ทันทีที่เข้าไปในโรงหมอได้ เผยจื่ออวี๋ก็ไม่คอยให้เด็กในโรงหมอช่วยหาเตียงให้ แต่ชี้นิ้วสั่งปาเจี่ยวให้วางร่างของชายหนุ่มลงบนเตียงว่างหลังหนึ่งที่มียาวางกองอยู่
“ปาเจี่ยวรีบวางคุณชายไว้ที่นี่ก่อน” หญิงสาวสั่งพลางเก็บกวาดยาบนเตียงออกไปวางไว้ที่โต๊ะน้ำชาอย่างคล่องแคล่ว และดึงตัวเด็กในโรงหมอคนหนึ่งที่รู้จักกันมาสั่ง “ตังกุย รีบไปเชิญอาจารย์ของเจ้าที บอกว่ามีคนป่วยหนัก”
แต่ท่านหมอจางที่ทำงานอยู่ด้านในไม่รอให้ลูกศิษย์เข้าไปบอกก็ชิงเดินออกมาจากห้องก่อน เขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “เจ้าปลาน้อย* เสียงเจ้ายังดังกว่าสิงโตเหอตง** ที่บ้านข้าเสียอีกนะ หลังคาบ้านแทบจะกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว”
“ท่านหมอจาง นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเล่น ท่านรีบมาดูคุณชายท่านนี้ก่อนเถอะ อาการเขาดูไม่เข้าทีแล้ว” เผยจื่ออวี๋เอ่ยเร่งชายวัยกลางคนที่ไว้หนวดยาวราวแพะภูเขา หน้าตาท่าทางสุภาพเรียบร้อยให้รีบเข้ามารักษาคน
ท่านหมอจางมองชายหนุ่มนิ่งๆ ไม่นานสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น “ไม่ได้การแล้ว ซานเย่า รีบไปเตรียมเครื่องมือขูดกระดูกมาเร็ว เราต้องรีบขูดเอาเนื้อตรงปากแผลของคุณชายผู้นี้ออกก่อน หาไม่จะมีอันตรายถึงชีวิต ดีไม่ดีเขาอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงคืนนี้ด้วยซ้ำ”
เผยจื่ออวี๋อุทาน “หา ร้ายแรงปานนั้นเชียวหรือ”
“ร้ายแรงมาก ปาเจี่ยว เจ้ารีบช่วยพาคุณชายท่านนี้เข้าไปในห้องตรวจก่อน ฝูหลิง เจ้าเตรียมตัวมาเป็นผู้ช่วยข้า” ท่านหมอจางกล่าวตอบจบก็หันไปสั่งลูกศิษย์ทันที
ในตอนนี้เองชายหนุ่มก็ค่อยๆ ได้สติขึ้นมา เขามองดูผู้คนรอบตัวด้วยท่าทีอ่อนล้า และร้องครางด้วยความเจ็บปวด
เผยจื่ออวี๋มองดูชายหนุ่มอย่างดีใจ “คุณชายท่านฟื้นแล้ว ดีเหลือเกิน ท่านชื่อว่าอะไรหรือ”
หวงฝู่จี้พยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมองแม่นางหน้าตาสะสวยหมดจดที่อยู่ตรงหน้า ถึงเขาจะมีไข้สูงจนรับรู้อะไรได้ไม่มากนัก แต่ก็พอจะจำได้ว่าเมื่อตอนเช้าดูเหมือนเขาจะเป็นลมล้มใส่แม่นางที่อยู่ข้างตัวคนนี้ เป็นนางที่ช่วยเขาไว้ และพาเขามาที่โรงหมอใช่หรือไม่
ชายหนุ่มหอบหายใจหนักขณะตอบอย่างอ่อนแรง “หวง…ฝู่…”
เขายังพูดไม่ทันจบ เผยจื่ออวี๋ก็ตอบรับเอาเองแล้วว่า “คุณชายหวง*** ท่านแซ่เดียวกับแม่ข้าเลย เช่นนี้พวกเราก็พอจะนับได้ว่าเป็นญาติห่างๆ กันสินะ”
หวงฝู่จี้งงงัน เขาบอกไปตั้งแต่เมื่อไรว่าเขาแซ่หวง เขายังพูดชื่อตนเองไม่จบเสียด้วยซ้ำ…
แต่เผยจื่ออวี๋เหมือนจะไม่ได้รับรู้ถึงอาการพูดไม่ออกของเขา เพราะนางยังถามรัวเป็นประทัดต่อว่า “ท่านไปได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้มาจากที่ไหน นี่ยังดีนะที่ข้าพาท่านมาส่งโรงหมอได้ทันกาล หาไม่คืนนี้…”
* อวี๋ (瑜) ที่เป็นอักษรตัวท้ายของชื่อเผยจื่ออวี๋ พ้องเสียงกับคำว่า “อวี๋ (鱼) ที่แปลว่าปลา
** สิงโตเหอตง มีที่มาจากซูตงพัว ปราชญ์ในสมัยซ่ง มีเพื่อนรักชื่อเฉินจี้ฉาง ซึ่งเป็นคนที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ภรรยาของเฉินจี้ฉางคือนางหลิ่ว เป็นชาวเหอตง มีนิสัยดุร้ายชอบดุด่าสามี ซูตงพัวจึงแต่งโคลงล้อเพื่อนว่า “พอได้ยินเสียงสิงโตเหอตงก็หัวหด” ที่เปรียบเป็นสิงโตเพราะคนในสมัยนั้นเปรียบเสียงสวดมนต์ว่ามีอำนาจบารมีดุจดังเสียงสิงโต ต่อมาผู้คนจึงใช้คำนี้เรียกหญิงดุร้ายที่ชอบดุด่าสามีหรือผู้หญิงที่ชอบส่งเสียงดัง
*** แซ่หวง (黄) พ้องเสียงกับแซ่หวง (皇) แต่เป็นคนละแซ่
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ