ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 62 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกรัตติกาลแห่งฉางอัน บทที่ 62

เถิงอวี้อี้เอ่ยว่า “หลังประตูใหญ่ไม่ได้ปลูกต้นอิ๋นซิ่ง แต่พี่สาวอย่าลืมสิ ประตูอารามสองฝั่งต่างมีภูเขาจำลองสูงใหญ่กว่าปกติสองลูก หน้าภูเขาจำลองยังปลูกต้นสนสูงเสียดฟ้าไว้ตั้งเด่นอยู่ทางทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกคนละมุม แล้วก็มองเห็นจากที่ไกลๆ ได้ด้วย เช่นนี้ไม่เท่ากับเป็นเส้นอินเหยาสองเส้นทางทิศใต้พอดีหรือ”

ในสมองตู้ถิงหลันผุดภาพความทรงจำเลือนราง แต่จำได้ไม่แม่นยำอย่างน้องสาว นางยิ้มอย่างจนปัญญา “พี่สาวจำไม่ค่อยได้แล้ว ในสมองน้อยๆ ของเจ้านี่นะ ชอบคิดเยอะกับเรื่องแปลกพิลึกพวกนี้เสมอ”

เดิมทีเถิงอวี้อี้ไม่อยากคิดเยอะกับเรื่องเหล่านี้ ทว่าขอเพียงคิดถึงคนเสื้อคลุมดำที่ยังไม่เผยโฉมหน้าที่แท้จริง นางก็ไม่อาจคลายความหวาดระแวงลงได้เลย ไม่ว่าเดินทางไปที่ใดนางจะคุ้นชินกับการสังเกตแผนผังของสภาพแวดล้อมโดยรอบก่อนเสมอ

ตู้ถิงหลันเหลียวมองไปรอบกาย “ปีนั้นองค์หญิงอวี้เจินเชิญยอดฝีมือตั้งมากมายมาสร้างอารามแห่งนี้ นอกอารามจะมีกลไกลับก็เป็นเรื่องปกติ ถึงแม้วิธีการปลูกป่าท้อกับต้นอิ๋นซิ่งจะซับซ้อนพิสดาร แต่ก็ใช่ว่าจะมองอะไรไม่ออกเลย ข้ากลับรู้สึกว่ากลไกของอารามไม่มีทางเปิดเผยโจ่งแจ้ง ยอดฝีมือเหล่านั้นจงใจวางลักษณะของต้ากั้วกว้าให้เราเห็น ไม่แน่ว่าอาจทำเพื่อให้คนสับสนงุนงง บางทีกลไกที่แท้จริงในอารามอาจจะซุกซ่อนอยู่ที่อื่น”

เถิงอวี้อี้พยักหน้าตอบ คำพูดประโยคนี้มีเหตุผล ว่ากันว่าองค์หญิงอวี้เจินสนใจศึกษาวิชาฉีเหมินตุ้นจย่า* ความปรารถนาแต่เดิมตอนสร้างอารามเต๋าแห่งนี้ขึ้นมาคือเพื่อเป็นสถานที่ไว้ปักหลักหลบภัยยามเกิดความเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง ในเมื่อองค์หญิงรวบรวมยอดฝีมือร่วมร้อยคนมาช่วยออกอุบายวางกลยุทธ์ จะมีเพียงแผนผังธรรมดาสามัญเช่นนี้ได้อย่างไร

แต่ถึงกระนั้นนางยังรู้สึกตงิดใจว่าไม่ถูกต้อง แม้อารามนักพรตหญิงอวี้เจินจะมีชื่อเสียงเลื่องลือมานาน กลับไม่ได้ครอบครองพื้นที่กว้างขวางมากเท่าไร ปลูกป่าท้อผืนใหญ่ถึงเพียงนี้เอาไว้เพียงเพื่อดึงดูดนักเดินทาง จะไม่สิ้นเปลืองเกินไปสักหน่อยหรือ

ตามความเห็นของนางการวางแผนผังเช่นนี้คงจะมีความหมายลึกซึ้งแอบแฝงอยู่อีก

ระหว่างบทสนทนาก็เดินมาถึงห้องสุขา ตู้ถิงหลันเดินเข้าไปจุดกำยานและเข้าห้องสุขา เถิงอวี้อี้ตั้งใจจะดูแผนผังในอารามอย่างละเอียดจึงออกสำรวจไปทั่วบริเวณ นอกราวกั้นระเบียงทางเดินมีธารน้ำใสกระจ่างวนรอบขั้นบันได ดอกเสาเย่าหลายต้นกำลังบานสะพรั่ง นางเดินอ้อมกำแพงเรือนขนาดเล็กไปโดยไม่รู้ตัว ทว่าจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงนกกระทาร้องดังหลายเสียงจากบนกำแพงที่ห่างไปไม่ไกล พลันรับรู้อยู่ในใจว่าตวนฝูเข้ามาได้แล้ว คิดว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะเดินไปถึงที่ใด ก็จะมีตวนฝูคอยติดตามมา นางจึงยิ่งวางใจ

เถิงอวี้อี้เดินไปอีกระยะหนึ่ง มองเห็นข้างทางมีภูเขาจำลองโผล่ขึ้นมา ด้านข้างมีหน้าต่างวงจันทร์โผล่มาบานหนึ่ง กิ่งไผ่สีเขียวมรกตหลายกิ่งยื่นพ้นหน้าต่าง บรรยากาศแถวนี้เงียบสงบ ไม่มีนักพรตหญิงเดินผ่านไปมาสักคน นางลอบคาดเดาว่าข้างในจะต้องมีความลับสำคัญอะไรซ่อนอยู่ จึงย่างเท้าเดินเข้าไปอย่างช้าๆ

นับตั้งแต่ฝึกวรยุทธ์มาจนถึงตอนนี้นางเคยฝึกฝนกำลังภายในเพียงตอนที่เรียนเพลงกระบี่ดอกท้อเท่านั้น ส่วนวิชาอื่นอย่างเพลงกระบี่พิชิตภัยที่ลุงเฉิงสอนหรือเพลงกระบี่เร้นกายาที่ห้านักพรตสอนไปได้ครึ่งทางล้วนเป็นการเร่งรีบฝึกฝนให้สำเร็จ โดยมิได้ฝึกเกี่ยวเนื่องไปถึงส่วนเคล็ดวิชากำลังภายในเลย

ฉะนั้นทุกครั้งเวลานางโคจรกำลังภายในจะโคจรตามแนวทางของเพลงกระบี่ดอกท้อโดยไม่รู้ตัว

อะไรนะ ใจไม่ฟุ้งซ่าน ลมไม่พัดไป’…

แล้วก็ เท้าซ้ายตามอิน เท้าขวาตามหยาง

ใจความเหล่านี้เป็นเคล็ดวิชาที่ลิ่นเฉิงโย่วสอนนาง นางท่องจำได้ขึ้นใจไปนานแล้ว รวมถึงช่วงนี้มีเวลาว่างก็หมั่นฝึกฝน พอเปรียบเทียบกับตอนเริ่มเรียนใหม่ๆ ยามใช้กำลังภายในจะคล่องแคล่วกว่าเดิม ทั้งที่เหยียบลงบนเศษใบไม้ดอกไม้เกลื่อนพื้นกลับไม่มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นเลย

เถิงอวี้อี้รู้สึกว่าน่าสนุกเหลือเกิน นางจึงยิ่งรวบรวมสมาธิโคจรพลัง อยู่ๆ ก็นึกถึงตอนตวนฝูสอนวิชาการต่อสู้ประชิดตัวให้นางเมื่อสองวันก่อน ในขณะเดียวก็เริ่มสอนเคล็ดวิชากำลังภายในไปด้วย ทว่าผ่านไปเพียงสองกระบวนท่าตวนฝูก็เผยสีหน้าแปลกประหลาด ถามนางว่าตอนอยู่ในหอไฉ่เฟิ่งฝึกวิชาอะไรมากันแน่ ประหนึ่งว่าพลังปราณในร่างนางมีที่มาไม่ปกติ

ตอนนั้นนางนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ หลังกลับจากหอไฉ่เฟิ่งเป็นต้นมาร่างกายก็มีความเปลี่ยนแปลงจริงๆ อย่าว่าแต่ตอนกลางคืนเวลาเข้านอนสองเท้าไม่เย็นเฉียบ กระทั่งยามมีระดูก็ไม่เจ็บปวดอีกแล้ว ทั่วร่างรู้สึกอุ่นสบาย มีเรี่ยวแรงให้ใช้ไม่หมดสิ้นตลอดทั้งวัน

จะว่าไปนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นางไม่เพียงเรียนเพลงกระบี่ดอกท้อ ยังเคยดื่มน้ำแกงรากวิญญาณหยกเพลิงซึ่งกล่าวขานกันว่าน้ำแกงสมุนไพรชนิดนี้ช่วยเพิ่มกำลังภายในได้เจ็ดถึงแปดปี เช่นนั้นภายในร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ด้วยเหตุนี้จึงเล่าเรื่องที่ดื่มน้ำแกงรากวิญญาณหยกเพลิงให้ตวนฝูฟัง

ตวนฝูไม่ได้ถามอะไรต่ออีก แต่ความสงสัยที่ฉายชัดบนใบหน้าดูไม่ลดลงเลย

เถิงอวี้อี้ครุ่นคิดถึงสีหน้าตวนฝูในเวลานั้นพลางเดินไปถึงหน้าต่างวงจันทร์อย่างเงียบงัน พลันได้ยินว่ามีใครบางคนกระซิบกระซาบจากอีกฝั่งของหน้าต่าง เห็นได้ชัดว่าหลังกำแพงมีคนอยู่ และคาดว่าคนผู้นั้นคงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง การพูดจาถึงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงัก

ตอนแรกเถิงอวี้อี้อยากเดินจากไป ทว่าเมื่อฟังออกว่าเป็นเสียงของพวกเผิงฮวาเยวี่ยสองพี่น้องฝีเท้าจึงหยุดลงอย่างกะทันหัน

ชาติก่อนบิดาถูกลอบสังหาร ผู้บงการเบื้องหลังเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นเผิงเจิ้น ต่อให้เรื่องของบิดาบุตรสาวอาจไม่รู้แน่ชัด แต่อาจได้ยินอะไรบางอย่างจากปากของเผิงฮวาเยวี่ยกับเผิงจิ่นซิ่วบ้างก็ได้

เถิงอวี้อี้เหลียวมองรอบกายอย่างว่องไว แล้วกลั้นลมหายใจไปซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลอง

“พี่สาว ท่านจะขวางข้าด้วยเหตุใดกัน” นั่นเป็นเสียงของเผิงจิ่นซิ่ว

เผิงฮวาเยวี่ยมิได้ตอบกลับในทันควัน ราวกับต้องการยืนยันอีกครั้งก่อนว่ารอบข้างไร้ผู้คน รอประเดี๋ยวหนึ่งก็ได้ยินนางกดเสียงต่ำเอ่ยว่า “ก็ขวางไม่ให้เจ้าทำเรื่องโง่เขลาน่ะสิ”

เผิงจิ่นซิ่วพูดจาอ้ำอึ้งขึ้นมา “ข้า…ข้าไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย”

“ไม่ได้คิดจะทำอะไร ทางนั้นก็เป็นกำแพงทิศตะวันตกแล้ว เจ้าให้คนที่อยู่ข้างกายถอยออกไปหมด แล้วถือเหยี่ยวกระดาษ* เดินวนเวียนอยู่ตรงนี้ตามลำพัง ตั้งใจว่าจะฉวยโอกาสตอนลมโหมพัดแรงปล่อยเหยี่ยวกระดาษลอยขึ้นฟ้า ค่อยแสร้งทำพลาดร่วงหล่นเข้าไปในวังฉุนอันจวิ้นอ๋องใช่หรือไม่”

“เหลวไหล” เผิงจิ่นซิ่วเผยความกระดากอายอยู่หลายส่วน “ข้าไม่ได้คิดเช่นนี้เลยนะ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com