“ดีสิ!” พอฉู่เซวียนฉีมองไป คล้ายกับเปลวไฟน้อยจริงๆ จึงพยักหน้ารับทันที แล้วมองไปทางพี่ใหญ่ “พี่ใหญ่ว่าดีหรือไม่”
“ขอแค่เจ้าชอบก็พอ” ฉู่เซวียนอั๋งตบไหล่น้องชายเพื่อบอกให้กินเร็วๆ แล้วพวกเขาจะเตรียมตัวไปสมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษกัน
ครั้งนี้ไม่ต้องนั่งรถม้า เพียงเดินไปไม่นานก็ถึงสมาคมแล้ว เพราะที่ตั้งของสมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษอยู่ห่างจากหออิ๋งเซียงร้อยกว่าหมี่ เสมือนอยู่ติดกันอย่างไรอย่างนั้น
ที่มีคนกล่าวว่า ‘ถนนที่มีหออิ๋งเซียงจะต้องเป็นถนนที่คึกคักที่สุดในท้องถิ่นนั้นๆ’ ประโยคนี้ไม่ได้กล่าวอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแน่นอน เริ่มแรกสมาคมเป็นองค์กรที่ทรงอำนาจ รู้ทั่วกันในดินแดนเทพยุทธ์ จุดเด่นของแต่ละเมืองจะต้องชัดเจนยิ่งนัก บังเอิญเพราะอาหารอร่อยของหออิ๋งเซียงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบัณฑิต ผู้ดีมีตระกูล รวมถึงพวกชนชั้นสูงในสมาคม เพื่อสะดวกในการทานอาหาร แน่นอนว่าหออิ๋งเซียงยิ่งอยู่ใกล้สมาคมยิ่งดี
ดังนั้นถนนที่เป็นศูนย์รวมของสมาคมต่างๆ และหออิ๋งเซียงไม่คึกคักสิแปลก!
หลังจากกินอิ่ม ฉู่เซวียนอั๋งก็อุ้มน้องสาว สัตว์ตัวน้อยเกาะบนไหล่ฉู่เซวียนฉี พากันเดินไปทางสมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษ
“ถึงแล้ว”
เกือบหนึ่งเค่อต่อมา ฉู่เซวียนอั๋งและน้องๆ ก็มาถึงหน้าประตูสมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษแล้ว
หน้าประตูสมาคมสร้างอย่างยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม มีรูปปั้นหินสีเขียวแกะสลักเป็นรูปสิงโตและเสืออย่างละตัวตั้งขนาบข้าง ทั้งสามคนเดินเข้าไป
ภายในห้องโถงมีเพดานสูง ลักษณะโอ่อ่า นอกจากมีเสาหินรูปสัตว์ไม่กี่ต้นก็ไม่มีสิ่งอื่นตกแต่งเกินความจำเป็น ทว่าครั้นย่างเท้าเข้าไป ทำให้รู้สึกได้เองถึงความโอ่โถงและน่าเกรงขามยิ่ง
ห้องโถงมีผู้คนมากมาย คนจำนวนมากกว่าครึ่งจะนำสัตว์วิเศษมาด้วย ด้านในวางโต๊ะยาวตัวหนึ่ง เป็นฝ่ายต้อนรับชั้นหนึ่ง
ในสมาคมมีคนเข้ามาติดต่อเป็นประจำ ผู้วิเศษพาสัตว์วิเศษมาดำเนินการ แล้วยังมีนักล่าจับสัตว์วิเศษมาทำการซื้อขายที่นี่ หรือผู้ใหญ่พาลูกมาเยี่ยมชม โดยสรุปแล้วที่นี่มีคนรูปแบบต่างๆ นานาปรากฏ แต่การที่จะมีเด็กอุ้มเด็กมาด้วยกันเช่นพวกเขานั้นแทบไม่มี
แม้ทุกคนจะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่เด็กสามคนมาด้วยกันโดยที่ข้างกายไม่มีผู้ใหญ่พามาและไม่มีสัตว์วิเศษ มีเพียงสัตว์เลี้ยง แต่ก็ไม่มีใครสอดรู้สอดเห็นถึงขั้นวิ่งเข้ามาถามพวกเขาว่ามาด้วยเหตุอันใด ดังนั้นฉู่เซวียนอั๋งสามพี่น้องจึงรีบเดินไปยังโต๊ะของคนต้อนรับ
“ท่านคือ…คุณชายใหญ่สกุลฉู่ มีเรื่องอะไรหรือ” คนต้อนรับสายตาเฉียบแหลมนัก จำฉู่เซวียนอั๋งได้ทันที
สกุลฉู่เป็นตระกูลนักยุทธ์ชื่อเสียงเลื่องลือในดินแดนเทพยุทธ์ คนในเมืองฉู่ไม่มีใครไม่รู้จัก แล้วหนึ่งในยอดฝีมือที่โด่งดังที่สุด ฉู่เซวียนอั๋งก็นับว่าเป็นอันดับต้นๆ แม้เขาไม่ใช่ผู้วิเศษ แต่ผู้เลิศล้ำทุกคนต่างเลื่อมใส นักยุทธ์อายุสิบขวบสามารถผ่านถึงขั้นดิน ระดับเจ็ด แม้ขณะนี้เขามีอายุสิบเอ็ดขวบ ก็เป็นที่นับถือของผู้คนเช่นกัน