ทดลองอ่านหวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนนาน เล่ม 8 บทที่ 585-บทที่ 586 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่านหวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนนาน เล่ม 8 บทที่ 585-บทที่ 586

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 585

หลีเจี่ยวกับหลีฮุยสองพี่น้องนั่งรถม้าไปที่จวนกู้ชางป๋อ

เพราะจูซื่อฮูหยินของกู้ชางป๋อเพิ่งล่วงลับไปไม่นาน เป็นเหตุให้จวนป๋อดูเงียบเหงาวังเวง ผู้ดูแลซึ่งเดิมทีต้องยืนต้อนรับแขกที่หน้าประตูใหญ่ในวันนี้ก็หายไปไม่เห็นวี่แวว

หลีเจี่ยวกับหลีฮุยเดินเคียงกันเข้าไป ทั้งสองรอคอยอยู่ในโถงข้างนานครู่หนึ่งถึงได้พบกับท่านตาท่านยายที่มีสีหน้าอิดโรย

“เจี่ยวเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์ วันนี้ท่านยายรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้าง คงไม่กินอาหารพร้อมกับพวกเจ้าแล้ว นี่เป็นเงินขวัญถุงนะ”

สองพี่น้องกล่าวขอบคุณ จากนั้นตามสาวใช้ไปดื่มชาในโถงรับแขก

หลีเจี่ยวดื่มชาอย่างละเลียด เพียงรู้สึกหดหู่ใจสุดจะเปรียบ

“พี่เจี่ยว พวกเรากลับกันดีหรือไม่” หลีฮุยอดเอ่ยขึ้นไม่ได้

หลีเจี่ยวกำถ้วยชาแน่นๆ “วันนี้มาอวยพรวันตรุษที่เรือนท่านตา จะกลับไปตอนนี้ได้อย่างไร”

ปีก่อนๆ พวกนางสองพี่น้องมาอวยพรวันตรุษ ท่านยายให้ความเอ็นดูพวกนางอย่างยิ่ง พูดได้ว่าคนทั่วทั้งจวนป๋อล้วนต้อนรับพวกนางเฉกเช่นแขกผู้ทรงเกียรติ ทว่าปีนี้…

หลีเจี่ยวเม้มปาก อันว่าอูฐผอมแห้งก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า* ไม่ว่าอย่างไรเรือนท่านตาก็เป็นถึงจวนป๋อ จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ของสองครอบครัวยิ่งเหินห่างกันไปเพราะการตายของท่านน้าสะใภ้ไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้นภายภาคหน้าพวกนางสองพี่น้องก็จะไร้ที่พึ่งพาอาศัยมากยิ่งขึ้น

ไม่นานนักมีเสียงฝีเท้าดังลอยมา หลีเจี่ยวเหลียวหน้าไป เห็นญาติผู้น้องตู้เฟยหยางยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตู

“น้องเฟยหยาง…” ในดวงตาของหลีเจี่ยวแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม

มาตรว่าจะเป็นวันตรุษ แต่ตู้เฟยหยางกลับสวมอาภรณ์สีขาวทั้งชุด เขาได้ยินเสียงเรียกของหลีเจี่ยวก็เดินเข้าไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ

“พี่เฟยหยาง สุขสันต์วันตรุษขอรับ” หลีฮุยเอ่ยปากทักทาย

ยามสายตาของตู้เฟยหยางมองไปที่ตัวหลีฮุยก็อ่อนแสงลงหลายส่วน เขาผงกศีรษะเบาๆ “น้องฮุย สุขสันต์วันตรุษ”

หลีเจี่ยวกัดริมฝีปากอย่างห้ามไม่อยู่

นี่น้องเฟยหยางหมายความว่าอะไร ดูท่าทางเหมือนจะไม่พอใจข้าอยู่หรือ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของนางเผยรอยยิ้มจริงใจมากขึ้นขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงแกมห่วงใย “น้องเฟยหยาง ดูเจ้าซูบผอมลงนะ หมู่นี้ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่หรือ”

ตู้เฟยหยางเหยียดมุมปากพลางกล่าว “ท่านแม่ข้าตายไปแล้ว ข้าจะพักผ่อนเต็มที่ได้เช่นไร นี่พี่เจี่ยวแสร้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้วหรือ”

หลีเจี่ยวอึ้งไป นางมั่นใจได้แล้วว่าน้องเฟยหยางไม่พอใจนาง แต่มันเป็นเพราะอะไร

หลีเจี่ยวลอบขุ่นเคือง หากแต่ใบหน้ายังประดับรอยยิ้มดุจเดิม “น้องเฟยหยาง…”

หลีฮุยกลับจับแขนนางไว้ เขามุ่นคิ้วมองญาติผู้พี่ “พี่เฟยหยาง ท่านน้าสะใภ้จากไปแล้ว ข้าเข้าใจจิตใจของท่านได้ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าท่านโกรธเคืองพี่สาวข้าด้วยเหตุใด ที่นี่ญาติผู้พี่เป็นเจ้าของเรือน พวกข้าเป็นแขก ในเมื่อท่านไม่เต็มใจพบพวกข้า เช่นนั้นพวกข้าก็ขออำลา พี่เจี่ยว พวกเรากลับเถอะ”

“น้องสาม เจ้าปล่อยมือสิ” หลีเจี่ยวคาดไม่ถึงว่าหลีฮุยจะมีนิสัยโผงผางเฉกนี้ นางสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของเขาพลางเอ่ยอธิบายกับตู้เฟยหยาง “น้องเฟยหยาง ฮุยเอ๋อร์ก็เป็นคนอย่างนี้เอง เจ้าอย่าเก็บใส่ใจเลยนะ”

หลีฮุยมองพี่สาวอย่างผิดหวังในตัวนางแวบหนึ่งก่อนหันหลังออกเดินไป

“น้องสาม…” หลีเจี่ยวร้องเรียกคำหนึ่ง เห็นหลีฮุยสาวเท้าออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่เหลียวหลัง นางจึงจำต้องไล่กวดตามไป

ตู้เฟยหยางมองตามแผ่นหลังของสองพี่น้องที่ห่างไปไกลแล้วกำหมัดชกผนังทีหนึ่ง

เมื่อขึ้นรถม้ากลับจวน หลีเจี่ยวพูดเอ็ดน้องชาย “น้องสาม จู่ๆ เจ้าโมโหโทโสอะไร น้องเฟยหยางเพิ่งเสียมารดาไป จะโศกเศร้าก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้”

หลีฮุยมองพี่สาวอย่างพินิจ เขาโคลงศีรษะกล่าวว่า “พี่เจี่ยว หรือท่านมองไม่ออกว่าตู้เฟยหยางพาลโกรธท่านอยู่”

“พาลโกรธข้า?” หลีเจี่ยวนิ่งขึงไปเล็กน้อย นางเอ่ยพึมพำ “พาลโกรธข้าเรื่องอะไร”

หลีฮุยยิ้มเยาะ “ใครจะไปรู้เล่า บางทีอาจเห็นว่าการตายของท่านน้าสะใภ้เกี่ยวกับท่านก็ได้”

หลีเจี่ยวเบิกตากว้างอย่างสุดระงับ “เกี่ยวกับข้า?”

หลีฮุยหลุบตาลงเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงปึ่งชา “ท่านน้าสะใภ้ว่าจ้างคนมาสาดอุจจาระใส่หน้าประตูจวนเราเพื่อระบายความโกรธแทนตู้เฟยเสวี่ยมิใช่หรือ ผลปรากฏว่าไปล่วงเกินกวนจวินโหวเข้าถึงได้ลุกลามไปจนฆ่าตัวตาย แล้วถ้าไม่ใช่เพราะพี่เจี่ยว ตู้เฟยเสวี่ยจะได้รู้จักกับน้องเจาจนพวกนางเกิดเรื่องบาดหมางกันได้อย่างไรเล่า”

“นี่…นี่เกี่ยวข้องอันใดกับข้าด้วย”

หลีฮุยเหยียดยิ้ม “เดิมทีไม่เกี่ยวกับพี่เจี่ยวหรอก แต่คนที่ไม่ยอมรับความจริงมักหาใครสักคนเป็นที่ระบายอารมณ์ ตู้เฟยหยางเอาความโกรธไปลงกับกวนจวินโหวไม่ได้ก็เลยได้แต่ลงกับพี่เจี่ยวแล้ว”

จิตใจของหลีเจี่ยวราวกับอยู่ในหม้อน้ำมันเดือด นางเอื้อนเอ่ยคำใดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง

สำหรับตู้เฟยเสวี่ยกับตู้เฟยหยางนั้น ถือได้ว่าเป็นคนที่นางเฝ้าประจบประแจงมาตั้งแต่เล็กจนโต ยามอยู่ด้วยกันนางก็ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ ใครจะรู้ว่าลงท้ายตู้เฟยหยางกลับพาลโกรธนาง แต่น้องสามที่เฉยเมยกับพวกเขาเสมอมากลับไม่เป็นไร

ไยโลกเรานี้ช่างไม่ยุติธรรม!

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

community.jamsai.com