ไม่เฉพาะแต่ศิษย์ด้านนอกตำหนักที่เอะอะมะเทิ่ง กระทั่งสีหน้าของซูเทียนหวาที่อยู่ในตำหนักก็ดูไม่จืด
“อันเดียวก็เพียงพอเจ้าค่ะ อีกอย่าง…ข้าคงไม่จำเป็นต้องไปยืนตรงใจกลางกระมัง” ซูเพียนจื่อสอบถาม
สีหน้าของผู้คุมสอบพลันเขียวคล้ำอยู่บ้าง หากไม่ไปยืนตรงใจกลางของชั้นวางเทียนไข นางคิดจะจุดเทียนไขด้วยการวนอ้อมชั้นวางหนึ่งรอบหรืออย่างไรกัน วิธีแบบนั้นยังหวังจะจุดเทียนไขหกสิบเล่มขึ้นไปในเวลาชั่วหนึ่งอึดใจอีก นี่มันเด็กโง่งมที่กำลังฝันเฟื่องอยู่ชัดๆ เว้นก็แต่นางคือผู้ฝึกวิชาขั้นชำระไขกระดูกระดับสูงสุด!
ทุกคนล้วนมองพิจารณาซูเพียนจื่อด้วยสายตาที่ใช้มองคนวิกลจริต จริงดังคำที่ว่า ‘สมองของอัจฉริยะล้วนมีปัญหาอยู่บ้าง’
“ซูเพียนจื่อ ข้าขอเตือนเจ้าว่าที่นี่คือสนามสอบย่อยของศิษย์ระดับต้น ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาทำตัวเหลวไหล” ผู้คุมสอบถลึงตากล่าว
“ข้ารู้เจ้าค่ะ ก็คือการจุดเทียนไขทั้งหนึ่งร้อยเล่มภายในเวลาชั่วหนึ่งอึดใจไม่ใช่หรือ ข้าจริงจังมากนะเจ้าคะ” ซูเพียนจื่อเอ่ยด้วยสีหน้าเช่นผู้บริสุทธิ์
ผู้คุมสอบหางตาเต้นตุบๆ พลางตอบหน้าขรึม “มิผิด เช่นนั้นเจ้าก็เตรียมตัวเริ่มได้”
ซูเพียนจื่อยกแขนทำท่าเตรียมพร้อม ขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจรอนางเริ่มต้น นางก็พลันหดมือหันกลับมาถามผู้คุมสอบว่า “ขอเพียงข้าจุดเทียนไขได้ทั้งหนึ่งร้อยเล่ม การสอบย่อยครั้งนี้ก็จะได้คะแนนเต็มถูกต้องหรือไม่”
“ถูกต้อง!” ผู้คุมสอบถูกท่าทางอวดดีของนางยั่วโทสะจนเกือบจะคว่ำโต๊ะเดินจากไปแล้ว
“เช่นนั้นพวกท่านก็ช่วยไปยืนไกลหน่อย อย่าได้รบกวนข้าสำแดงฝีมือ” ซูเพียนจื่อเรียกร้องอย่างหนักแน่นเยือกเย็น
ผู้คุมสอบแค่นหัวเราะติดกันอย่างเย็นชา เขาเพียงโบกมือครั้งเดียวก็ถอยไปที่มุมตำหนักพร้อมกับคนอื่นๆ กระทั่งซูเทียนหวาก็จำต้องกัดฟันถอยตามไปด้วย
พวกเขาจะดูซิว่าซูเพียนจื่อมีปัญญาจุดเทียนไขหนึ่งร้อยเล่มนี้ด้วยมือเดียวในเวลาชั่วหนึ่งอึดใจได้อย่างไร
เหล่าศิษย์ที่ล้อมชมอยู่นอกตำหนักต่างก็เงียบเสียงรอดูเด็กสาวที่โอหังอวดดีนี้ปล่อยไก่ตัวโต
ซูเพียนจื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันหลังให้คนทั้งหมด มือข้างหนึ่งของนางล้วงหยิบ ‘อาวุธลับ’ ออกจากแขนเสื้อกว้างอย่างระมัดระวัง ส่วนมืออีกข้างก็ชูคบไฟขึ้นสูง…
เหง่ง!
สิ้นเสียงย่ำระฆัง ซูเพียนจื่อก็ใช้ท่วงท่าที่ได้มาตรฐานขว้างสิ่งของในสองมือไปทางชั้นวางเทียนไขแล้วหันขวับออกวิ่งในทันที
เพล้ง!
เปรี้ยง!
ถัดจากเสียงกังวานใสของโถกระเบื้องที่ตกพื้นแตกละเอียด ก็คือเสียงที่ดังกัมปนาทกับแสงเพลิงที่พวยพุ่งขึ้นฟ้า ตำหนักทั้งหลังถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงวูบหนึ่ง
คนทั้งหมดเห็นเพียงแสงเพลิงลุกโพลงอยู่ตรงทิศทางของชั้นวางเทียนไข และสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนระลอกแล้วระลอกเล่าที่แผ่พุ่งมาปะทะใบหน้า จึงพากันร้องอุทานเสียงดังอย่างไม่อาจข่มกลั้น