ฝ่ายพระพันปีก็มีพระราชเสาวนีย์แต่งตั้งซย่าอวี้จิ่น โอรสคนรองของอดีตอันอ๋อง (อ๋องสันติ) เป็นหนานผิงจวิ้นอ๋อง** (จวิ้นอ๋องใต้สงบ) และยกเยี่ยเจาให้เป็นชายาเอกของเขา ทำให้คนทั้งแผ่นดินต้องตกตะลึงอีกครั้ง
ซย่าอวี้จิ่นผู้นี้ก็เป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองหลวง ตลอดชีวิตมีสามเรื่องซึ่งเป็นที่โจษจันกันอย่างสนุกปากของชาวเมือง
เรื่องแรกคือร่างกาย ซย่าอวี้จิ่นกำพร้าบิดาตั้งแต่เยาว์วัย อ่อนแออมโรค เกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง ท่านราชครูกล่าวว่าดวงชะตาของเขาขาดผู้อุปถัมภ์ มารดาจึงให้เขารับบุตรสาวของขุนนางขั้นเจ็ดที่เกิดจากอนุภรรยาอันมีดวงชะตาของผู้มีวาสนามาเป็นอนุภรรยาเพื่อแก้เคล็ดเสริมมงคล กระนั้นก็ไร้ประโยชน์ ต่อมามีนักพรตพเนจรรูปหนึ่งจากที่ใดก็สุดรู้มาขอพบ สอนวิธีหายใจฝึกลมปราณและมอบยาทิพย์ให้ อาการของเขาจึงดีขึ้นราวกับปาฏิหาริย์
เรื่องที่สองคืออุปนิสัย วรชายาอันไท่เฟย ชายาอดีตอันอ๋องสูญเสียสามีตั้งแต่ยังสาว นางจึงรักเอ็นดูบุตรชายคนเล็กเป็นที่สุด ทั้งยังสงสารที่เขาร่างกายอ่อนแอ ตามอกตามใจตลอดจนบ่มเพาะนิสัยใจกล้าบ้าบิ่นไม่เกรงใครหน้าไหน วันๆ เกลือกกลั้วอยู่แต่กับพวกสำมะเลเทเมา หยิบโหย่งจับจด ทั้งชนไก่ กัดจิ้งหรีด จับสุนัขสู้กัน พนันแข่งม้าแข่งแมว ทอยลูกเต๋า เป็นลูกค้าประจำของหอคณิกา เป็นยอดของคุณชายจอมเสเพล นอกจากเที่ยวเล่นแล้วไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น ทำมาแล้วทุกสิ่งยกเว้นเรื่องเป็นงานเป็นการ
เรื่องที่สามคือรูปโฉม ทั้งที่เขาเป็นยอดบุรุษขนานแท้ เขากลับมีใบหน้าสวยงามปานจะล่มบ้านล่มเมืองจนยากพรรณนา ที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงที่สุดเห็นจะเป็นตอนเขาไปเที่ยวชมเรือนลมชื่น หอชายบำเรอเลื่องชื่อที่สุดของเมืองหลวงเป็นครั้งแรก เศรษฐีนักเดินเรือไม่รู้ฐานะของเขา ตะลึงนึกว่านางสวรรค์จำแลงกายมา ยอมทุ่มเทเงินทองคราวเดียวนับพันชั่ง จะใช้ไข่มุกสิบโต่ว*** ไถ่ตัวเขาให้ได้จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น เขาตกใจจนเสียขวัญ ยกนิ้วชี้ฟ้าลั่นคำสาบาน ชั่วชีวิตนี้เขาจงเกลียดจงชังเทพกระต่าย**** เป็นที่สุด จะไม่มาเหยียบหอชายบำเรออีกแม้แต่ครึ่งก้าว
ชื่อเสียงฉาวโฉ่ส่งผลให้การแต่งงานซย่าอวี้จิ่นถูกผัดผ่อนเรื่อยมาจนกระทั่งอายุยี่สิบสองปีเข้าไปแล้ว ได้ลงเอยกับเยี่ยเจาซึ่งย่างเข้าวัยยี่สิบสี่ ประสบความสำเร็จในการกระทำตัวเยี่ยงบุรุษเป็นอันมาก หากแต่ชื่อเสียงในการเป็นสตรีไม่ค่อยดีนักเช่นกัน เป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกันพอดี
พระพันปีพอพระทัยอย่างยิ่ง จักรพรรดิก็พอพระทัย เหล่าชายาและฮูหยินของท่านอ๋อง จวิ้นอ๋อง กั๋วกง และท่านโหวก็พึงพอใจ เหล่าบุตรชายของท่านอ๋อง จวิ้นอ๋อง กั๋วกง และท่านโหวที่ยังมิได้แต่งงานยิ่งชอบใจ มีเพียงคนในวังอันอ๋องเท่านั้นที่โศกาอาดูรกันถ้วนหน้าเมื่อได้รับข่าวร้ายนี้
วรชายาอันไท่เฟยสวมเสื้อคลุมยาวผ่าหน้าลายบงกชมัจฉา เครื่องประดับเงินขาวพิสุทธิ์สั่นไหวอยู่บนศีรษะ นางกอดซย่าอวี้จิ่นซึ่งตัวแข็งทื่อเป็นหุ่นไม้ไว้ในอ้อมอก คร่ำครวญอย่างคับแค้นใจ
“ลูกแม่ช่างอาภัพนัก ไยเจ้าต้องมารับเคราะห์ด้วย ภรรยาพรรค์นี้จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้อย่างไร”
ซย่าอวี้เชวี่ย อันอ๋องคนปัจจุบันลากขาที่ได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่เยาว์วัยเดินกะเผลกๆ เข้ามากล่าวปราม
** จวิ้นอ๋อง เป็นยศรองจากตำแหน่งชินอ๋อง (อ๋อง) โดยมากมักเป็นทายาทของชินอ๋องซึ่งเป็นพระราชโอรส พระเชษฐา หรือพระอนุชาของจักรพรรดิ
*** โต่ว เป็นหน่วยตวงวัดของจีน 1 โต่ว มีปริมาตรประมาณ 10 ลิตร
**** ชาวจีนมีตำนานเล่าถึงเทพกระต่ายว่าเป็นเทพวีรบุรุษที่เทพีฉางเอ๋อแห่งจันทราส่งมารักษาโรคระบาด โดยจำแลงกายเป็นหญิงงามมายังโลกมนุษย์เพื่อระลึกถึงบุญคุณของเทพกระต่าย ชาวเมืองจึงปั้นรูปเคารพเป็นกระต่ายหูยาวใส่ชุดขุนพล ทั้งยังเป็นตุ๊กตาสำหรับเซ่นไหว้พระจันทร์สำหรับผู้หญิง แต่ต่อมากลับกลายเป็นคำเรียกชายบำเรอ