ฉู่จิ้งเฟิงไม่อยากไปสนใจแววตาหยอกเย้าของคังติ้งอ๋อง
เนื้อสดใหม่คำนี้ เขาคิดถึงมานานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยากจะกินเนื้อคำนี้ไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียว เสิ่นหรูป๋อผู้นั้นวางแผนทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่กลับเป็นการมอบเสื้อมงคลให้เขา
ฉู่จิ้งเฟิงเก่งในการรวบรัดบทเรียน แต่เรื่องศัตรูหัวใจ เขารวบรัดได้น่าอนาถใจยิ่ง ราตรียาวนานความฝันยาวไกล ไม่นอนเสียเลยดีกว่า!
หลังจากงานฉลองวันคล้ายวันประสูติของท่านหญิงไหวอิน ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็ขอลากลับคฤหาสน์เลย
ด้วยกำหนดการแต่งงานให้บุตรสาวคนรองอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ ภายในคฤหาสน์จึงยังไม่ได้เตรียมอะไร ถึงแม้ท่านหญิงไหวอินจะพูดอย่างชัดเจนว่าสกุลฉู่จะจัดการทุกอย่าง แต่สกุลหลี่ใช่ว่าจะจ่ายเงินค่าซองแต่งงานไม่ได้ ต้องเตรียมการให้พร้อมจึงจะดี
ท่านหญิงไหวอินใช้เรือนหลังหนึ่งฝั่งตะวันตกของจวนกลางสวนตรวจนับสินสอดทองหมั้น แก้ป้ายชื่อด้านบนขื่อคานเป็นชื่อสกุลหลี่ ถึงตอนนั้นครอบครัวมิตรสหายของสกุลหลี่สามารถพักอยู่ในเรือนนี้ชั่วคราวได้ คุณหนูรองหลี่ก็ต้องขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวจากที่นี่
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เดิมทีไม่ยอมทิ้งบุตรสาวคนรองเอาไว้ แต่ภายหลังหลี่รั่วฮุ่ยบุตรสาวคนโตบอกว่าจะอยู่ที่นี่คอยดูแลน้องสาว นางจึงยอมกลับไปอย่างสบายใจได้บ้าง
เพราะครั้งนี้คนที่สกุลหลี่พามาปรนนิบัติคุณหนูรองมีเพียงหล่งเซียงกับบ่าวหญิงอาวุโสอีกหนึ่งคน ดังนั้นท่านหญิงจึงคัดเลือกนางกำนัลที่ทำงานเก่งอีกหลายคนมาให้ ส่วนองครักษ์ในเรือนเป็นผู้ใต้บัญชาฝีมือดีของฉู่ซือหม่า
หลังจากฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กลับไปแล้ว หลี่รั่วฮุ่ยแท้จริงแล้วยังรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน ครั้งก่อนกลับบ้านคิดว่าน้องสาวตนเองกับเสิ่นหรูป๋อคงมีวาสนาต่อกันแน่นอนแล้ว รอแค่เพียงกำหนดวันมงคล
เพราะสามีเตรียมย้ายที่ประจำการอยู่ นางก็วุ่นกับการย้ายบ้าน เดิมทีคิดว่าแม้จะไปส่งน้องสาวขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวในวันมงคลไม่ได้ ก็จะเร่งให้ทันตอนที่น้องสาวกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังแต่งงาน กลับบ้านไปกินอาหารร่วมกับน้องสาวน้องเขยสักมื้อ
ผู้ใดจะคิดว่า ต่อมาจะได้รับจดหมายจากท่านแม่ว่าได้ส่งหนังสือยกเลิกการหมั้นหมายกับสกุลเสิ่นแล้ว ในจดหมายนั้นเล่าเรื่องฉาวของหลี่เสวียนเอ๋อร์กับเสิ่นหรูป๋อออกมาจนหมด ทำให้หลี่รั่วฮุ่ยโกรธจนกินอาหารไม่ลง รีบจัดการเรื่องทุกอย่างในบ้านตนเอง เตรียมจะกลับบ้านเดิมสักครั้ง แต่ผู้ใดจะรู้ว่าในเวลานั้นกลับได้รับเทียบเชิญจากท่านหญิงไหวอิน จึงไม่กล้าชักช้า ต้องติดตามสามี พาบุตรชายคนเล็กพร้อมแม่นมเดินทางมาที่เมืองซูเฉิง
คิดไม่ถึงว่าเดินทางมายังไม่ทันปรับลมหายใจก็ได้ยินว่าน้องสาวหมั้นหมายกับฉู่จิ้งเฟิงแล้ว
สามีของนางเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ ย่อมรู้ถึงผลงานการรบอันโด่งดังของซือหม่าผู้นี้ รวมถึงข่าวลือโฉมหน้าปีศาจชอบฆ่าฟันของเขาด้วย
หากน้องรองยังดีอยู่ ด้วยชาติกำเนิดก็ยังไม่คู่ควรกับซือหม่าผู้นี้แล้ว นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่นางกลายเป็นคนสมองเสื่อม แม้กระทั่งเสิ่นหรูป๋อที่หมั้นหมายกับน้องสาวมาหลายปี มีความรู้สึกอันดีต่อกันมากก็ยังทอดทิ้งนางไปแต่งงานกับผู้อื่น นับประสาอะไรกับชายหนุ่มที่มีฐานะสูงอำนาจมากอย่างนั้น จะมีความจริงใจต่อนางได้อย่างไร
น่าเสียดายที่ท่านแม่ผู้เลอะเลือนของนางถูกคนเกลี้ยกล่อมปนข่มขู่ ลงชื่อในหนังสือหมั้นหมายกำหนดวันมงคลเรียบร้อยแล้ว มองดูน้องรองที่ตกม้าสมองเสื่อม จะต้องแต่งงานกับชายหนุ่มที่สูงศักดิ์และไม่รู้จักเขาดีพอเลย แต่หากไม่แต่ง ตามคำพูดของท่านแม่ สกุลหลี่ก็ต้องเดินไปถึงทางตันจริงๆ แล้ว
หลี่รั่วฮุ่ยรู้สึกเพียงว่านางที่เป็นพี่สาวก็ผิดต่อน้องสาว ไม่มีความสามารถจะรั้งตัวน้องไว้ได้ คิดถึงเรื่องที่เศร้าใจก็ทนไม่ไหวโอบคอน้องสาวไว้แล้วร้องไห้ออกมา
หลี่รั่วอวี๋ไม่เข้าใจอยู่บ้างว่าเหตุใดตอนที่ท่านแม่จากไปต้องมากอดนางร้องไห้ ตอนนี้พี่สาวก็มากอดนางร้องไห้อีก
แต่ว่าครั้งนี้ นางกลับไม่อยากล้อเลียนพี่สาว ตอนท่านแม่จากไป นางเคยถามท่านแม่ว่าเหตุใดจึงร้องไห้ ท่านแม่พูดสะอึกสะอื้นว่าเพราะนางจะแต่งงานแล้ว
ตอนแรกหลี่รั่วอวี๋ไม่เข้าใจ ภายหลังได้ฟังท่านแม่บอกว่าแต่งงานก็คือต้องไปอยู่บ้านคนอื่น อยู่กับท่านแม่และน้องชายไม่ได้อีกต่อไป ไม่รู้เพราะเหตุใด จมูกของหลี่รั่วอวี๋พลันรู้สึกปวด อยากร้องไห้เช่นกัน