‘แฟนเก่า’ เหมือนของแสลง ที่เข้าใกล้แล้วอาจหลอมละลาย ‘ทิวาหลอมทราย’ ผลงานล่าสุดโดย ฉัตรฉาย

      ‘แฟนเก่า’ เหมือนของแสลง ใครเห็นด้วยกับประโยคนี้บ้าง? แจ่มคิดว่าน่าจะมีเพื่อนๆ พยักหน้าหรือตอบว่า ‘ใช่’ อยู่ในใจ คำว่า ‘เก่า’ คือสิ่งที่ผ่านมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่หากมีคำว่า ‘แฟน’ นำหน้าแล้วล่ะก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อใจสำหรับใครหลายคนนัก

     ‘ทิวาหลอมทราย’ เป็นนิยายเล่มสุดท้ายในชุด ม่านรักฐานันดร โดย ฉัตรฉาย นิยายรักชุดนี้ออกมาแล้วสองเรื่อง ได้แก่ ‘มุกพราวตะวัน’ และ ‘จันทร์ในธารา’ สำหรับนิยายรักเรื่อง ทิวาหลอมทราย นั้นเล่าเรื่องราวของ ‘ธรณิน ศุจินทรา’ หรือแซนด์ ดีไซเนอร์สาวสวยและเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Sandra ธรณินเป็นน้องสาวคนเล็กของตระกูล ศุจินทรา เธอมีพี่ชายสองคน ได้แก่ ทิพากร (ซัน) พี่ชายคนโต (พระเอกจากเรื่อง ‘มุกพราวตะวัน’) และ วาริธร (ซี) พี่ชายคนกลาง (พระเอกจากเรื่อง ‘จันทร์ในธารา’)

(เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านและเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละคร
แนะนำให้อ่านเรื่อง มุกพราวตะวัน, จันทร์ในธารา และ ทิวาหลอมทราย ตามลำดับ
ทั้งนี้สามารถอ่านแยกเล่มได้เช่นกัน)

       ภายนอกหญิงสาวเป็นคนพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา ดูเป็นผู้หญิงแรงๆ คนหนึ่ง แสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน เมื่อโกรธหรือโมโหจนอาจทำให้ใครๆ หวาดกลัว ทว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดก็ต่อเมื่อมีใครมาทำร้ายเธอหรือคนที่เธอรักเท่านั้น ‘ธรณิน’ ตัดสินใจหิ้วพวงหรีดไปร่วมงานแต่งงานหนึ่ง ซึ่งมี ‘มุกตาภา’ เป็นเจ้าสาว และ ‘ภาคิน’ เป็นเจ้าบ่าว ทั้งคู่เป็นดาราดังที่มีชื่อเสียงและเป็นคู่จิ้นที่คนส่วนใหญ่รู้จัก ‘ภาคิน’ ทรยศต่อความรักของ ‘รศิตา’ ผู้เป็นเพื่อนรักของเธอ เขาทอดทิ้งรศิตาและลูกไปแต่งงานกับ ‘มุกตาภา’ ธรณินโกรธที่ชายหนุ่มไม่ให้เกียรติ ทั้งยังทอดทิ้งเพื่อนรักและลูกจึงต้องการเปิดโปงให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเขาเป็นคนอย่างไร
       ในงานระหว่างที่ธรณินแฉพฤติกรรมของภาคินอยู่นั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งตรงเข้ามาหา พยายามจะห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ เมื่อรู้ว่าห้ามไม่ได้เขาจึงกระชากต้นแขนของเธอพาออกไปจากงาน ชายหนุ่มคนนั้นก็คือ ‘ทิวา วงศ์เทวา’ แฟนเก่าของธรณินที่เคยคบหากันเมื่อหกปีที่แล้ว เธอทั้งตกใจ ตกตะลึง และคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเขาที่นี่ ‘ทิวา’ เป็นแฟนเก่า...ที่เธอให้นิยามเอาไว้ว่าเหมือน ‘อ้วกที่เคยถุยลงพื้น’ ซึ่งเธอจะไม่มีวันกลับไปกินอีกเด็ดขาด!

“ผมพาคุณออกมาก่อนเพราะรู้ว่าคุณมันร้ายกาจขนาดไหน
แค่นี้คุณก็ทำลายงานแต่งของพวกเขาจนพังพินาศไปหมดแล้ว
คิดบ้างมั้ยว่ากำลังทำลายอนาคตใคร คุณนี่มัน...ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
“ถ้าคุณจำได้ว่าเมื่อก่อนฉันร้ายขนาดไหน คุณก็น่าจะรู้ว่าวันนี้ฉันร้ายได้มากกว่านี้อีก!”
ธรณินพยายามข่มความโกรธเอาไว้ เธอไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เขาต่อว่าและยอมรับมันอย่างไม่สะทกสะท้านเพราะเธอยินดีที่จะร้ายเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก

กลับมาพบกันอีกครั้ง

     การบุกเข้าไปพังงานแต่งในวันนั้นเป็นครั้งแรกที่ ‘ธรณิน’ ได้พบกับ ‘ทิวา’ หลังจากที่เขาและเธอเลิกลากันไปเมื่อหกปีที่แล้ว แม้ว่าจะเป็นการพบกันในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวสั่นไหวไม่น้อย เรื่องราวในวันนั้นผ่านพ้นไปจนกระทั่ง ‘ภาคิน’ มาพบกับ ‘รศิตา’ เพื่อต่อว่าที่เพื่อนของเธอไปอาละวาดในงานแต่ง ขณะนั้น ‘ธรณิน’ เองก็อยู่กับ ‘รศิตา’ ด้วย ‘ภาคิน’ กับ ‘ธรณิน’ จึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงจนในที่สุด ‘รศิตา’ ได้ออกปากบอกให้เพื่อนกลับไปก่อน จากคำพูดของ ‘รศิตา’ ทำให้ ‘ธรณิน’ เสียใจ ประกอบกับที่ ‘ธรณิน’ ได้ลาพักร้อนไว้แล้วเธอจึงใช้โอกาสนี้ไปพักผ่อนกายและใจ แม้ว่าโรงแรมที่เธอพักอยู่จะมีความเป็นส่วนตัวอย่างมากแล้ว แต่ด้วยสภาพอารมณ์ของธรณินทำให้เธอต้องการที่ที่สงบมากกว่านี้ เมื่อพนักงานโรงแรมแนะนำ ‘เกาะไรวินท์’ ให้ ธรณิณก็ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปที่เกาะแห่งนั้น
     ด้าน ‘ทิวา’ เองก็กำลังประสบปัญหาใหญ่ อารมณ์ที่เคยลุกโชนกลับดับมอดลงอย่างกระทันหันทำให้ต้นฉบับที่เหลืออีกเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์สุดท้ายค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่สามารถสร้างอารมณ์กลับมาเขียนงานได้ อีกทั้งเดดไลน์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว จนกระทั่งทิวาได้พบกับ ‘ภาสกร อัครพนธ์’ เพื่อนของเขาผู้เป็นเจ้าของท่าเรือ โรงแรม และรีสอร์ตชื่อดังของหัวหิน ‘ภาสกร’ ได้แนะนำให้ ‘ทิวา’ ไปพักที่บ้านพักส่วนตัวของเขาบนเกาะไรวินท์
     และนั่นเองเป็นเหตุให้ ‘ทิวา’ ได้พบกับ ‘ธรณิน’ ที่เมาหลับอยู่บนเรือส่วนตัวที่ ‘ภาสกร’ เตรียมไว้ให้เขาเพื่อความรวดเร็วในการเดินทางไปยังเกาะไรวินท์ การพบกันโดยบังเอิญครั้งนี้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ‘ธรณิน’ และ ‘ทิวา’ ได้กลับมาพูดคุยและใกล้ชิดกัน ประตูหัวใจที่เคยปิดแน่นไปแล้วก็กลับค่อยๆ เปิดออกอีกครั้ง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้จะนำพาให้เขาและเธอกลับไปคบกันได้อีกครั้งหรือไม่ หรือทั้งหมดจะเป็นเพียงเหตุการณ์บังเอิญที่พัดพาคนสองคนซึ่งเคยมีความทรงจำร่วมกันให้กลับมาพบกันอีกครั้งเพียงเท่านั้น

     นอกจากเรื่องราวของของ ‘ธรณิน’ กับ ‘ทิวา’ แล้ว ก็ยังมีเรื่องราวความรักของ ‘รศิตา’ ที่หลังพบว่าคนรักอย่าง ‘ภาคิน’ ไม่ให้เกียรติและนอกใจไปแต่งงานกับคนอื่น เธอจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร และจะมีใครเข้ามาทำให้หัวใจของเธอและลูกมีความสุขได้อีกครั้งหรือไม่ ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมลุ้นกันอีกด้วย

อ่านตัวอย่างในนิยายเรื่อง ‘ทิวาหลอมทราย’

‘ธรณินยังจำรายละเอียดของทิวาได้ดี’

“แล้วไปทำอีท่าไหนให้โดนแตนต่อยได้เนี่ย”
“ฉันก็ไปเก็บยอดตำลึงมาให้คุณนี่ไง ชอบกินไม่ใช่เหรอ”
ธรณินยื่นยอดผักตำลึงที่อยู่ในมืออีกข้างให้คนตัวสูง ทิวาถึงกับขมวดคิ้วมองมันอย่างคาดไม่ถึง เขาไม่ทันสังเกตเห็นด้วยซ้ำ เพราะเป็นห่วงเธอจนไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย
ชายหนุ่มไม่คิดว่าคนอย่างธรณินจะจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ แถมยังอุตส่าห์เก็บของโปรดมาให้เขาจนโดนสัตว์มีพิษต่อยเอาแบบนี้
“ฉันอุตส่าห์นึกถึงคุณแท้ๆ นอกจากโดนแตนต่อยแล้วยังถูกคุณดุอีก”
หญิงสาวบอกเสียงเศร้าขณะสบตาเขาด้วยดวงตากลมโตน่าสงสาร ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจใส่แอ็กติ้งเรียกคะแนนเห็นใจหรอก แต่พอเขามีท่าทีอ่อนลงเธอก็เลย ‘เอาซะหน่อย’
“ไม่ต้องมาทวงคุณงามความดี”
ทิวายิ้มที่มุมปากขณะที่ใช้นิ้วชี้ยาวๆ จิ้มหน้าผากเธอเบาๆ
“คุณกลับบ้านค่ำก็เลยเก็บยอดตำลึงมาเอาใจผมเพื่อไม่ให้ผมดุคุณต่างหาก”
รู้ทันอีก!

“เพราะปากคุณแบบนี้ ฉันไม่แปลกใจเลยที่คุณยังไม่มีแฟน”

“เพราะปากคุณแบบนี้ ฉันไม่แปลกใจเลยที่คุณยังไม่มีแฟน”
“รู้ได้ยังไงว่าผมยังไม่มีแฟน” ทิวาเลิกคิ้วถาม
ชายหนุ่มจำได้ว่าเขาไม่เคยบอกเธอสักคำว่าเขายังโสด
“ถ้าคุณมีแฟนแล้วคุณจะมาเขียนงานบนเกาะคนเดียวได้ยังไงเป็นสิบๆ วัน” ธรณินวิเคราะห์ “ที่สำคัญฉันไม่เห็นคุณโทรคุยกับแฟนเลย ถ้ามีแฟนแล้วทรีตแฟนแบบนี้ แฟนคุณคงหนีไปมีแฟนใหม่แล้ว”
“เก่ง...” เขายอมรับว่าเธอเดาถูก
“แล้วคุณไม่ถามบ้างเหรอว่าฉันมีแฟนหรือยัง”
“ผมรู้ว่าหลังจากเลิกกับผม คุณยังไม่มีใคร”
ทิวาตอบกลับทันที คำตอบนั้นทำให้ดวงตาคู่งามมองประสานกับดวงตาสีดำสนิทอีกครั้ง...ไม่ใช่ว่าเธอรู้สึกเหมือนถูกเขาเย้ยหยัน แต่เธอรู้สึกราวกับว่าเขาติดตามและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเธอมาตลอด
“ฉันเคยเห็นคำคมผ่านๆ ตามานะ เรื่องที่เขาบอกว่าอย่าหลงรักนักเขียน เพราะนักเขียนรู้ว่าจะพูดอะไรให้คนประทับใจและจะมีคำหวานๆ ทำให้อีกฝ่ายหลงรัก แต่กับคุณนี่ไม่เห็นจะมีเลย”
เธอคิดว่าถ้าจะมีใครหลงรักทิวา คงไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาแน่
“นอกจากคุณจะไม่มีคำพูดหวานๆ แล้วยังปากร้ายเกินเบอร์ด้วย”
“คำคมพวกนั้นไม่ต่างจากคำคมความรักที่พูดกันลอยๆ หรอก ผมจะบอกให้นะ...นักเขียนก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับคนทั่วๆ ไปนี่แหละ และมีนักเขียนนิยายรักหลายคนเลยนะที่ไม่อินกับคำคมความรัก เราไม่ใช่มนุษย์สปีชี่ส์พิเศษ แล้วพวกที่จีบนักเขียนด้วยการเขียนกลอนรัก เขียนคำพูดเลี่ยนๆ ก็เจอสวนกลับด้วยการเช็กภาษาและไวยากรณ์มาแล้ว ที่สำคัญคำพูดอะไรที่มันเฟก นักเขียนเขาดูออก”
“คุณนี่มันปากร้ายจริงๆ”
ธรณินรู้สึกดีมากที่ตอนคบกับทิวาเธอไม่ใช่ผู้หญิงสายหวานหรือชอบเขียนบทกวีคุยกับเขา ไม่อย่างนั้นคงโดนเขาสวนกลับจนหน้าชาไปแล้ว
“ผมแค่เล่าให้ฟังเผื่อว่าวันหนึ่งคุณคิดจะจีบนักเขียน”
“ฉันไม่เคยจีบนักเขียน มีแต่นักเขียนแถวๆ นี้แหละมาจีบฉัน!”
หญิงสาวพูดด้วยท่าทางขึงขังและสีหน้าจริงจังจนทิวาหัวเราะ เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะบอกอย่างจริงจัง

สำหรับ ทิวาหลอมทราย นั้นยังมีเรื่องราวสนุกสนานที่มาพร้อมโมเม้นต์หวานๆ ชวนอบอุ่นหัวใจให้เพื่อนๆ ได้ร่วมลุ้นไปกับความสัมพันธ์ของแฟนเก่าที่บังเอิญได้กลับมาใช้เวลาร่วมกันอีกครั้งอีกมากมาย เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบนิยายรักโรแมนติก อ่านเพลินสามารถคลิกไปทดลองอ่านกันได้เลย

คลิกที่นี่ ทดลองอ่านเรื่อง ทิวาหลอมทราย

สนใจช็อปนิยาย ‘ทิวาหลอมทราย’ ฉบับเล่ม 
- ช็อปออนไลน์กับแจ่มใส: คลิกที่นี่
- ช็อปผ่านทาง Shopee jamsai_official: คลิกที่นี่
- ช็อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช้อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
- ช็อปที่ร้านหนังสื่อชั้นนำทั่วประเทศ