ไฉ่เวยเห็นเสิ่นหยวนนั่งขมวดคิ้วเรียวอยู่บนตั่งไม้ ดูมีท่าทางอ่อนเพลียไม่มีชีวิตชีวา นางจึงหันหน้าไปมองแสงแดดสดใสที่นอกประตู แล้วยิ้มกล่าวกับเสิ่นหยวน “เมื่อวานขณะบ่าวเดินผ่านสวนดอกไม้ด้านหลัง ก็มองเห็นดอกไม้ในสวนบานเป็นจำนวนมากแล้ว สีสันละลานตา งดงามเป็นที่สุด วันนี้ก็ดูแดดออกดี บ่าวไปเดินเล่นในสวนเป็นเพื่อนท่านดีหรือไม่เจ้าคะ ถือว่าได้ย่ำขจีด้วย”
เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องไม่เป็นการดี อีกทั้งหมอก็บอกแล้วว่ายามปกติต้องเดินเหินให้มากหน่อย ภายหลังถึงจะคลอดง่าย เสิ่นหยวนคิดแล้วก็จับโต๊ะเล็กประคองตัวยืนขึ้น “ดี เช่นนั้นพวกเราก็ไปเดินเล่นผ่อนคลายอารมณ์ในสวนสักหน่อยเถอะ”
ไฉ่เวยรีบก้าวมาประคองแขนเสิ่นหยวนไว้ หลังสั่งให้ชิงเหอกับชิงจู๋อยู่เฝ้าเรือนแล้ว ไฉ่เวยก็ประคองเสิ่นหยวนเดินออกนอกประตูไป
ยามนี้กำลังเป็นช่วงที่ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิงามสะพรั่งพอดี ดอกไม้นานาพรรณในสวนดอกไม้ด้านหลังล้วนแข่งกันผลิบาน ต้นหลิวก็เขียวแล้ว มองไปทางใดก็เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ
เสิ่นหยวนเห็นทัศนียภาพเหล่านี้แล้วอารมณ์ก็ค่อยๆ สงบลง หัวคิ้วที่มุ่นอยู่เริ่มคลายออก
เมื่อครู่เสิ่นหยวนคิดถึงหลี่ซิวเหยาอยู่ตลอด
ในเมื่อเขากลับเมืองหลวงมาโดยปิดบังทุกคน คิดว่าต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากแน่นอน อีกทั้งไม่อาจปล่อยให้คนนอกค้นพบร่องรอยในยามนี้ของเขาด้วย แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เมื่อคืนเขาก็ยังคงเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวงปานนั้นมาพบนาง
ไม่รู้ว่าขณะเขามาเมื่อคืนได้ถูกใครพบเห็นเข้าหรือไม่ อีกทั้งบัดนี้เขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ใด บาดแผลบนฝ่ามือเขาดูน่ากลัวออกปานนั้น มิรู้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นบ้างแล้วหรือไม่
เสิ่นหยวนกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ จู่ๆ ก็ได้ยินไฉ่เวยเรียกนางเบาๆ “ฮูหยิน คุณหนูสามเดินมาจากทางด้านหน้า พวกเราจะกลับกันหรือไม่เจ้าคะ”
คุณหนูสามที่ไฉ่เวยพูดถึงก็คือหลี่เป่าผิง
นับตั้งแต่เกิดเรื่องในร้านผ้าไหมเมื่อปีที่แล้ว ในใจหลี่เป่าผิงก็ไม่ชอบเสิ่นหยวนอย่างที่สุด ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเสิ่นหยวนเป็นใครก็ช่างเถอะ แต่คิดไม่ถึงว่าต่อมาเสิ่นหยวนจะถึงขั้นแต่งงานกับหลี่ซิวเหยา กลายมาเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของนาง
ในใจหลี่เป่าผิงย่อมรู้สึกขุ่นเคือง หลายครั้งอยากจะชักสีหน้าใส่เสิ่นหยวน
แต่ก็จนใจที่หนึ่งคือหลี่ซิวเหยามีอำนาจมากเกินไป เขารักใคร่โปรดปรานเสิ่นหยวน คนทั้งจวนสกุลหลี่ล้วนรับรู้กันทั่ว หลี่เป่าผิงที่กลัวหลี่ซิวเหยามีหรือจะกล้าชักสีหน้าใส่เสิ่นหยวนอีก
สองคือปกติเสิ่นหยวนจะอยู่ในเรือนเป็นส่วนใหญ่ ออกจากเรือนจิ้งหยวนน้อยครั้ง และก็ไปคารวะเจี่ยงซื่อน้อยครั้งมากเช่นกัน หลี่เป่าผิงแทบจะไม่ได้พบหน้าเสิ่นหยวน ต่อให้อยากชักสีหน้าใส่เพียงใดก็ไม่มีโอกาส อย่างไรก็ไม่อาจพุ่งตรงไปหาเรื่องเสิ่นหยวนถึงที่เรือนจิ้งหยวนได้กระมัง
หากหลี่ซิวเหยาอยู่ นั่นก็เท่ากับหลี่เป่าผิงรนหาที่ตายแล้วจริงๆ
ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาหลี่เป่าผิงกับเสิ่นหยวนจึงไม่เคยมีเรื่องกระทบกระทั่งกัน
แต่เมื่อหลี่เป่าผิงมองเห็นเสิ่นหยวนอยู่ทางด้านหน้าไม่ไกล ข้างกายมีสาวใช้ติดตามเพียงคนเดียว อีกทั้งคิดว่าหลี่ซิวเหยาไปซานซีได้พักหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะกลับมา หลี่เป่าผิงจึงกลอกตา ก่อนก้าวเท้าเดินไปหาเสิ่นหยวน
ทางด้านนี้เสิ่นหยวนได้ยินคำของไฉ่เวยจึงช้อนตามองไป ก็มองเห็นหลี่เป่าผิงกำลังพาสาวใช้นางหนึ่งเดินช้าๆ มาทางนี้
เสิ่นหยวนขมวดคิ้ว
ไม่ว่าเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้เสิ่นหยวนล้วนไม่ชอบหลี่เป่าผิง และก็ไม่อยากพบปะพูดคุยกับนางแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุนี้ยามมองเห็นหลี่เป่าผิงเดินมา เสิ่นหยวนจึงจับมือไฉ่เวย คิดจะหันหลังเดินกลับเรือนจิ้งหยวนไป
คิดไม่ถึงว่าหลี่เป่าผิงกลับพุ่งปราดมาขวางทางเสิ่นหยวนไว้ ซ้ำยังเอ่ยปากพูดอย่างกำเริบเสิบสานว่า “คราวนี้ข้าจะดูซิว่าเจ้าจะหลบไปที่ใดได้อีก!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 16 ธ.ค. 63