บทที่เก้าสิบหก
ชุยเฉวียนรับคำ แล้วรีบเดินออกไป
ไม่นานก็กลับมา “ทูลฮองเฮา เครื่องหอมของตระกูลหลีมาถึงประตูวังแล้ว ทหารองครักษ์เฝ้าประตูกำลังตรวจสอบอยู่พ่ะย่ะค่ะ…” สายตาแอบเหลือบมองอิงอ๋อง
เครื่องหอมของตระกูลหลีมาถึงแต่เช้าแล้ว แต่กลับถูกทหารองครักษ์ของอิงอ๋องขวางไว้นอกประตูตำหนักทำให้เข้ามาไม่ได้ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าขันทีมาหลายปี เขาย่อมเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างสนมชายาในตำหนักมาไม่น้อย ชุยเฉวียนนั้นเรียกได้ว่าเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง กระนั้นเขาก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่ายามนี้อิงอ๋องกำลังแสดงละครเรื่องอะไรกัน
ด้านหนึ่งมายกยอตระกูลหลีต่อหน้าฮองเฮา อีกด้านหนึ่งก็ให้องครักษ์ขวางเครื่องหอมตระกูลหลีไว้ไม่ให้เข้ามาได้ หากเป็นเช่นนี้แล้วจะสามารถทำร้ายตระกูลหลีได้อย่างนั้นหรือ ความคิดของท่านอ๋องหกง่ายเกินไปหรือไม่
ตระกูลหลีเป็นวาณิชหลวงมาหลายปี เครื่องหอมถูกขนเข้ามาในวังหลังจนไม่อาจนับจำนวนได้แล้ว ยังต้องตรวจสอบอะไรอีกเล่า ฮองเฮาได้ฟังก็ขมวดคิ้ว “นำคำสั่งเราไป ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ…” ชุยเฉวียนรีบเดินออกไป
อิงอ๋องกลับเต้นกระตุกไป
เหตุใดชุยเฉวียนจึงบอกว่าเครื่องหอมของตระกูลหลีถูกตรวจสอบอยู่หน้าตำหนัก หรือว่า…
คิดถึงตอนก่อนที่ตนเองจะมาเคยสั่งทหารองครักษ์เฝ้าประตูตำหนักไว้ว่าหากเครื่องหอมของตระกูลหลีมาถึงไม่ยอดเยี่ยมก็แล้วไปเถอะ แต่หากพบว่าเป็นเครื่องหอมชั้นเลิศล่ะก็ ไม่ว่าใช้วิธีใดก็ต้องขวางไว้นอกประตูตำหนัก
นี่เป็นการรับรองความเสี่ยงสุดท้ายของเขา
ตอนนี้เครื่องหอมของตระกูลหลีถูกขวางไว้นอกประตูตำหนักจริงๆ ก็แสดงว่านั่นต้องเป็นเครื่องหอมชั้นเลิศแน่นอน แต่ว่า…เครื่องหอมของตระกูลหลีล้วนถูกตนเองกับหร่วนอวี้ปล้นชิงไปหมดแล้วนี่นา!
หรือว่ารายงานของสายลับจะผิดพลาดไป
ความคิดนี้แล่นผ่าน อิงอ๋องพลันมีเม็ดเหงื่อผุดบนหน้าผากในทันที เขาพยายามสะกดใจที่จะเอ่ยปากยับยั้งฮองเฮาเอาไว้แล้วสั่งให้คนดับไฟเครื่องหอมเพื่อไล่กลิ่น สมองก็คิดวนอย่างรวดเร็ว
หากสิ่งที่ตระกูลหลีถวายเป็นเครื่องหอมชั้นเลิศ เขาจะยับยั้งไม่ให้ฮองเฮาทรงลองดมกลิ่นได้อย่างไร
ไม่นานชุยเฉวียนก็เดินเข้ามา “ทูลฮองเฮา เครื่องหอมของตระกูลหลีมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”
บรรยากาศภายในตำหนักวุ่นวายในทันที ทุกคนอยากจะดูว่าเครื่องหอมของตระกูลหลีสามารถเทียบกับเม็ดหอมเศร้าอาดูรของหลิ่วเฟิ่งที่เพิ่งเข้าสู่วงการนี้มาได้หรือไม่
“นำขึ้นมา…” ฮองเฮาสั่ง
ไม่นานก็เห็นเพียงนางกำนัลในชุดเขียวคนหนึ่งยกถาดผลึกแก้วสลักลายใบหนึ่งเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
เหนือความคาดหมายของทุกคน
บนถาดนั้นกลับมิใช่เครื่องหอม แต่เป็นเม็ดกลมผลึกแก้วอันหนึ่ง ผลึกใสนี้ยามที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์แล้วจะมีสีสันสดใส ดูงดงามตา
“สวยจริง…” องค์หญิงหมิงอวี้พูดอย่างลืมตัว หากไม่ใช่เพราะความสงบเสงี่ยมที่ฝึกมานานหลายปี เกรงว่านางคงกระโดดลงไปหยิบมาเล่นแล้ว
“นี่คืออะไร” มีคนถามเสียงเบา
ทุกคนพากันส่ายหน้า
กลั้นหายใจมองดูนางกำนัลชุดเขียวค่อยๆ เดินขึ้นมาทีละก้าว
“แสร้งทำให้คนหลงใหล!” ในความเงียบอิงอ๋องแค่นเสียงสบถเย็นชา แต่ใจเขากลับเต้นรัว ที่แท้เม็ดหอมเศร้าอาดูรที่เอาชนะกู่ฉินห้าหมื่นเม็ดนั้นล้วนเป็นกลลวง
เครื่องหอมที่ส่งเข้าคัดเลือกจริงคือสิ่งนี้!
หลีจวินเจ้าเล่ห์เสียจริง!
ทั้งที่เป็นแค่ของปลอม หลีจวินกลับเสียเวลาแบ่งของออกเป็นสามทาง ทั้งยังทำได้อย่างไร้ที่ติ ไม่เพียงเพื่อหลบเลี่ยงการช่วงชิง เขายังทำเพื่อให้ตนเองไม่เหลือความระวังใดๆ ปล่อยให้เครื่องหอมของจริงชุดนี้ผ่านเข้ามายังตำหนักในได้
หากไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าตระกูลหลีไม่มีเครื่องหอมชั้นดีเข้าถวายแล้ว วันนี้เขาจะยังยกย่องตระกูลหลีตามความคิดของหนิงอ๋องได้อย่างไร
นี่มันวาดเสือไม่เสร็จกลายเป็นสุนัข* จริงๆ
มือที่อยู่ใต้แขนเสื้อกำเป็นหมัดแน่น เส้นเอ็นเขียวบนหลังมือปูดขึ้นจางๆ อิงอ๋องพยายามระงับอารมณ์ตนเองและรักษาสีหน้าสงบนิ่งไว้ ในใจแอบถามไม่หยุด ในผลึกแก้วนี้คืออะไรกันแน่