มิหนำซ้ำนางก็รู้ว่าฝ่ามือซ้ายของอวี้หลางมีแผลเป็นที่ลึกยิ่งอยู่รอยหนึ่ง แต่ว่าหลี่ซิวเหยากลับไม่มี
ทว่าตอนนี้…
เสิ่นหยวนตื่นเต้นยิ่งยวด เงยหน้ามองหลี่ซิวเหยา ทางหนึ่งใช้มือที่สั่นระริกลูบใบหน้าเขา อีกทางน้ำตาก็ไหลลงมาตามแก้ม เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ “ทะ…ท่านคืออวี้หลาง? ที่แท้…ที่แท้อวี้หลางก็คือท่าน?”
หลี่ซิวเหยาไหนเลยจะรู้เรื่องในชาติก่อน เขาจึงรู้สึกว่าคำถามของเสิ่นหยวนประหลาดยิ่งนัก
ทั้งที่เมื่อครู่หลี่ซิวเหยาได้ยินเสิ่นหยวนเรียกชื่ออวี้หลางแล้ว แม้เขาจะไม่รู้ว่าเสิ่นหยวนรู้ชื่อเล่นที่เขาไม่เคยบอกต่อผู้อื่นนี้ได้อย่างไร แต่ตอนนี้นางมาถามเขาเช่นนี้อีกหมายความอย่างไรกัน เขาย่อมต้องเป็นอวี้หลางอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้หลี่ซิวเหยาจึงพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าคืออวี้หลาง”
ครั้นเสิ่นหยวนได้ยินก็น้ำตาไหลพรากในชั่วพริบตา นางยิ่งตื่นเต้นจนริมฝีปากสั่น พูดอะไรไม่ออกอีกแม้แต่คำเดียว
ในใจนางมีเพียงความคิดเดียวกำลังพลิกตลบไปมา…เขาคืออวี้หลางจริงๆ เขาคืออวี้หลางจริงๆ! อวี้หลางที่ชาติก่อนอยู่เคียงข้างข้าหนึ่งปีเต็มๆ คอยดูแลข้าอย่างทุ่มเทสุดหัวใจ สอนข้าดีดพิณ ฟังเสียงลมพัดผ่านต้นสนเป็นเพื่อนข้า ที่แท้ก็คือหลี่ซิวเหยา สามีที่ข้าแต่งงานด้วยในชาตินี้
เสิ่นหยวนร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ทว่าภายในใจกลับยินดี ยินดีจนแทบอยากร้องตะโกนดังๆ
หลี่ซิวเหยาไม่เข้าใจว่าไฉนเสิ่นหยวนถึงตื่นเต้นปานนี้ คล้ายว่าใกล้จะฟั่นเฟือนแล้วอย่างไรอย่างนั้น ทำให้เขาเห็นแล้วเป็นห่วงที่สุด นางยังตั้งครรภ์อยู่แท้ๆ จะอารมณ์พลุ่งพล่านเพียงนี้ได้อย่างไร
หลี่ซิวเหยาหันหน้าไปมองความมืดที่ด้านนอกเล็กน้อย
มานานเพียงนี้แล้ว เขาควรกลับไปเสียที มิเช่นนั้นยามออกนอกเมืองฟ้าก็จะสางแล้ว หากถูกคนค้นพบร่องรอยความเคลื่อนไหวเข้าจริงๆ งานที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ก็คงต้องสูญเปล่า
หลี่ซิวเหยาคิดแล้วก็ใช้นิ้วสกัดจุดหลับของเสิ่นหยวนเบาๆ
ในใจเสิ่นหยวนกำลังตื่นเต้นพลุ่งพล่าน อยากจะเอ่ยปากบอกเรื่องมากมายกับหลี่ซิวเหยา แต่จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนยวบลงฉับพลัน สติเริ่มจะเลอะเลือน
แต่เสิ่นหยวนยังคงพยายามจับมือซ้ายของหลี่ซิวเหยาไว้แน่นจนสุดกำลัง พูดพึมพำว่า “อวี้หลาง ท่านอย่าไป ท่านอย่าไป…”
นางเคยได้ยินผู้อื่นพูดว่าคนที่กำลังฝันจะไม่รู้สึกเจ็บ นางอยากหยิกตนเองแรงๆ สักทีหนึ่ง ดูซิว่าจะเจ็บหรือไม่ ดูซิว่าที่แท้แล้วเป็นนางกำลังฝันไปใช่หรือไม่
เสิ่นหยวนกลัวนักว่านี่จะเป็นเพียงความฝัน เนื่องจากในใจนางไม่รู้ว่าควรจะวางฐานะของหลี่ซิวเหยากับอวี้หลางอย่างไรให้สมดุล ถึงได้สร้างฝันเช่นนี้ออกมาเพื่อหลอกตนเองว่าอันที่จริงอวี้หลางก็คือหลี่ซิวเหยา และหลี่ซิวเหยาก็คืออวี้หลาง เช่นนี้นางจะได้ไม่รู้สึกละอายใจและทุกข์ทรมานอีก
ทว่าตอนนี้นางง่วงงุนนัก ง่วงจนสองตาลืมไม่ขึ้น แม้แต่จะเอ่ยปากพูดคำเดียวก็พูดไม่ออก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องหยิกตนเองแล้ว…
หลี่ซิวเหยารับร่างที่อ่อนยวบของเสิ่นหยวนเอาไว้ วางศีรษะนางลงบนหมอนอย่างเบามือ ก่อนห่มผ้าให้นาง สอดเก็บมุมผ้าห่มจนเรียบร้อย
เห็นบนดวงหน้างามดั่งหยกขาวของเสิ่นหยวนยังคงมีคราบน้ำตาอยู่เต็ม แม้จะไม่กระจ่างว่าเหตุใดจู่ๆ นางก็ร้องไห้หนักปานนี้ แต่หลี่ซิวเหยายังคงยกมือเช็ดน้ำตาบนหน้านางอย่างนุ่มนวลแผ่วเบา ก่อนจะโน้มหน้าลงจูบหว่างคิ้วนาง แล้วกล่าวเสียงนุ่มว่า “เจ้าจงรอข้าอย่างว่าง่าย อีกไม่นานข้าก็จะกลับมา”
พูดจบหลี่ซิวเหยาก็มองเสิ่นหยวนอย่างลึกซึ้งอีกอึดใจ จากนั้นก็หักใจลุกขึ้นยืน หันหลังเดินจากมา บังคับตนเองไม่ให้เหลียวกลับไปมองอีกเด็ดขาด
เขากลัวว่าถ้าเหลียวกลับไปมองเสิ่นหยวนเมื่อใด เขาก็จะตัดใจจากไปไม่ลง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 09 ธ.ค. 63