ระหว่างการถ่ายลมเข้าออก รอยยิ้มบนริมฝีปากของเจียงหุยเสวี่ยยังคงค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น นึกถึงแมลงปอไม้ไผ่บินได้ของโม่เอ๋อร์ นึกถึงลูกสุนัขเพิ่งคลอดหนึ่งคอกที่บ้านของหนิวนิว นึกถึงรอยยิ้มหวานเชื่อมของโม่เอ๋อร์ นึกถึงเรื่องที่ทำให้ใจนางอบอุ่นเป็นสุข และเรื่องราวอีกมากมาย…
เสื้อคลุมสีดำของบุรุษเพศตัวนั้นที่เก็บอยู่ในหีบ
ชามขอบกว้างใบใหญ่ที่ให้ใครบางคนใช้โดยเฉพาะ
เงาร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นอกห้องครัวเล็ก
เงาร่างที่นั่งนิ่งเงียบลงบนเก้าอี้ไม้ที่ดูเตี้ยเล็กเกินไปสำหรับเขา เพื่อรอกินโจ๊ก
ทุกวันที่ท่านเมิ่งมากินโจ๊ก ข้าเองก็รอคอยให้ท่านมาหา…
ข้าชอบท่าทางตอนกินโจ๊กของท่าน มองดูแล้วรู้สึกจิตใจสงบดี รู้สึกว่าไม่เสียแรงที่ทำโจ๊กชามนั้นขึ้นมา
หัวใจสั่นสะท้าน นางหลุดสมาธิทันที ลืมตาทั้งสองขึ้น
เรื่องที่ทำให้นางมีความสุขอบอุ่นหัวใจ หลายเรื่องเกี่ยวพันกับบุรุษผู้นั้น
นางอดหน้าแดงและวาบหวามในใจไม่ได้ เข้าใจในพลันว่านี่เป็นความรู้สึกนึกคิดอย่างสตรี เนื่องจากมีคนที่สนใจ ความรู้สึกอ่อนโยนจึงเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องคิดถึงเป็นพิเศษ ในเวลาที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว สีสันของความคิดถึงก็ก่อตัวขึ้นในหัวใจเอง
วันนั้นที่นำขนมแป้งนึ่งพุทราเชื่อมไปให้ นางไม่ได้คิดอะไรมาก
ภายหลังขนมแป้งนึ่งทั้งตะกร้าถูกแย่งไปแบ่งกันกิน ว่าตามจริงแล้ว นางรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ใจมาก ของมีคนกินก็ดีแล้ว อีกทั้งศิษย์น้องของเขาและมือปราบของหน่วยประตูหกบานทั้งกลุ่มยังชื่นชมกันเช่นนั้น ตะกร้าว่างเปล่าไม่เหลือของ ขนมแป้งนึ่งถูกกวาดเรียบ นางควรจะรู้สึกซาบซึ้งใจ
ดังนั้นนางจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
นางกับเขาแตกต่างกันเป็นอย่างมาก คนที่แข็งแรงล่ำสันเช่นเขา ย่อมหาคู่ครองจากคุณหนูบ้านเศรษฐีที่เหมาะสมกันทุกประการได้อยู่แล้ว หรือไม่ก็ผู้ที่รู้ใจกันดีเช่นศิษย์น้องของเขา ให้อยู่เคียงข้างไปทั้งชีวิตจนกระทั่งแก่เฒ่า กับเขาแล้วนางไม่ได้คิดอะไรมากจริงๆ
แม้ว่าจะมีใจให้ แต่ก็เป็นเรื่องของนางผู้เดียว ได้แอบชอบก็ดีแล้ว เช่นนั้นก็ดีมากๆ แล้ว
อีกอย่าง เขาก็บอกนางอย่างชัดเจน ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาง
‘ผู้แซ่เมิ่งกลับไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ข้าย่อมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยต่อแม่นาง…’
‘ความรู้สึกที่ผู้แซ่เมิ่งมีต่อแม่นางนั้น ไม่ใช่ความรู้สึกระหว่างบุรุษและสตรี…’
นางได้ยินแล้วหัวใจก็ยิ่งบีบรัด
ตอนนั้นนางยังไม่เข้าใจตัวเอง แต่มาตอนนี้ นางเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกคับข้องทุกข์ใจในอกเช่นนั้น เป็นเพียงความนึกคิดของดรุณีวัยแรกรัก ไม่มีอะไรหรอก เข้าใจแล้วก็ดี
วันเวลาอันสงบสุขทำให้นางหลงนึกไปว่าตนเองก็เหมือนกับหญิงสาวทั่วไป ที่รู้จักโศกเศร้าตรอมตรมและเป็นทุกข์ในความรัก แต่ว่านางไม่ได้เป็นเช่นนั้น หนอนกู่พิษในกายนางอาจจะขจัดไม่ได้ไปตลอดชีวิต ตอนนี้ดูเหมือนปลอดภัยไร้เรื่องราว แต่ภายภาคหน้าเล่า
หากคิดจะแต่งงานมีลูกเฉกเช่นสตรีธรรมดา แล้วใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สำหรับนางแล้วเป็นความหวังที่มากเกินไป
โชคยังดีความรู้สึกที่ประดังขึ้นมานี้จะเป็นเรื่องของนางไปตลอด สามารถปล่อยให้ตัวเองชอบคนผู้หนึ่งอย่างหลบซ่อน ไม่ให้ใครรู้ได้
พายุในใจนางส่งผลต่อฝ่ามือทั้งสี่ที่ประสานกันอยู่ของนางกับโม่เอ๋อร์อย่างเห็นได้ชัด ดรุณีน้อยลืมตาขึ้นช้าๆ เอียงศีรษะเล็กดุจผลแตง มองพี่สาวอย่างไม่ทราบความนัย
พี่สาวเป็นอะไรไป