยนเป็นพี่สาวเจ้า ปกติเจ้าข่มเหงรังแกนาง พ่อก็ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด เวลานี้พี่สาวอุตส่าห์จะได้มีคู่ครองที่ดี เจ้าก็ยังจะขัดขวางอีกหรือ”

น้ำอุ่นเอ่อขึ้นมากบนัยน์ตาเสิ่นกุยหย่าอย่างรวดเร็ว นางยกมือปิดหน้า “ลูกก็ชอบคุณชายกู้เหมือนกันนี่เจ้าคะ ท่านพ่อ! ที่ผ่านมาท่านกับท่านแม่รักใคร่เอ็นดูหย่าเอ๋อร์ที่สุดไม่ใช่หรือ เหตุใดครานี้ถึงไม่ได้เล่าเจ้าคะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ลูกยอมให้นางแต่งงานก็ได้ แต่ลูกจะแต่งตามออกไปด้วย ลูกจะแต่งไปเป็นภรรยาเอกอีกคน…”

สีหน้าของเสิ่นฮูหยินเปลี่ยนไปทันควัน รีบลุกพรวดขึ้นดึงบุตรสาวสุดที่รักมาอยู่ข้างตัว “เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ”

บุตรสาวคนโตได้คู่ครองไม่ดีเท่าบุตรสาวอนุยังพอว่า นี่บุตรสาวคนเล็กยังจะยินยอมพร้อมใจลดตัวแต่งออกไปร่วมสามีกับบุตรสาวของอนุในตำแหน่งภรรยาเอกเหมือนกัน? เสิ่นฮูหยินโมโหจนลมแทบจับ ทว่าเสิ่นกุยหย่าถูกตามใจจนเหลิงมาแต่เด็ก อยากได้อะไรต้องได้ ใครก็รบไม่ชนะนางทั้งนั้น

บุตรสาวอนุที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องเงยหน้าขึ้นในที่สุด เรียวคิ้วโก่งบาง นัยน์ตากลมโตดุจเมล็ดซิ่ง* และริมฝีปากแดงเรื่อประกอบกันเป็นดวงหน้าหมดจดงดงาม ทว่าน้ำเสียงกลับเย็นชายามเอ่ยเอื้อน “น้องห้าคงยังไม่รู้อะไร”

เสิ่นกุยหย่าหันขวับไปมองอีกฝ่ายอย่างชิงชัง

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 3

บทที่ 3 ความผิดพลาด+ใต้แสงจันทร์ แม้สิ่งที่ไทเฮากล่าวจะเป็นประโยคคำถาม แต่ซูโม่อี้ก็รู้ว่านางไม่ได้มีความตั้งใจจะถามเขาเ...

community.jamsai.com