ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 11-12 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นางแอ่นขับขาน สกุณาแซ่ซ้อง บทที่ 11-12

กู้เจาเป่ยไหล่ห่อลงเล็กน้อยด้วยความเจ็บ กระนั้นก็ยังคุกเข่านิ่ง ไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ

อัครเสนาบดีกู้ยังไม่หายโมโห จึงฟาดบุตรชายคนโตไปบ้างทีหนึ่ง ก่อนจะส่งไม้ให้พ่อบ้านสกุลกู้ที่อยู่ด้านหลัง “โบยไอ้ลูกไม่รักดีสองคนนี้ให้ตาย!”

เสิ่นกุยเยี่ยนนั่งอยู่อีกด้าน นางเพิ่งจะกินอาหารเช้าเสร็จก็ต้องมาเห็นฉากนี้ ทำเอานางรีบลุกขึ้นร้องห้ามด้วยความตกใจ “ท่านอัครเสนาบดีโปรดอย่าได้โมโหไปเลยเจ้าค่ะ”

อัครเสนาบดีกู้หันมามองนางด้วยแววตาเสียดาย “ข้าอบรมบุตรไม่ดีเอง ทำให้คุณหนูสามต้องเจ็บช้ำน้ำใจ”

เสิ่นกุยเยี่ยนส่ายหน้า ความจริงกู้เจาเป่ยไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งยังถูกนางแทงด้วยซ้ำไป

“อย่าโบยเจาตงอีกเลยเจ้าค่ะ” เสิ่นกุยหย่าที่อยู่ด้านหลังเห็นกู้เจาตงถูกโบยสองทีก็ถลาเข้ามาสะอื้นไห้ “เจาตงถูกบังคับให้แต่งงานกับข้า จะตัดใจจากพี่สามไม่ได้ก็ควรแล้ว เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ขอท่านพ่อโปรดตัดสินให้ถ้วนถี่ด้วย!”

กู้เจาตงสะท้านเฮือกแล้วหันไปมองนาง “หย่าเอ๋อร์…”

เสิ่นกุยหย่าเอาตัวบังเขาไว้อย่างปกป้อง มองอัครเสนาบดีกู้ด้วยสีหน้าใจกว้าง “ข้ารู้อยู่แล้วเจ้าค่ะว่าเจาตงมาที่นี่ ยังฝากเขาทักทายพี่สามด้วยซ้ำ เขาไม่มีวันทำเรื่องเสื่อมเสียแน่นอน ดังนั้นท่านพ่อโปรดอย่าได้ลงโทษเขาเลยได้หรือไม่เจ้าคะ”

อัครเสนาบดีกู้อึ้งไปเล็กน้อย ด้วยคิดไม่ถึงว่าคุณหนูห้าสกุลเสิ่นจะเป็นสตรีที่ทุ่มเทให้กับความรักถึงเพียงนี้ จากที่ตอนแรกไม่พอใจในตัวนางอยู่มาก เขาก็รู้สึกว่านางดูรื่นหูรื่นตาขึ้นไม่น้อย

เขาเองก็เฆี่ยนตีบุตรชายคนโตไม่ลงเหมือนกัน ใครเล่าจะคาดคิดว่าชายหนุ่มที่รู้กาลเทศะ เป็นที่ชื่นชมของใครต่อใครมาโดยตลอดจะทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ได้

“เฮ้อ” ในเมื่อลูกสะใภ้ยกบันไดมาให้ลง เขาจึงยอมลดท่าที “ตงเอ๋อร์ไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสีย รอกลับจวนค่อยลงโทษก็แล้วเลยกัน เช่นนั้นเป่ยเอ๋อร์เล่า เจ้าทำเรื่องงามหน้าไว้ กล้าพูดกับพ่อหรือไม่”

นายผู้เฒ่าเสิ่นยังสลบไสลไม่ได้สติ ห้องโถงใหญ่จึงมีแต่เสิ่นกุยเยี่ยนกับบรรดาอี๋เหนียง ไม่มีใครกล้าพูดแทรกสักคน

กู้เจาเป่ยที่ถูกโบยหลังไปห้าหกทีฉีกยิ้มกว้าง “กล้าทำจะไม่กล้าพูดได้อย่างไรเล่า ท่านพ่อ ข้าจะแต่งคุณหนูสามสกุลเสิ่นเข้าจวนขอรับ”

“เหลวไหล!” อัครเสนาบดีกู้โมโหขึ้นมาอีก “เจ้าอยากแต่งก็ต้องให้ข้าเห็นชอบถึงจะแต่งได้ ขั้นตอนในสามหนังสือหกพิธี* เจ้าไม่ได้ทำแม้แต่อย่างเดียวก็ชิงทำให้ชื่อเสียงฝ่ายหญิงมัวหมองก่อนแล้ว หากเรื่องนี้แพร่ออกไปสกุลกู้เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

“หน้าตาสำคัญนักหรือ” กู้เจาเป่ยหัวเราะเบาๆ “ท่านพ่อห่วงหน้าตาเกินไปแล้ว”

“เจ้า!” ผู้เป็นบิดาลุกพรวดขึ้นยืนอย่างมีโทสะ แล้วดึงไม้จารึกกฎตระกูลที่พ่อบ้านถืออยู่มาลงมือเอง “ไอ้ลูกอกตัญญู!”

‘ผัวะ!’ ไม้ไผ่ที่ทั้งแข็งทั้งกว้างฟาดลงบนหลัง เพียงได้ยินเสียงยังทำให้สะท้านทั้งที่ไม่หนาว เสิ่นกุยเยี่ยนยืนอยู่อีกทาง เห็นกู้เจาเป่ยคุกเข่าตัวตรงก็อดก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่งไม่ได้ “ท่านอัครเสนาบดีเจ้าคะ คุณชายสี่เขา…ไม่จำเป็นต้องลงโทษตามกฎตระกูลรุนแรงเช่นนี้ก็ได้เจ้าค่ะ”

พูดจบนางก็นึกเสียใจนัก เพราะถ้อยคำเหล่านี้ไม่ควรหลุดออกจากปากนางซึ่งเป็นผู้เสียหาย จู่ๆ จะสงสารเจ้าคนเสเพลนี่ด้วยเหตุใดกัน

อัครเสนาบดีกู้ยอมหยุดมือ ส่วนกู้เจาเป่ยเงยหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อขึ้นมองนางพลางหัวเราะเบาๆ “เห็นหรือไม่ อันที่จริงคุณหนูสามก็ชอบข้ายิ่งนักมิใช่หรือ”

กู้เจาตงผงะแล้วมองมาทางนี้บ้าง เสิ่นกุยเยี่ยนมุมปากกระตุก ก่อนจะถอยหลังไปก้าวหนึ่งพลางบอกอย่างเด็ดเดี่ยว “โบยให้ตายไปเสียดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าไม่ควรพูดมากเลย”

แต่พอถูกเสิ่นกุยเยี่ยนขัดจังหวะ อัครเสนาบดีกู้ก็โบยต่อไม่ลงแล้ว กู้เจาเป่ยยังสวมเสื้อคลุมกันลมของพี่ชาย โชคดีที่เป็นเสื้อสีดำ แม้เลือดจะซึมออกมาก็มองไม่เห็น แต่น่ากลัวว่าเสื้อที่อยู่ข้างในคงกลายเป็นสีแดงไปนานแล้ว

“ใต้เท้าเสิ่นเป็นอย่างไรบ้าง” อัครเสนาบดีกู้ถามพลางปล่อยมือจากไม้จารึกกฎตระกูล

เสิ่นกุยเยี่ยนย่อกายคารวะทีหนึ่ง “ท่านพ่อนอนป่วยอยู่บนเตียงเจ้าค่ะ”

ผู้อาวุโสถอนหายใจเฮือก จากนั้นก็มองนาง “ข้าเองก็ปรารถนาให้เจ้ามาเป็นสะใภ้สกุลกู้เราเช่นกัน แต่ไม่นึกเลยว่าการแต่งงานครานี้จะเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เรื่องกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว…ข้าขอถามเจ้าก่อน เจ้าสมัครใจจะแต่งมาเป็นภรรยาของเป่ยเอ๋อร์หรือไม่”

เสิ่นกุยเยี่ยนหลุบตาลง ปัญหาข้อนี้นางคิดมาแล้วเมื่อคืน ยามนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วไม่ใช่หรือ แต่งกับคนเสเพลตัวจริงย่อมดีกว่าแต่งกับบุรุษจอมปลอม

แต่การพูดจาต้องมีศิลปะชั้นเชิง นางจะตกปากรับคำทันทีไม่ได้ ดังนั้นจึงเพียงแค่ย่อกายคารวะอย่างสุภาพ “เยี่ยนเอ๋อร์ผิดต่อความเอ็นดูที่ท่านอัครเสนาบดีมีให้ เวลานี้เยี่ยนเอ๋อร์มีมลทินเสียแล้ว ไม่มีสิทธิ์พูดอีกต่อไปว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง ขอเพียงเป็นการตัดสินใจของท่านพ่อ เยี่ยนเอ๋อร์ย่อมยินดีทำตามทุกประการเจ้าค่ะ”

อัครเสนาบดีกู้พรูลมหายใจอย่างโล่งอกแล้วเอ่ยเบาๆ “ดีที่เจ้ารู้ว่าอะไรควรไม่ควร หากเจ้าไม่อยากแต่งแล้วเกิดคิดสั้นขึ้นมา มิตรภาพระหว่างข้ากับซื่อชิงคงต้องมีอันขาดสะบั้นลงเท่านี้เป็นแน่”

เสิ่นกุยเยี่ยนก้มหน้า เป็นไปไม่ได้ที่นางจะตาย รอบตัวยังมีคนเลวอยู่ดีมีสุขตั้งมากมาย เรื่องอะไรนางต้องรนหาที่ตายด้วยเล่า หากจะตายก็ต้องลากคนพวกนี้ไปตายด้วยกัน นางจะได้มีเพื่อนร่วมทาง

ส่วนกู้เจาเป่ย นางผินหน้ามองเขาแวบหนึ่ง บุรุษผู้นี้ยังประดับรอยยิ้มเยาะหยันบนใบหน้าเหมือนเดิม พร้อมกันนั้นก็กัดฟันเหยียดริมฝีปากด้วยความเจ็บ แต่คงเป็นเพราะแดดส่องฟ้าอยู่ข้างนอก เขาจึงดูหล่อเหลาขึ้นเล็กน้อย

นางจำต้องหาใครสักคนมาพานางไปให้พ้นจากที่นี่ แล้วเขาก็เข้ามาพอดี นี่อาจเป็นโชคชะตากระมัง ในเมื่อชะตาต้องกันนางก็ควรลองดูสักตั้ง อีกอย่างก็ต้องมีคนช่วยนางลบเลือน ‘บุรุษจอมปลอม’ ออกจากหัวใจด้วย

อัครเสนาบดีกู้ไปเยี่ยมนายผู้เฒ่าเสิ่นที่เรือนใหญ่ พวกคุณหนูกับอี๋เหนียงในห้องโถงใหญ่ก็ตามไปด้วย แต่คุณชายสกุลกู้ทั้งสองยังคุกเข่าอยู่ที่เดิมเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ลุกขึ้น

“เจ้าจะแต่งกับเขาหรือ” กู้เจาตงเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นกุยเยี่ยนด้วยแววตาร้อนรน “เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าจะแต่งกับเขาได้อย่างไร!”

เสิ่นกุยเยี่ยนที่ยังนั่งอยู่อีกด้านหัวเราะเบาๆ “คุณชายใหญ่แต่งกับสตรีอื่นได้ แล้วเหตุใดเยี่ยนเอ๋อร์จะแต่งกับบุรุษอื่นไม่ได้เล่า อีกอย่างข้ากับคุณชายสี่ก็มีสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว ต่อให้ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่งกระมัง”

กู้เจาเป่ยคำรามในคอเบาๆ พลางเอามือยันพื้น แผ่นหลังแสบร้อนเหมือนถูกไฟคลอก เจ็บเสียจนใบหน้าของเขาซีดเผือด แต่เมื่อได้เห็นว่าใบหน้าของพี่ชายก็ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไร เขาก็เบิกบานใจขึ้นมา “พี่ใหญ่รักพี่เสียดายน้องอย่างนั้นหรือ พี่สะใภ้ก็อยู่กับท่านตรงนี้แท้ๆ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com