ตลอดทั้งวันนี้หลี่รั่วอวี๋ผ่านมาอย่างงุนงง ท่านแม่กับพี่สาวกำชับว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของนาง ผ้าแดงคลุมหน้าบนหัวห้ามดึงออกมาเอง ทั้งยังต้องเป็นเด็กดีให้คนประคองคำนับดื่มสุรา จากนั้นก็ถูกส่งตัวเข้ามาในห้องหนึ่งและนั่งอยู่บนเตียงใหญ่อันอ่อนนุ่ม
นางเชื่อฟังคำมาโดยตลอด จนกระทั่งถูกส่งไปบนเตียงใหญ่ รอจนในห้องไม่มีเสียงความเคลื่อนไหวใด นางจึงแอบเปิดผ้าคลุมหน้า เห็นเพียงภายในห้องนี้ทุกที่ล้วนเป็นสีแดง งดงามอย่างมาก บนโต๊ะนั้นก็มีอาหารวางเต็มโต๊ะ หลี่รั่วอวี๋รู้สึกหิวบ้างแล้ว แต่เมื่อครู่มีคนกำชับว่าห้ามลงจากเตียงเอง นางจึงจำต้องนั่งนิ่งอยู่บนเตียง
นางหยิบถั่วลิสงที่อยู่บนเตียงขึ้นมาแกะเปลือกกิน พุทราเม็ดโตที่อยู่ใกล้ๆ นั้นก็รสชาติไม่เลว กินไปสักครู่เริ่มรู้สึกเหนื่อย จึงพลิกตัวล้มลงบนเตียงสีแดงกอดหมอนปักลายดอกไม้ที่อยู่ด้านข้างนอนหลับไป
ไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าใด ท่ามกลางความง่วงรู้สึกเหมือนมีคนลูบหน้านางอยู่
หลี่รั่วอวี๋สะลึมสะลือลืมตาขึ้นก็พบว่าเป็น ‘พี่ฉู่’ เขาสวมชุดแดงทั้งตัวเช่นกัน กำลังนั่งอยู่ขอบเตียงมองหน้านาง มีกลิ่นสุราจางๆ ลอยมาจากตัวเขา
หลี่รั่วอวี๋หลับตาลง พลิกตัวด้วยความสบายตัว ถูไถฝ่ามือใหญ่ของเขา เตรียมตัวจะนอนต่ออีกสักครู่ แต่มือใหญ่นั่นหลังจากปัดเปลือกถั่วลิสงบนตัวนางออกแล้วกลับค่อยๆ เลื่อนลงต่ำ เริ่มมาปลดแถบรัดเสื้อของนาง
หลี่รั่วอวี๋นึกถึงคำพูดของท่านแม่จึงตื่นเต้นจนหลับตาลงทันที รวบเสื้อของตนเองไว้แน่น “อย่าถอดเสื้อผ้าของรั่วอวี๋”
ฉู่จิ้งเฟิงฟังคำพูดติดสำเนียงเด็กของนางแล้วก็อมยิ้ม จากนั้นช้อนอุ้มนางขึ้นมาและเดินมาที่ข้างโต๊ะ ยื่นจอกสุราเล็กๆ จอกหนึ่งให้นาง ก่อนจะใช้แขนคล้องกับแขนของนางพลางพูดว่า “เด็กดี ดื่มสุรานี้เสีย”
หลี่รั่วอวี๋นอนหลับจนกระหายน้ำพอดี ได้ฟังคำพูดนี้แล้วจึงดื่มสุราจนหมดจอก รสชาติของสุรานั้นหวาน มีกลิ่นผลอิงเถา หลี่รั่วอวี๋เหมือนรู้สึกติดใจ ยังอยากจะดื่มอีก ฉู่จิ้งเฟิงจึงเทให้นางจนเต็มจอก
หลังจากดื่มไปสามจอก หลี่รั่วอวี๋รู้สึกว่าไม่รู้ด้วยเหตุใด แขนขาจึงเริ่มอ่อนแรง
ฉู่จิ้งเฟิงคิดถึงเมื่อก่อนเคยเห็นหญิงผู้นี้ตั้งท่าอย่างดีดื่มสุราอยู่บนเรือ แต่มาคราวนี้กลับดูเป็นคนคออ่อนก็หัวเราะเบาๆ ออกมาหลายที ก่อนจะยื่นมือไปถอดชุดแต่งงานสีแดงของนางออก เหลือเพียงบังทรงสีแดงเพียงชิ้นเดียว อยู่ภายใต้แสงเทียน ขับผิวของสาวน้อยให้ยิ่งขาวนวลเนียน
แม้ร่างจะอ่อนระทวย แต่หลี่รั่วอวี๋ยังคงไม่ลืมคำกำชับข้างหูของมารดาจึงยื่นมือไปกระชากผมที่หลุดออกจากที่ครอบผมของเขา
เส้นผมนั้นนุ่มลื่นมาก ขยับเล่นไม่กี่ทีก็ไหลหลุดจากปลายนิ้ว หลี่รั่วอวี๋อดใจไม่ไหวอยากจะนั่งยืดตัว จะได้สอดนิ้วไปในไรผมหนาของเขา เล่นผมสีขาวเงินของเขาได้อย่างถนัดมือมากขึ้น
ชายหนุ่มดึงตัวนางขึ้นมากอดไว้ในอ้อมกอด ปล่อยให้นางเล่นผมของเขา ในตอนที่ได้กลิ่นนมจางๆ จากตัวนางก็รู้สึกว่าสุรารสเลิศที่ดื่มไปเมื่อครู่ผุดออกมาจากทุกรูขุมขน
หญิงโง่ผู้นี้จะต้องดื่มนมแพะที่ผสมผงเหอเถาหนึ่งถ้วยทุกวัน นี่เป็นสูตรพื้นบ้านในการบำรุงสมองที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ไปค้นหามา ช่วงหลายวันที่อยู่ในเมืองซูเฉิงก็ดื่มไม่เคยขาด หลายวันก่อนฉู่จิ้งเฟิงเคยเห็นท่าทางตอนนางดื่มนมแพะ แค่มีนมเล็กน้อยติดก้นถ้วย แต่นางกลับแลบลิ้นออกมาเลียกินทีละนิด นมแพะนั้นติดบนริมฝีปากสีชมพู ก่อนจะถูกนางสูดเข้าปากทีละนิด…
จากนั้นสาวน้อยที่กำลังกินของบำรุงอย่างเบิกบานใจถูกดวงตาที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทำให้ตกใจจนโยนถ้วยทิ้ง…
ในตอนที่รู้สึกว่าเลือดลมทะลักขึ้นมาตรงลำคอแล้ว เขาก็กดหัวนางลงบนแผ่นอกของตนเอง
นางไม่ชอบดวงตาประหลาดของเขา ในค่ำคืนงดงามที่มีแสงเทียนแดงพลิ้วไหว เขาไม่อยากให้นางตกใจ จึงอุ้มตัวนางในท่านี้เดินไปที่เตียง แล้วปลดม่านกั้นลง บังแสงเทียนรางเลือนนั้นเอาไว้ได้
ความอดทนและการวางแผนในช่วงที่ผ่านมานี้สุดท้ายก็หว่านแหจับปลาน้อยน่ากินตัวนี้ไว้ได้ ฉู่จิ้งเฟิงหรี่ตาลงคิดว่า…นมแพะนั่นไม่ได้กินเสียเปล่าเลย บำรุงไปถึงก้อนเนื้อสองก้อนที่รัดแน่นนูนคับอยู่ใต้บังทรงอีกด้วย
คงเป็นเพราะเสื้อผ้าถูกเขาถอดออก นางรู้สึกไม่คุ้นชินทำอะไรไม่ถูก จึงคว้าผ้าห่มมงคลอยากจะเอามาคลุมตัว แต่ผ้าห่มผืนนั้นกลับถูกเขากระชากโยนไปที่ปลายเตียง