ซูเพียนจื่อคลี่ยิ้มตอบ “แค่บังเอิญเท่านั้น พวกเราชมดูอย่างอื่นกันต่อเถอะ” สีหน้าของนางผ่อนคลาย ทั้งที่ในใจรุ่มร้อนแทบตายอยู่แล้ว อีกเพียงไม่ถึงหนึ่งเค่อก็จะถึงเวลาที่กำหนด ทว่านางยังคงไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับไร้นามเลยสักนิด จะทำอย่างไรดีเล่า
ซูเพียนจื่อร้อนใจจนแทบจะกระทืบเท้า ทว่าเวลาก็ยังคงแล้งน้ำใจล่วงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ใกล้จะหมดเวลาแล้วนะ” ซูป๋ออวิ๋นเอ่ยเตือนแม้จะหักใจไม่ได้อยู่บ้าง
“ชิ้นที่อยู่ข้างหน้านั่น!” ซูเพียนจื่อกวาดสายตาไปยังชั้นวางที่อยู่ด้านหน้า นางเห็นได้รางๆ ว่ามีไอหมอกสีทองจางๆ กระหวัดวนอยู่บนมีดสั้นหินแก้วสีม่วงเล่มหนึ่ง จึงรีบสาวเท้าวิ่งปราดไปคว้าขึ้นมาพิเคราะห์อย่างละเอียด
“มีดสั้นเล่มนี้ถึงกับไม่มีชื่อ” ซูป๋ออวิ๋นมองคำบรรยายที่อยู่บนผนังสำริดแล้วเอ่ยอย่างแปลกใจ
ไม่มีชื่อ?!
หัวใจของซูเพียนจื่อสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
มันจะใช่…ไร้นามหรือไม่!
“ท่านช่วยดูให้ข้าเร็วเข้า!” ซูเพียนจื่อส่งมีดสั้นให้ซูป๋ออวิ๋นพลางเอ่ยเร่ง
ซูป๋ออวิ๋นกุมมีดสั้นมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เนื้อสัมผัสของมีดสั้นเล่มนี้…คล้ายคลึงกับคันฉ่องมายาจันทร์ม่วงยิ่งนัก…”
ซูเพียนจื่อเอ่ยเสียงสั่น “ท่านแน่ใจนะ?”
คันฉ่องมายาจันทร์ม่วง ไร้นาม และคทาเทพลวงได้รับการขนานนามร่วมกันว่าเป็นสามสุดยอดของวิเศษสกุลซู ในจำนวนนี้ไร้นามคือวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีฐานะสูงส่งกว่าอีกสองชิ้นที่เหลือ กระทั่งประมุขแต่ละรุ่นก็ยังมีน้อยคนที่มันยอมรับเป็นเจ้าของ
แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งสามชิ้นก็ล้วนเป็นของวิเศษที่ตกทอดมาจากเทพเจ้าแห่งกลลวงบรรพชนของสกุลซูตั้งแต่ยุคบรรพกาล ดังนั้นระหว่างของทั้งสามชิ้นจึงน่าจะมีความเกี่ยวพันกันอยู่บ้าง หากวัสดุที่ใช้หลอมสร้างมีดสั้นเล่มนี้ใกล้เคียงกับคันฉ่องมายาจันทร์ม่วง เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงยิ่งที่มันจะเป็นไร้นาม
หลังจากพิจารณาซ้ำอีกหน ซูป๋ออวิ๋นก็ส่งมีดสั้นคืนให้ซูเพียนจื่อแล้วเอ่ยปนยิ้มเฝื่อน “ข้าเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ทั้งหมด”
“นอกจากวัสดุแล้ว ท่านรู้สึกว่ามีดสั้นเล่มนี้มีอะไรที่แตกต่างบ้างหรือไม่ เช่น สามารถเปล่งประกายแสงบางอย่างออกมา หรือสามารถนับเป็นศัสตราวิเศษระดับใด” ซูเพียนจื่อซักไซ้
“ประกายแสง? ไม่เห็นมีนะ ข้ารู้สึกเพียงว่าระดับขั้นของมันน่าจะสูงมากๆ อาศัยพลังวัตรของข้าในตอนนี้ไม่อาจตัดสินระดับขั้นของมันได้เลย แต่ข้าสามารถพูดอย่างแน่ใจว่าอานุภาพของมันกล้าแข็งกว่ากระบี่สระลึกไม่ต่ำกว่าร้อยเท่า ข้าคิดภาพไม่ออกเลยว่าบุคคลเช่นไรจึงจะปลุกพลังทั้งหมดของมันออกมาได้” ซูป๋ออวิ๋นมองมีดสั้นหินแก้วสีม่วงเล่มนั้นอย่างอิจฉาอยู่บ้าง ของวิเศษแม้จะดีงาม ทว่าน่าเสียดายที่ไม่สอดคล้องกับวิชาและธาตุพรสวรรค์ของเขา