ทดลองอ่าน ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า… คือข้าผู้เดียว บทที่ 2 – หน้า 14 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า… คือข้าผู้เดียว บทที่ 2

14 of 14หน้าถัดไป

ฝูอวิ๋นวางท่าเป็นนักเลงผิดจากที่ผ่านมา มาดอันใหญ่โตนั้นเรียกได้ว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปกดขี่คุกคาม

ซูเพียนจื่อเผชิญหน้าอยู่กับสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงโขยงใหญ่ที่มีเขี้ยวเล็บคมกริบและจ้องจับคนกินอยู่ทุกเวลาเช่นนี้ หากบอกว่าไม่กลัวก็คือคำโกหก ทว่าน่าแปลกที่เมื่อกลัวจนถึงขีดสุดแล้ว นางกลับกลายเป็นเยือกเย็นผิดธรรมดา สีหน้าก็ยิ่งสงบเคร่งขรึม ท่าทีเฉยเมยสุดจะจับทางได้นั้นเกินวัยของสาวน้อยโดยสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าท่าทีอันลุ่มลึกสุดหยั่งนี้สามารถเขย่าขวัญสัตว์อสูรที่มีสติปัญญาค่อนข้างสูงเหล่านั้นได้ เพราะจากที่พวกมันเคยรับรู้มา การโจมตีของผู้ฝึกวิชาที่มีผมยาวประบ่าก็เพียงพอจะทำให้พวกมันต้องหนีกันหัวซุกหัวซุนแล้ว นับประสาอะไรกับยอดฝีมือที่มีผมยาวจรดเอวเล่า!

น่ากลัวว่าดัชนีเดียวก็สามารถบี้พวกมันให้ตายได้แล้วกระมัง

แม้กระทั่งบรรดาลูกพี่ยังหวาดหวั่น สัตว์อสูรตัวอื่นที่มีฝีมืออ่อนด้อยกว่าก็ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ดวงตาสีเขียวแต่ละคู่ล้วนหลุกหลิกเผยแววขลาดกลัว พวกที่ใจเสาะหน่อยถึงขั้นทนไม่ไหวก้าวถอยหลังไปก่อนแล้ว

ช่างราบรื่นดีเหลือเกิน!

ขณะที่ซูเพียนจื่อลอบยินดีว่าสัตว์อสูรสมองทึบ ถูกขู่ขวัญได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ หมาป่ายักษ์สีครามตัวหนึ่งก็พุ่งพรวดออกมาแผดเสียงประท้วง “พวกเราบุกยึดอำเภอแห่งนี้กันอย่างเหนื่อยยาก พี่น้องมากมายยังกินกันไม่อิ่มเลย แค่ม้าตัวนี้พูดประโยคเดียวก็จะให้พวกเราไป? ไหนเลยมีเรื่องเอารัดเอาเปรียบกันเช่นนี้!”

ได้ยินมันโวยวายดังนั้น สัตว์อสูรตัวอื่นก็ชะงักฝีเท้าเริ่มลังเลใจขึ้นมา

ซูเพียนจื่อแทบอยากสั่งฝูอวิ๋นให้ถีบส่งเจ้าหมาป่ายักษ์สีครามที่สมควรตายตัวนี้กลับบ้านเก่าไปในเท้าเดียว

ฝูอวิ๋นแค่นเสียงฮึก่อนพูดข่มขู่ “นายข้าไม่อยากทำร้ายถูกคนบริสุทธิ์ ขืนพวกเจ้ายังไม่ไปก็อย่ามาโทษว่าพวกเราไม่เกรงใจ” มันพูดพลางเดินกลางอากาศไปข้างหน้าหลายก้าว พลังอันสูงส่งบนร่างยิ่งทวีความเข้มข้น เหล่าสัตว์อสูรจึงหวั่นใจขึ้นมาอีก ทว่าก็ยังไม่ล่าถอย

สองฝ่ายจึงประจันหน้ากันอยู่เช่นนั้น ซูเพียนจื่อกระวนกระวายอยู่ในใจ ด้วยรู้ดีว่ายิ่งยืดเยื้อนานเท่าไร ความแคลงใจของเหล่าสัตว์อสูรก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น และความเป็นไปได้ที่ฝ่ายตนจะช่วยคนสำเร็จก็จะยิ่งน้อยลงตามไปด้วย จะทำอย่างไรดี

เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน!

ซูเพียนจื่อลอบกัดฟันก่อนจะตบคอฝูอวิ๋นเบาๆ เป็นความหมายให้มันเดินตรงไปที่ข้างกายของเด็กทั้งสอง

สาวน้อยค้นพบระหว่างทางว่านับแต่ที่ฝูอวิ๋นปฏิญาณยอมรับเจ้านาย ทั้งสองก็ดูเหมือนจะสื่อใจกันได้ด้วยสัมผัสพิเศษชนิดหนึ่ง ทำให้ต่างรับรู้ถึงเจตนาของกันและกันคร่าวๆ โดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา

ฝูอวิ๋นรับรู้ได้จริงเสียด้วย มันเดินเชิดหน้าสะบัดหาง ย่างเท้ากลางอากาศไปอยู่เหนือวงล้อมของสัตว์อสูร จากนั้นก็ใช้ท่วงท่าอันผ่อนคลายร่อนลงไปที่ข้างกายของเด็กน้อยทั้งสองซึ่งตกใจจนลืมร้องไห้ไปแล้ว

ซูเพียนจื่อรวบรวมความกล้าอย่างที่สุดเพื่อบังคับตนเองให้จ้องตรงไปหาบรรดาสัตว์อสูรดุร้ายที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสามฉื่อ ขณะเดียวกันในใจก็พูดให้กำลังใจตนเองว่า…แข็งใจไว้! ห้ามแสดงอาการขลาดกลัวออกไปแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ควรเป็นพวกมันที่กลัวฝ่ายเราถึงจะถูก คิดซะว่าพวกมันเป็นหมาแมวจรจัดหรือก้อนหินท่อนไม้ก็แล้วกัน!

เมื่อสายตาที่เย็นเยียบดุจน้ำแข็งเพ่งตรงไปจับบนร่างของสัตว์อสูรทีละตัว ผนวกกับพลังอันสูงส่งและกล้าแข็งที่ฝูอวิ๋นแผ่พุ่งออกไป ก็ทำให้เหล่าสัตว์อสูรต้องถอยร่นไปอีกหลายก้าวอย่างห้ามไม่อยู่

ต้องอย่างนี้สิ! ยิ่งฝ่ายเราวางโตเท่าไร พวกมันก็ยิ่งไม่กล้าเปิดฉากบุกก่อน!

ซูเพียนจื่อข่มลมหายใจให้มั่นคง ก่อนจะก้มหน้ามองไปยังเด็กน้อยสองคนที่อยู่บนพื้น มือของเด็กชายกอดเด็กหญิงที่ร่วงตกพื้นไปก่อนเอาไว้อย่างแนบแน่น ปากก็พร่ำปลอบอีกฝ่ายเสียงเบา “น้องสาวไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ท่านแม่อยู่บนสวรรค์ไปเชิญพี่สาวเทพธิดามาช่วยพวกเราแล้ว”

“อื้ม” เสียงของเด็กหญิงฟังคล้ายลูกแมว แววตากล้าๆ กลัวๆ ของนางมองพิจารณาซูเพียนจื่อที่ขี่อยู่บนอาชาเทพตัวสูงใหญ่ ไม่ช้าความเชื่อมั่นและเลื่อมใสศรัทธาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนางอย่างเข้มข้น

“บ้านของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน ข้าจะส่งพวกเจ้ากลับไปเอง” ซูเพียนจื่อสอบถามด้วยสีหน้าที่ยังคงนิ่งเย็น ในสายตาของเด็กทั้งสองกับเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่โดยรอบแล้ว นี่เป็นภาพที่แลดูสูงส่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ประหนึ่งเทพเจ้าผู้อยู่เบื้องบนกำลังก้มมองสรรพชีวิตด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย

มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้…ว่าตนเองขวัญกระเจิงจนใบหน้าแข็งทื่อไปแล้วต่างหาก

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 ก.พ. 64

14 of 14หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com