ที่ไหล่เขาถ้ำพันจิ้งจอก ภายในป่าร้อยสัตว์อันเป็นสถานที่จัดการสอบย่อยสนามที่ยี่สิบของศิษย์ระดับต้นนั้น ซูเพียนจื่อไม่รู้สักนิดว่าความสุขจะมาเยือนกะทันหันเช่นนี้ เพราะการตัดสินใจของซูถิงหยวน ความยากเข็ญที่นางจะเข้าใกล้คลังสมบัติสกุลซูจึงลดลงไปมาก ขอเพียงนางผ่านการสอบย่อยของศิษย์ระดับต้นสนามสุดท้ายนี้ไปได้อย่างราบรื่น นางก็จะได้เลื่อนเป็นศิษย์ระดับกลาง และก็จะมีสิทธิ์ได้เข้าไปสำรวจในคลังสมบัติบนยอดเขาด้วยตนเองแล้ว
ทว่าขณะนี้นางกำลังยุ่งมาก ยุ่งอยู่กับการแกะรอยหมีสีน้ำตาลขนทองซึ่งอำมหิตดุร้ายที่สุดในป่าร้อยสัตว์
อาศัยความสามารถของนางไม่มีทางจะหลบรอดหูตาของสัตว์ป่ามากมายในป่าร้อยสัตว์ไปได้เป็นอันขาด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้วิธีที่แน่นอนที่สุดก็คือการอยู่ข้างกายสัตว์ป่าที่กล้าแข็งกว่าใครในที่แห่งนี้ หากใช้ภาษิตหนึ่งมาบรรยายแผนการของนาง นั่นก็คือจิ้งจอกแอบอ้างบารมีพยัคฆ์
ก่อนการสอบย่อยนางได้ศึกษาค้นคว้าชนิดของสัตว์ป่าทั้งหมดในป่าร้อยสัตว์มาแล้วอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งรวมไปถึงความชอบพิเศษและกิจวัตรความเคยชินของพวกมันด้วย จากนั้นจึงได้คิดวิธีที่เสี่ยงภัยนี้ออกมา
ตอนนี้สาวน้อยเพียงภาวนาให้ตนเสาะพบถ้ำที่อยู่ของหมีสีน้ำตาลขนทองโดยเร็ว ก่อนที่นางจะถูกสัตว์ป่าชนิดอื่นพบเจอตัว
ตามข้อมูลที่ซูเพียนจื่อได้มา หมีสีน้ำตาลขนทองในป่าร้อยสัตว์มีอยู่สองตัว พวกมันอาศัยอยู่ในถ้ำทางทิศเหนือของป่า ปกติยามกลางวันจะหลับอุตุอยู่ละแวกถ้ำ พอตกกลางคืนจึงจะเข้าป่าไปหาอาหาร
ระยะทางจากประตูหลังของตำหนักไปถึงถ้ำที่พักของหมีสีน้ำตาลขนทองนั้นราวห้าหลี่ ซูเพียนจื่อใช้มีดเล็กตัดกิ่งเถาไม้เลื้อยที่เหมาะสมมาพาดคล้องไว้บนลำตัวเพื่อทำเป็น ‘ชุดพราง’ อย่างง่ายๆ ก่อนจะชโลมบนเสื้อผ้าด้วยน้ำสมุนไพรปริมาณมากที่สัตว์ป่ารวมทั้งงูและหนอนแมลงโดยทั่วไปเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งตัวนางเองก็ยังถูกกลิ่นพิกลนั้นรมจนรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง
แต่เมื่อคิดว่าชุดแต่งกายนี้สามารถกลบกลิ่นอายของนาง รวมทั้งทำให้สัตว์ป่าและงูเงี้ยวเขี้ยวขอรังเกียจเดียดฉันท์ นางก็รู้สึกว่าคุ้มค่ายิ่ง
สาวน้อยค่อยๆ เดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนืออย่างระมัดระวัง ในใจกลัวแต่ว่าหากท่วงท่าใช้แรงมากไปจะทำให้เกิดเสียงได้ ในป่าร้อยสัตว์แห่งนี้ไม่ว่าสัตว์ป่าตัวใดก็เพียงพอจะคร่าชีวิตน้อยๆ ของนางได้แล้ว ใต้ฝ่าเท้ามีแต่รากไม้ที่พัวพันสลับซับซ้อน กับหญ้าป่า และก้อนหิน เมื่อเดินไปทุกหนึ่งช่วงสั้นๆ นางจะหลบหลังต้นไม้แล้วโยนหินหลายก้อนออกไป เพื่อหยั่งเชิงและถือโอกาสทำให้งูพิษในพุ่มไม้ตกใจจากไปด้วย เรียกได้ว่าทุกฝีก้าวล้วนเหยียบย่างไปอย่างอกสั่นขวัญแขวน
โชคของนางนับว่าไม่เลวทีเดียว ประกอบกับยามกลางวันมีสัตว์ดุร้ายที่หากินอยู่ในป่าไม่มากนัก ตลอดทางจึงไม่พบเจออุปสรรคใหญ่โตอะไร บางครั้งบางคราปะทะกับบรรดาสัตว์ป่าขนาดเล็ก นางก็หลบเลี่ยงได้ด้วยความตื่นตัว ระยะทางสั้นๆ เพียงห้าหลี่นางถึงกับเดินอยู่หนึ่งชั่วยามเศษ ระหว่างนั้นจิตใจตึงเครียด พาให้รู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดินมาทั้งวันเสียอีก
ที่น่าแปลกที่สุดคือ…นางมักรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างลอบจับตาดูนางอยู่ ทว่าเมื่อแอบสังเกตอยู่หลายหนกลับไม่พบเจออะไรเป็นพิเศษ