นอกจากผู้อาวุโสสี่หลี่ ผู้อาวุโสใหญ่หานก็อยู่ด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นศิษย์กลุ่มสุดท้ายล้วนออกมาอย่างปลอดภัย ผู้อาวุโสสี่หลี่ก็โพล่งถามขึ้นทันที “เมื่อครู่พวกเจ้าอยู่ข้างในเลือกสิ่งใดออกมากันบ้าง”
ซูเพียนจื่อลังเลเล็กน้อยขณะมองไปที่สองมือของตน มีดสั้นหินแก้วสีม่วงที่เปล่งประกายทองอร่ามเล่มนั้นไม่อยู่แล้ว คงเหลือแต่กำไลแขนทองเหลืองที่ดูแสนจะธรรมดาสามัญในมือซ้าย…สุดท้ายนางก็เลือกที่จะเชื่อในความรู้สึกของตนเอง
เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ล้วนแสดงของวิเศษที่พวกเขาเลือกออกมาแต่โดยดี นางจึงค่อยชูกำไลแขนทองเหลืองในมือของตนบ้าง
นอกจากกระบี่สระลึกของซูป๋ออวิ๋นที่ดูทั้งสงบนิ่งทั้งเรียบง่ายเป็นอย่างยิ่งแล้ว สิ่งที่ศิษย์คนอื่นๆ เลือกมาทุกชิ้นล้วนแต่เป็นของวิเศษระดับสูงที่แผ่พลังคุกคามผู้อื่นทั้งสิ้น กำไลแขนทองเหลืองของซูเพียนจื่อวงนั้นแม้เปล่งแสงทองมลังเมลืองดูจับตาไม่ใช่น้อย ทว่าในสายตาของผู้เชี่ยวชาญแล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนหินในหมู่หยกน้ำงาม
ผู้อาวุโสสี่หลี่กวาดมองปราดหนึ่งไม่พบเห็นสิ่งใดพิเศษ จึงประสานมือคำนับผู้อาวุโสใหญ่หานแล้วกล่าวว่า “เรื่องที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน”
ผู้อาวุโสใหญ่หานผงกศีรษะรับ จากนั้นจึงรั้งซูเพียนจื่อกับซูป๋ออวิ๋นไว้แล้วให้ศิษย์คนอื่นๆ แยกย้ายกันจากไป
เขานิ่งมองกำไลแขนทองเหลืองในมือของซูเพียนจื่ออยู่พักหนึ่งจึงค่อยเอ่ยถาม “กำไลแขนวงนี้มีชื่อว่าอะไร เหตุใดเจ้าจึงได้เลือกมัน” หากต้องใช้คำพูดสักประโยคมาพรรณนาสีหน้าขณะที่เขาสอบถาม เช่นนั้นก็ต้องบอกว่าทั้งคาดหวังทั้งหวั่นว่าจะเจ็บปวด ดูเคร่งเครียดจนแปลกพิกลอยู่บ้าง
ซูเพียนจื่อประหลาดใจยิ่งนัก เรื่องที่เขาควรจะไปสนใจก่อนก็คือเหตุใดศิษย์ของตนจึงเลือกด้ามกระบี่ที่ไม่สะดุดตามาแทนกระบี่เกล็ดน้ำพุใสไม่ใช่หรอกหรือ
นางรู้สึกดีกับผู้อาวุโสใหญ่หานและศิษย์ของเขาอยู่พอสมควร เมื่อได้ยินคำถามจึงตอบอีกฝ่ายไปว่า “กำไลแขนวงนี้มีชื่อว่ากำไลแขนเจ็ดดาราเจ้าค่ะ…”
“อะไรนะ เจ็ด…เจ็ดดาราหรือ เจ้าส่งมาให้ข้าดูเร็วเข้า!” ไม่รอให้นางพูดจบผู้อาวุโสใหญ่หานก็ตื่นเต้นจนแทบจะคว้ากำไลแขนบนฝ่ามือของนางมาด้วยวิธียื้อแย่ง ท่าทางราวกับได้เห็นสิ่งล้ำค่าที่ยากจะพบพานบนโลกนี้
กำไลแขนทองเหลืองมีความหนาราวหนึ่งนิ้วมือ บนพื้นผิวสีทองมีลายเมฆซ่อนอยู่จางๆ กับแต้มดาวเล็กๆ ที่ไม่เด่นชัดอีกเจ็ดจุด ซึ่งเรียงตัวกันตามตำแหน่งของกลุ่มดาวกระบวยเหนือ เจ็ดดวง หากไม่พินิจพิจารณาอย่างละเอียดก็ยากที่จะค้นพบได้
“เจ็ดดารา…วงแหวน…หึๆ จริงด้วย…เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!” รอยยิ้มบนใบหน้าชราของผู้อาวุโสใหญ่หานผลิบานดุจดอกเบญจมาศ ตื่นเต้นยินดีจนผิดแผกจากยามปกติอย่างยิ่ง
นี่มันเรื่องอะไรกัน ซูเพียนจื่อนึกฉงนยิ่งนัก ซูป๋ออวิ๋นเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูก เขาไม่เคยเห็นอาจารย์ผู้เคร่งครัดเคร่งขรึมของตนเสียกิริยาเช่นนี้มาก่อน ทั้งยังอยู่ต่อหน้าพวกตนสองคนที่เป็นผู้เยาว์อีกด้วย