ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 238-240 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 238-240

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 238 พบพานสหายเก่า

ไม่อาจไม่พูดถึง นับแต่สกุลหานเข้าร่วม เฉินอิ๋งก็ประหยัดเรี่ยวแรงไปได้มาก แม้แต่ภาพร่างสิ่งปลูกสร้างที่นางวาดไว้ก็ยังได้ช่างฝีมือทั้งหลายช่วยกันแก้ไขจนสมบูรณ์ สุดท้ายนางก็ได้แต่วางมือปล่อยให้คนอื่นจัดการกันไป นอกจากควักเงินจ่ายไม่หยุดแล้ว ที่นางต้องทำก็มีเพียงเรียบเรียงรวบรวมสร้างสื่อการเรียนการสอน

“สกุลหานไม่ว่าจะเจ้านายหรือลูกน้องล้วนแต่ผู้เปี่ยมสติปัญญา” เฉินอิ๋งพูดพลางทอดถอนใจ

คำพูดนี้สวินเจินไม่กล้าเอ่ยปากรับช่วงต่อ หลัวมามาเองก็ได้แต่กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเป็นที่สุด “วิสัยทัศน์ของนายท่านผู้เฒ่าสกุลหานนับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ”

คำพูดนี้แฝงความหมายลึกล้ำ พวกนางต่างรู้ดีแก่ใจ

วันนั้นไปเยี่ยมเยียนกัวหว่านแต่ไม่พบ ตอนกลับพวกสวินเจินเห็นรถม้าหลังคาดำสองคัน

ทหารองครักษ์ติดตามรถสองนายนั้นพวกนางเองก็รู้จัก

เรื่องนี้ไม่มีทางปิดบังได้นาน เรื่องจะแดงขึ้นเมื่อไรปัญหาอยู่ที่เวลาเท่านั้น หลังจากครุ่นคิดครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเฉินอิ๋งก็นำเรื่องนี้ไปบอกกับหลี่ซื่อ ด้วยเหตุนี้หลัวมามาจึงพลอยรู้ไปด้วย

เฉินอิ๋งถอนหายใจเงียบๆ คราหนึ่งก่อนจะโยนเรื่องพวกนี้ออกจากหัวสมอง นางเปลี่ยนเรื่องคุย “เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน นายหญิงสี่ฉิวไม่ออกหน้า คนที่สกุลหานส่งมาก็เป็นพ่อบ้านใหญ่ของพวกเขา ต่อให้วันหน้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริง ก็ไม่มีอันใดผูกโยงพวกเรากับนายหญิงสี่ฉิวเข้าด้วยกันได้”

นางหวังว่ากัวหว่านจะมีชีวิตสงบสุขด้วยใจจริง ไม่ต้องเข้ามามีส่วนพัวพันกับเรื่องสู้รบอันใด

แต่จากที่เห็นในเวลานี้ เรื่องนี้เหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

ครั้นพูดถึงตรงนี้พวกนางนายบ่าวก็ข้ามไปไม่พูดถึงรายละเอียดอันใดอีก

ยามนี้เซ่าจงมาถึงแล้ว อีกฝ่ายด้วยเพราะรีบรุดเดินทางมา ตอนมาถึงเนื้อตัวเขาจึงเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตๆ ท่ามกลางอากาศเย็นต้นฤดูใบไม้ผลิ หัวของเขาถึงกับมีไอร้อนปรากฏรางๆ

“ผู้น้อยคารวะคุณหนูสาม” เขายืนสงบนิ่งค้อมกายแสดงคารวะอยู่ทางด้านหน้าห่างจากเฉินอิ๋งไปไม่ไกลนัก

เฉินอิ๋งเบี่ยงกายเล็กน้อยพลางยิ้มกล่าว “พ่อบ้านเซ่างานการรัดตัว ข้าเรียกท่านมาเช่นนี้คงทำท่านเสียการเสียงานแล้ว”

เซ่าจงรีบเอ่ยปากตอบพลางยิ้มกล่าว “มิกล้า นายท่านผู้เฒ่าของพวกเรากำชับ บอกให้ผู้น้อยวางงานทั้งหมดในมือลงก่อน รับฟังคำสั่งของคุณหนูสาม เรื่องของคุณหนูสามก็คืองานของผู้น้อย ผู้น้อยย่อมต้องปฏิบัติตาม”

เฉินอิ๋งยิ้มพร้อมโบกมือกล่าว “ท่านก็อย่าได้เกรงใจข้าเกินไป ข้ารู้ว่าท่านยังมีเรื่องราวอีกมากที่ต้องจัดการ ข้าเองก็ไม่คิดจะพูดจาอ้อมค้อมอันใด แค่อยากถามว่าเรื่องสวนผลไม้ยามนี้เป็นเช่นใดแล้ว”

หานตวนหลี่รับเหมาหมดทุกอย่าง แม้แต่เรื่องสวนผลไม้ที่เยียนไถก็ยังรับไปด้วย ส่วนเผยซู่ด้วยเพราะเหตุผลบางอย่างจึงไม่ได้แย่งชิงกับอีกฝ่าย

สกุลหานเป็นเจ้าถิ่นอยู่แต่ไหนแต่ไร ที่ก่อนหน้านี้มีฐานะตกต่ำนั่นก็ด้วยเพราะถูกคนกดทับไว้จนขยับเขยื้อนไม่ได้ ยามนี้ภูเขาลูกใหญ่นั่นไม่มีแล้ว หนำซ้ำยังผูกสัมพันธ์อยู่กับสกุลหลี่และจวนกั๋วกง เบื้องหลังไม่แน่ว่าอาจมีผู้สนับสนุนที่ใหญ่โตยิ่งกว่านี้อีก เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถกลับมาเงยหน้าอ้าปากได้ น้ำมันหอมระเหยพวกนั้นหรือก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ยามนี้ขายไปถึงเมืองเซิ่งจิงแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานคำว่า ‘คหบดีอันดับหนึ่งแห่งเติงโจว’ คงได้กลับมาอยู่ในมือสกุลหานอีกครั้งเป็นแน่

หานตวนหลี่อาจเพราะระลึกถึงบุญคุณของเฉินอิ๋ง และอาจเป็นไปได้ว่ามีแผนการอื่น เขาถึงคอยช่วยเหลือนางอย่างสุดกำลัง เรื่องสำนักศึกษาสตรีเฉวียนเฉิงนี้ ไม่ว่าเช่นไรเขาก็ต้องจัดการมันให้ดีที่สุด แม้แต่เรื่องที่เฉินอิ๋งนึกไม่ถึงเขาก็ยังช่วยนึกให้

พอได้ยินเฉินอิ๋งบอกว่ามีเรื่องจะถาม เซ่าจงก็ดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากรองเท้าหุ้มข้อ อ่านมันออกมาให้นางฟัง “ห่างจากเมืองเยียนไถออกไปสี่สิบลี้ ซื้อที่ดินยี่สิบหมู่ไว้ผืนหนึ่ง ปลูกต้นหลินฉินพันห้าร้อยต้น ว่าจ้างคนสวนไว้สิบคน คนงานขุดร่องน้ำสี่สิบ…”

รายการต่างๆ เขียนไว้อย่างละเอียด แม้แต่ค่าใช้จ่ายก็คิดคำนวณออกมาเสร็จสรรพ สำหรับเฉินอิ๋งแล้วเรื่องปลูกต้นไม้ใดๆ นั้นนางหารู้เรื่องอันใดไม่ ยามนี้นางก็แค่รับฟังเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เท่านั้น ครั้นอีกฝ่ายอ่านจบนางก็ยิ้มกล่าว “ลำบากแล้ว เพื่อการนี้ถึงกับต้องให้ท่านเดินทางไปถึงเยียนไถด้วยตนเอง”

เซ่าจงประคองบันทึกรายการดังกล่าวด้วยสองมือพลางยิ้มกล่าว “คุณหนูสามกล่าวหนักเกินไปแล้ว เรื่องพวกนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ผู้น้อยสมควรทำทั้งสิ้น”

หลัวมามาเดินขึ้นหน้าไปรับบันทึกรายการในมืออีกฝ่าย เฉินอิ๋งถามขึ้นอีกประโยค “เรื่องเชิญท่านอาจารย์ไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว”

พอได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเซ่าจงก็กลับกลายเป็นกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กๆ ทันที “เรียนคุณหนูสาม เรื่องนี้นายท่านเป็นคนจัดการด้วยตนเอง ผู้น้อยรู้ก็แต่ว่ายามนี้ยังไม่มีผู้ใดตอบรับ”

เฉินอิ๋งส่งเสียง “อืม” ออกมาคราหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นนางก็มิได้รู้สึกผิดหวังอันใดมากนัก

เรื่องนี้ก็อยู่ในความคาดหมายของเฉินอิ๋งเช่นกัน สำนักศึกษาสตรีแห่งนี้แม้ฮ่องเต้หยวนจยาจะทรงอนุญาตให้สร้างขึ้น และเป็นสำนักศึกษาสตรีสำหรับชาวบ้านราษฎรทั่วไป รวมทั้งสตรีที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาแห่งแรกของแผ่นดินต้าฉู่ ทว่าอาจารย์ที่เป็นบุรุษเกรงว่าจะไม่ยอมรับคำเชิญกันง่ายๆ ส่วนอาจารย์สตรี หากโชคดีพอก็น่าจะเชิญมาได้สักสองสามคน

“ผู้น้อยใคร่ถามคุณหนูสามสักข้อ เหตุใดถึงไม่หาอาจารย์จากทางจี่หนานเล่า” เซ่าจงถามอย่างระมัดระวัง

ที่ซานตง เติงโจวจัดเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ การศึกษาไม่สู้ก้าวหน้านัก คิดหาอาจารย์สตรีสักคนหาใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ ตรงกันข้ามกับจี่หนานที่เจริญรุ่งเรืองกว่า สถานที่หรือก็มีให้เลือกมากกว่าเติงโจวนัก เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเฉินอิ๋งถึงทิ้งใกล้เลือกไกลเช่นนี้

ได้ยินอีกฝ่ายถามเช่นนั้นเฉินอิ๋งก็ยิ้มขื่น นางถอนหายใจตอบ “ข้าเองก็ใช่ว่าจะไม่อยากทำเช่นนั้น ทว่าความคิดอ่านของคนที่นี่หาได้เปิดกว้างไม่ อาจารย์สตรีเหล่านั้นทะนุถนอมชื่อเสียงเหนืออื่นใด ยากจะพูดจาชักจูงได้”

นางถึงกับขอให้หลี่เหิงช่วยถาม แต่ถึงกระนั้นก็หามีผลลัพธ์อันใดไม่ อาจารย์สตรีที่มีความรู้ในจี่หนานส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ น้อยนักที่จะยินดีปรากฏตัว

เฉินอิ๋งตัดสินใจว่าหากหาไม่ได้ ถึงตอนนั้นนางคงได้แต่ต้องบากหน้ายืมตัวอาจารย์จากสำนักศึกษาสกุลหลี่มาสักสองสามคน เฉินอิ๋งเองก็รับหน้าที่สอนหนังสือได้บางส่วน หลี่ซื่อเองก็เช่นกัน

ทว่าเรื่องพวกนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องในภายภาคหน้า พูดตอนนี้ออกจะเร็วเกินไปอยู่สักหน่อย

จู่ๆ เฉินอิ๋งก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ นางเอ่ยปากถาม “พ่อบ้านเซ่าเพิ่งกลับมาจากเติงโจว ไม่ทราบว่าท่านพอได้ยินข่าวเรื่องค่ายผู้อพยพที่นั่นบ้างหรือไม่”

เซ่าจงตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะกลับมาได้สติอย่างรวดเร็ว เขาค้อมกายกล่าว “หากคุณหนูสามหมายถึงเรื่องเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในค่ายผู้อพยพล่ะก็ ผู้น้อยพอได้ยินมาอยู่บ้างขอรับ”

“เอ๋?” เฉินอิ๋งมองดูอีกฝ่ายด้วยดวงตาเป็นประกาย นางถามต่อ “ไม่ทราบว่าท่านพอจะเล่ารายละเอียดให้ข้าฟังได้หรือไม่”

เซ่าจงรีบบอก “วันนั้นผู้น้อยบังเอิญอยู่ที่เผิงไหลพอดี คืนเกิดเพลิงไหม้ผู้น้อยอยู่ในบ้านมองเห็นแสงไฟ ท้องฟ้าแดงฉานไปกว่าครึ่ง ด้านนายท่านผู้เฒ่าเพราะใส่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่ง เช้าวันที่สองจึงสั่งให้ผู้น้อยออกไปสืบข่าว ทว่าค่ายผู้อพยพนั้นมีทหารเฝ้าอยู่ ผู้น้อยจึงสืบข่าวรู้ก็แต่ว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นทางฝั่งตะวันตก คนที่พักอยู่ที่นั่นก่อนหน้านี้ล้วนเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ท่าเรือ นอกจากเรื่องพวกนี้ เรื่องอื่นอันใดผู้น้อยล้วนไม่ทราบ”

ที่แท้ก็เป็นคนที่เคยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกไห่ปัง

เฉินอิ๋งพยักหน้าเงียบๆ ขณะกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ นางก็เห็นคนสองคนเดินมาจากไกลๆ ที่เดินอยู่ทางด้านหน้าคือหลางถิงอวี้

นางรู้สึกประหลาดใจจึงรีบเงียบเสียงลงทันที

เมื่อครู่หลางถิงอวี้เพิ่งจากไป แล้วเหตุใดถึงย้อนกลับมาอีก หรือว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น?

ครั้นคิดได้เช่นนั้นนางก็เรียกหลัวมามาให้ส่งเซ่าจงออกไป ส่วนพวกหลางถิงอวี้ก็เดินใกล้เข้ามาทุกขณะ

เฉินอิ๋งกวาดตามองคราหนึ่งก่อนจะพบว่าคนอีกผู้หนึ่งที่เดินตามหลางถิงอวี้อยู่ทางด้านหลังคือ…

เยี่ยชิง!

“เยี่ยชิง?” นางอุทานออกมาเบาๆ คราหนึ่ง ใบหน้าฉายแววประหลาดใจอย่างเก็บงำไว้ไม่อยู่ “ท่าน…ท่านมาได้เช่นไร”

เยี่ยชิงตอบเพียงสั้นๆ พลางยืนนิ่งอยู่ทางด้านหลังของหลางถิงอวี้ไม่ขยับ “คุ้มครองผู้คน”

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

community.jamsai.com