ซูเพียนจื่อใคร่ครวญอยู่ในใจก่อนจะแสร้งถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “กำไลแขนวงนี้สำคัญมากหรือเจ้าคะ”
ซูถิงหยวนมองนางอย่างลึกซึ้งก่อนกล่าว “เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่ามันคืออะไร ไม่ต้องเสแสร้งหรอก”
จิ้งจอกเฒ่า! ซูเพียนจื่อถูกอีกฝ่ายทำให้ตกใจไม่ใช่น้อย สมแล้วที่เป็นประมุขแห่งตระกูลสิบแปดมงกุฎ ตบตาไม่ได้ง่ายๆ เลยจริงๆ!
ว่าแต่ที่แท้นางเผยพิรุธตรงไหนกันแน่นะ
“ก่อนหน้านี้เจ้าไม่มีพิรุธใดๆ ทั้งสิ้น แต่แค่ถูกข้าขู่ขวัญหน่อยเดียวเท่านั้น แววตาก็เผยความผิดปกติในทันที” ซูถิงหยวนเอ่ยกลั้วหัวเราะ จิ้งจอกน้อยคิดมาเสแสร้งต่อหน้าเขายังอ่อนหัดเกินไป
หู่หลี่ฝากบุตรสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไว้ให้พวกเราสกุลซู ช่างดียิ่งนัก!
ซูถิงหยวนมองท่าทางกระอักกระอ่วนของหลานสาวอย่างภูมิอกภูมิใจ พลางลูบเครายาวของตนเบาๆ และอมยิ้ม
เขาไม่ต้องกังวลใจเรื่องที่ซูเพียนจื่อไร้พรสวรรค์เชิงยุทธ์อีกแล้ว เพราะในเมื่อไร้นามวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของสกุลซูเลือกนาง เช่นนั้นนางก็ไม่มีทางเป็นผู้อ่อนแออย่างแน่นอน ต่อจากนี้ก็เพียงรอดูว่าไร้นามจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของนางอย่างไรเท่านั้น
สองผู้เฒ่ากับหนึ่งผู้เยาว์ต่างนิ่งเงียบอย่างรู้ใจกัน มีเพียงซูป๋ออวิ๋นที่จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังใบ้ปริศนาอะไรอยู่กันแน่
ซูถิงหยวนอารมณ์ดียิ่ง เขาเบนสายตาไปมองซูป๋ออวิ๋นแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แล้วเจ้าเล่าเลือกของดีอะไรมาจากในคลังสมบัติ”
แม้ซูป๋ออวิ๋นเป็นเพียงหลานชายห่างๆ ของเขา ทว่าก็ได้รับความสำคัญจากเขาตั้งแต่เล็ก เขารักถนอมและให้การดูแลอีกฝ่ายยิ่งกว่าเป็นหลานชายแท้ๆ เสียอีก ในยามที่เบิกบานใจเช่นนี้เขาย่อมจะแสดงความห่วงใยไถ่ถามถึงสิ่งที่อีกฝ่ายได้มา
ในมุมมองของผู้อาวุโสหลายคน ซูถิงหยวนเปิดคลังสมบัติในครั้งนี้ก็เพื่อจะเพิ่มพูนฝีมือของเหล่าศิษย์ ให้พวกเขาสามารถสำแดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ จากนั้นจึงจะคัดเลือกศิษย์ที่โดดเด่นเป็นเลิศมาเป็นผู้สืบทอดของถ้ำพันจิ้งจอก
ทว่าความจริงการประเมินเหล่าศิษย์ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเลือกของวิเศษกันแล้วต่างหาก
คนผู้หนึ่งสุดท้ายแล้วจะสำเร็จการใหญ่ได้หรือไม่นั้น ความสามารถ สติปัญญา และอุปนิสัยใจคอล้วนแต่สำคัญยิ่ง ทว่ายังมีปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ไม่อาจขาดตกบกพร่องไปเป็นอันขาด นั่นก็คือโชควาสนา
คลังสมบัติสกุลซูหากจะชมดูอย่างละเอียดจริงจัง ต่อให้ใช้เวลาหนึ่งเดือนก็ยังไม่แน่ว่าจะชมดูได้หมดสิ้น การให้เหล่าศิษย์เลือกของวิเศษจากในคลัง นอกจากทดสอบสายตาของพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือต้องดูที่โชค ดูว่าพวกเขาจะโชคดีพบเจอสิ่งที่เหมาะสมและมีคุณค่ากับตนเองมากที่สุดได้หรือไม่
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในคลังสมบัติ อย่างมากก็พิจารณาของวิเศษอย่างละเอียดได้ไม่กี่สิบชิ้น หากในจำนวนนั้นไม่มีสิ่งที่เหมาะสมกับพวกเขาเป็นพิเศษจริงๆ เช่นนั้นก็ได้แต่ถอนใจให้กับความอับโชคของตนเท่านั้น
แน่นอนว่าศิษย์แต่ละคนเลือกของวิเศษอะไรไปบ้างล้วนต้องลงบันทึกเพื่อส่งมอบถึงมือของซูถิงหยวน
เพียงแต่นี่เป็นเรื่องของวันพรุ่ง ในเมื่อตอนนี้ซูป๋ออวิ๋นก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ถามอีกฝ่ายโดยตรงเสียเลยก็สิ้นเรื่อง
ซูป๋ออวิ๋นหยิบกระบี่สระลึกออกมาแล้วประคองขึ้นด้วยสองมือ ถึงตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่หานจึงได้เห็นของวิเศษที่ผู้เป็นศิษย์เลือกมาชัดถนัดตาอย่างแท้จริง ในที่สุดเขาก็จำได้ว่าต้องเอ่ยถามอีกฝ่าย
“เหตุใดเจ้าจึง…” ทว่าคำพูดเอ่ยออกมาเพียงครึ่งเดียว เขาก็ข่มใจไว้ไม่ได้เอ่ยต่อ