ชวนเจาะลึกความฟิน 6 คู่ 6 ความฟิน จากนักแสดงมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน

วันที่เรามีบทสัมภาษณ์สุด Exclusive จากนักแสดงทั้ง 6 คู่ อย่าง โอห์ม - ฟลุ้ค, คอปเตอร์ - คิมม่อน,จิมมี่ - ทอมมี่, ยุ่น - ทะเล, แม้ก - นัท และ จา - เฟริสท์ ในมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ที่ฉายทางช่อง VIU มาให้ทุกคนได้ร่วมเจาะลึกและฟินไปพร้อมกัน ว่าแต่บทสัมภาษณ์จะชวนกรี๊ดและสนุกแค่ไหน ใครพร้อมแล้ว ตามมาอ่านกันได้เลย!

บทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก ‘โอห์ม - ฟลุ้ค’
จากมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ตอน ‘ช่วยทําว่ายังรัก’

 แนะนำตัวหน่อยครับ
โอห์ม: สวัสดีครับ ผม โอห์ม ฐิติวัฒน์ นะครับ ในโปรเจ็กต์ Close Friend ตอน ช่วยทำว่ายังรัก ผมมารับบทเป็น ‘เพียร์ซ’ นะครับ
‘เพียร์ซ’ เป็นคาแร็กเตอร์แบบไหน
โอห์ม: เพียร์ซนะครับ จะเป็นชายหนุ่มผู้มีอุดมการณ์ เป็นโปรดิวเซอร์เพลงรุ่นใหม่ไฟแรง อายุประมาณ 24-25 ปี แล้วเราเป็นคนแบบรักการรักงานมาก เวลามีอะไรใหม่ๆ เข้ามา แล้วยิ่งถ้าเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ด้วย จะยิ่งทำให้เราอยากศึกษา เรียนรู้ไปกับงาน ทุ่มทุกอย่างให้กับงาน จนเราลืมตัวไปว่าเราก็มีคนที่เรารัก แต่ว่าเขาก็ยังรักแหละครับ รักคนที่อยู่ข้างๆ เขา แต่ว่าเขาอาจจะมีการละเลย ไม่ค่อยได้ทะนุถนอมอีกฝ่าย จนทำให้อีกฝ่ายอาจจะมีการน้อยใจบ้าง ซึ่งรายละเอียดจะเป็นยังไง เราจะมีทะเลาะ มีน้อยใจ มีรักกุ๊กกิ๊กอะไรกับน้องไต้ฝุ่น อันนี้ต้องติดตามนะครับ
เห็นว่าชื่อตัวละคร ‘เพียร์ซ’ ชื่อนี้มีที่มาด้วย
โอห์ม: ครับ ทางทีมงานมีแจ้งมาว่าเพียร์ซแปลว่าหิน ซึ่งหินเปรียบเสมือนความมั่นคง แน่นอนไต้ฝุ่น ผู้เป็นนายเอกของผมจะเป็นแบบผู้ที่ต้องการความมั่นคงอยู่ในชีวิตอยู่แล้ว น้องเขาก็อยากได้รากฐานที่มั่นคงอย่างเรานะครับผม
ฉากไหนที่ชอบเป็นพิเศษ
โอห์ม: ฉากที่ชอบหรอครับ จริงๆ ชอบหลายฉากเลย ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ต้องทำอะไรใหม่ๆ ที่ผมต้องมาเล่นเป็นโปรดิวเซอร์เพลงครั้งแรก เราต้องมาเรียนรู้ว่าโปรดิวเซอร์เขาทำกันยังไง มีหน้าที่แบบไหน ซึ่งเราต้องมาเรียนรู้กับพี่มาร์ค คือพี่มาร์คเขาก็เก่งมาก เพราะพี่มาร์คเขาก็เป็นนักแต่งเพลง นักร้อง ศิลปินอยู่แล้วด้วย มีน้องฟลุ้คเข้ามาแจมด้วยอีก ทะเลาะกันต่อหน้าสาธารณชน เพราะงั้นหลายๆ ฉากเลยสนุกมากเลยครับ
.
แนะนำตัวหน่อยครับ
ฟลุ้ค: สวัสดีครับ ฟลุ้ค ณธัช นะครับผม ในมินิซีรี่ส์โปรเจ็กต์ Close Friend นี้ ฟลุ้ครับบทเป็น ‘ไต้ฝุ่น’ นะครับ
ไต้ฝุ่นเขาเป็นคนยังไง เล่าให้ฟังหน่อย
ฟลุ้ค: ไต้ฝุ่นจะเป็นคนที่ตรงตามชื่อเลยครับ เพราะเขาจะอารมณ์คล้ายๆ พายุ คือเป็นคนที่มีความรักแหละ เรารักกับพี่เพียร์ซ แต่ว่าด้วยความที่เราต่างวัยกัน พี่เพียร์ซเขาจะเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงานแล้ว แต่ตัวไต้ฝุ่นยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 อยู่ ดังนั้นเวลาของเราทั้งสองคนก็จะต่างกัน แล้วด้วยความที่พี่เพียร์ซเพิ่งได้เป็นโปรดิวเซอร์หน้าใหม่ไฟแรง เขาก็จะไม่ค่อยมีเวลาให้กับไต้ฝุ่น เพราะเขาจะยุ่งกับการทำเพลงให้พี่ MARC ซึ่งเป็นนักร้อง ดังนั้นเลยทำให้ไต้ฝุ่นแอบน้อยใจว่าทำไมไม่มีเวลาให้เราเลย (ยิ้ม) คือจริงๆ ตัวไต้ฝุ่งคงรู้แหละว่าพี่เขายังรักเราอยู่ แต่ว่าด้วยความที่เขาตั้งใจกับการทำงานเลยทำให้เรารู้สึกว่า เอ๊ะ เขายังรักเราอยู่หรือเปล่า? เลยเป็นที่มาที่ไปของชื่อเพลงช่วยทำว่ายังรัก แบบเรารู้ว่าเขายังรักเรา แต่อยากให้แสดงความรักให้ตัวไต้ฝุ่นเห็นหน่อยว่ายังรักกันอยู่จริงๆ นะ

…..

บทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก ‘จา - เฟริสท์’
จากมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ตอน ‘เป็นได้แค่เพื่อน’

ทักทายทุกคนหน่อยครับ
จา: สวัสดีครับ ผม จา นะครับ คาแร็กเตอร์ที่ได้วันนี้คืออย่างแรกเลยต้องเป็นคนอบอุ่น ต้องรักสัตว์ด้วย ก็คือต้องเล่นกับน้องแมว น้องแมวนี่เราอาจจะไม่คุ้นมือเนอะ เพราะเป็นแมวคนอื่น อาจจะกล้าๆ กลัวๆ ต้องทำความรู้จักกันก่อน พี่ๆ ทีมงานก็ให้ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ
ได้มาเล่นเรื่องนี้รู้สึกยังไงบ้าง
จา: มินิซีรี่ส์นี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมเลย คือปกติการแสดงจะต้องเล่นรับ-ส่งกันใช่มั้ยครับ แต่อันนี้เหมือนเราต้องเล่นคนเดียว แต่เราก็ต้องเชื่อมกับอีกคนด้วย ซึ่งเป็นการรับ-ส่งอีกแบบหนึ่ง ที่ถือเป็นประสบการณ์ใหม่เลย ขอบคุณพี่ๆ ที่ให้โอกาสในตัวผมด้วยครับ
ชอบฉากไหนในเรื่องเป็นพิเศษมั้ย
จา: ชอบฉากห้องน้ำครับ หน้าห้องน้ำที่คุยกับวีครับ รู้สึกว่าเหมือนเราได้ทบทวนตัวเอง ได้คิดในมุมของสัตว์ว่าเขาคิดยังไง คิดแบบไหน แบบเราอาจจะเป็นโลกทั้งใบของเขา แต่ว่าตัวเราเองอาจจะมีคนอื่นเป็นโลกทั้งใบของเรา โดยไม่สนใจเขาเลย
.
แนะนำตัวหน่อยครับ
เฟริสท์: สวัสดีครับ ผมเฟิร์ส ฉลองรัฐ นะครับ รับบทเป็น ‘หมูจุ่ม’ จากเรื่องเป็นได้แค่เพื่อน ในมินิซีรี่ส์โปรเจ็กต์ Close Friend ครับ
หมูจุ่มเป็นคาแร็กเตอร์แบบไหน เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ย
เฟริสท์: ตัวหมูจุ่มก็จะเป็นแมวตัวหนึ่งที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แล้วพอ ‘ซิน’ ผ่านมาเห็น เขาก็เอ็นดูเลยรับมาเลี้ยงแล้วตั้งชื่อให้ว่าหมูจุ่มครับ ซึ่งทั้งสองคน...เอ๊ะ หรือต้องเรียกยังไง เรียกไม่ถูก เพราะเป็นคนกับแมว (หัวเราะ) ยังไงผมขอแทนว่าสองคนไปเลยนะครับ ทั้งสองคนก็คือสนิทสนมกันมากครับ ระหว่างคนกับสัตว์ ซึ่งมันจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนกับสัตว์เนี่ยมีความลับแบบไหนและคิดยังไง เฟิร์สก็คิดว่ามันค่อนข้างตื่นเต้นและท้าทายกับตัวเฟิร์สมากครับ
ในเรื่องคือแมวกลายเป็นคนแบบนี้หรอ
เฟริสท์: จริงๆ คือไม่ใช่แมวที่กลายเป็นคนนะครับ แต่ว่าจะเป็นแมวที่มีความคิดและมีการเล่าออกมาในรูปแบบของคน ก็คือคนในร่างแมวหรือแมวในร่างคนนี่แหละครับ ไม่ได้มีเรื่องการแปลงร่าง แต่จิตวิญญาณสื่อออกมาเป็นคนมากกว่า แบบถ่ายทอดความรู้สึกที่แมวรู้สึกออกมาเป็นรูปแบบของคนเพื่อที่จะทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้นครับผม ประมาณนี้
ชอบฉากไหนในเรื่องเป็นพิเศษมั้ย
เฟริสท์: ของเฟิร์สชอบฉากที่หมูจุ่มโดนอาหารแมวกระเด็นใส่ ชอบตอนที่หมูจุ่มกำลังจะแกล้งซิน ตอนที่จะเอาอาหารแมวป้ายเขา รู้สึกว่าฉากนั้นดูแบบผ่อนคลายมาก เหมือนเล่นกันจริงๆ ทำให้เห็นว่าตัวละครทั้งสองคนคือรักกันจริงๆ สนิทกันมากอะไรแบบนี้ครับ (ยิ้ม)

…..

บทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก ‘แม้ก - นัท’
จากมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ตอน ‘เผลอหรือตั้งใจ’

แนะนำตัวเองหน่อยครับ
แม้ก: ผม แม้ก นะครับ รับบทเป็น ‘ไตตั้น’ ครับ
เป็นยังไงบ้างครับตอนที่ถ่ายทำเรื่องนี้
แม้ก: ถ้าเอาจริงๆ ตอนแรกผมบอกผู้กำกับเลยครับว่า ผมไม่เอา ผมไม่ชอบ เปลี่ยน ไม่เอาแบบนี้ได้มั้ยครับ ก็เหนื่อยครับ (หัวเราะ)
เห็นว่าในเรื่องต้องเล่นยูโดด้วยใช่มั้ย
แม้ก: ใช่ครับ แต่คือที่เป็นเร็วเพราะว่าส่วนตัวนิดนึงก็คือมีความแค้นส่วนตัว มันก็เลยเอาอารมณ์ตรงนั้นไปใส่ปึกๆ ตุบๆ (ทำท่าทุบ)
.
แนะนำตัวเองหน่อยครับ
นัท: ผมนัทครับ รับบทเป็น ‘มินิ’ ครับ
ตอนถ่ายทำรู้สึกยังไงบ้างครับ
นัท: ผมรู้สึกสนุกนะครับที่ได้มาทำงานตรงนี้
เห็นว่าในเรื่องต้องเล่นยูโดครั้งแรก แล้วมีเวลาซ้อมจำกัดด้วยใช่มั้ย
นัท: ใช่ครับ ที่เป็นเร็วอาจจะเพราะอารมณ์คล้ายๆ ของพี่แม้ก แบบของผมตอนจับทุ่ม อินเนอร์ก็จะมาหน่อยๆ ครับ เรียกว่าอินเนอร์ล้วนๆ (หัวเราะ)

…..

บทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก ‘ยุ่น - ทะเล’
จากมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ตอน ‘ชาตินี้พอ’

แนะนำตัวเองหน่อยครับ
ยุ่น: สวัสดีครับ ยุ่น ภูษณุ ครับ รับบทเป็น ‘ภีม’ ในเรื่อง Close Friend ตอน ชาตินี้พอ ถ่ายกับน้องทะเลครับ
ภีมเป็นคนยังไงในเรื่อง เล่นยากมั้ย
ยุ่น: ภีมในเรื่องจะเป็นคนที่อกหักแล้วอกหักอีกครับ จนต้องมีเพื่อนมาปลอบใจ ผมว่าเล่นไม่ยากนะครับ เหมือนเป็นตัวเองมากกว่า แบบเป็นนักศึกษา คนห้าวๆ มีเพื่อนสนิท
เห็นว่าในเรื่องมีฉากที่ต้องปิดตา แล้วมีที่ต้องคร่อมสะพานด้วยหรอ
ยุ่น: ใช่ครับ ที่ปิดตาก็เป็นฉากเขาวงกต (ยิ้ม) ส่วนฉากที่ต้องไปค่อมสะพานก็สบายๆ ครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยกลัว ยิ่งที่ต้องตะโกนคุยกันคือตะโกนจนเสียงแหบไปหมดเลยครับ (ขำ)
ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ รู้สึกยังไงบ้าง
ยุ่น: ครับ สนุกดีครับ เพราะแบบตอนที่ถ่ายคือใช้หลายโลเคชั่น หลายฉาก แล้วก็แสบๆ ดี สถานที่สวยด้วย เป็นกองที่สนุก ไม่กดดัน สบายๆ
.
แนะนำตัวเองหน่อยครับ
ทะเล: สวัสดีครับ เล ทะเล สงวนดีกุล ในเรื่องรับบทเป็น ‘เสี่ยวผิง’ ครับ
คาแร็กเตอร์ของเสี่ยวผิงเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย
ทะเล: เสี่ยวผิงเป็นคนที่ที่บ้านปลูกฝังมาเกี่ยวกับความเชื่อ ทำให้เราซึมซับเรื่องพวกนี้เข้ามา พอเห็นเพื่อนผิดหวังเรื่องความรัก เราเลยคิดว่าเป็นเรื่องของดวง เรื่องของกรรมก่อนเลย ก็พาเพื่อนไปแก้หรือไปอธิษฐานต่างๆ
ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ รู้สึกยังไงบ้าง
ทะเล: จริงๆ แล้วไม่ค่อยได้เล่น MV บ่อย ชอบนะครับ เพราะก่อนจะเป็นซีรี่ส์ ตัวผมเองเสพ MV เยอะ แล้วก็เคยทำโปรดักชั่นที่ทำแบบ MV มาก่อนตอนฝึกงาน เลยรู้สึกเหมือนได้กลับมาทำอะไรที่เราคุ้นเคย

…..

บทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก ‘จิมมี่ - ทอมมี่’
จากมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ตอน ‘มีปัญหา ปรึกษาดาว’

ทอมมี่รับบทเป็น ‘เมฆ’ ใช่มั้ยครับ อยากให้ช่วยเล่าคาแร็กเตอร์ของเมฆให้ฟังหน่อย
ทอมมี่: ครับ เมฆจะเป็นเด็ก ม.6 อายุ 17 ปี เรียนสายศิลป์ภาษาฝรั่งเศส เป็นคนเรียบร้อย ชอบงานประดิษฐ์ พูดจานิ่มๆ คุณพ่อเป็นข้าราชการ ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน เมฆจะเป็นคนที่มีนิสัยใกล้ๆ กับคุณแม่ คือเป็นคนใจดี ใจเย็น พูดเพราะ แล้วยังเรียนเก่ง ชอบศึกษาอะไรใหม่ๆ มีโลกส่วนตัวสูง และเพราะมีโลกส่วนตัวสูงเลยทำให้บางครั้งเมฆไม่ค่อยมีเพื่อน ต้องอยู่คนเดียวบ่อย
ได้ข่าวว่าในเรื่องเมฆจะเขียนจดหมายหาเพื่อนด้วยใช่มั้ย
ทอมมี่: ใช่ครับ การเขียนจดหมายหาเพื่อนทำให้เมฆรู้สึกว่าได้รู้จักเพื่อนใหม่ สนุกกับการเขียน ได้ใช้จินตนาการ ได้ทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เมฆเป็น เลยทำให้เมฆค่อนข้างสนใจในการเขียนจดหมาย
การที่ทอมมี่มารับบทเป็นเมฆจะต้องทำการบ้านยังไงบ้าง
ทอมมี่: จริงๆ ตัวคาแร็กเตอร์ของเมฆจะอยู่ในช่วงที่ย้อนไปก่อนผมจะเกิดประมาณ 5 ปีได้ ผมเลยใช้วิธีทำการบ้านโดยการนึกย้อนไปตอนสมัยเด็กๆ ว่าช่วงนั้นมีอะไรบ้าง อย่างเช่นม้วนวิดีโอ อันนี้ตอนแรกลืมไปแล้วว่าเคยเห็น ที่เป็นวิดีโอสี่เหลี่ยม ตอนเด็กๆ เลยที่เคยเจอ มันเลยทำให้รู้สึกว่า อืม เราได้ดึงความทรงจำเก่าๆ กลับมาใช้กับตัวละคร ว่าแบบตอนนั้นคนเขาใช้ชีวิตยังไง คำพูดก็เหมือนกัน ความยากอยู่ที่คำพูดเลยครับ เพราะว่าปัจจุบันเราไม่รู้เนอะว่าในยุคนั้นวัยรุ่นเขาใช้คำพูดติดปากว่าอะไร จะมีคำว่า “จ๊าบ” ด้วย แบบจ๊าบมากเลย (ยิ้ม) เพราะตอนนั้นย่าผมชอบพูดคำนี้ เลยคิดว่าในยุคนั้นคำนี้น่าจะเป็นคำที่เท่น่าดู
.
แนะนำตัวเองหน่อย
จิมมี่: สวัสดีครับ ผมจิมมี่จิมมอย เจ้าเก่าเจ้าเดิม คนเดิม เพิ่มเติมคือหล่อขึ้นทุกวัน ถุ้ย! ล้อเล่นนะครับ
เห็นว่าจิมมี่รับบทเป็น ‘ไนท์’ ตัวละครนี้เป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย
จิมมี่: ครับ ไนท์จะเป็นเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ นิสัยจะเป็นคนกวนๆ สนุกเฮฮา มีเพื่อนเยอะ เหมือนเป็นหัวโจกเวลาอยู่โรงเรียน ชอบเล่นฟุตบอล ตัวไนท์เขาจะอยู่บ้านกับแม่แค่สองคนซะส่วนใหญ่ เพราะพ่อของเขาทำธุรกิจส่วนตัวทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เลยจะมีฉากที่เล่นคุยกุ๊กกิ๊กๆ กับแม่ตามประสาเด็กกวนๆ แล้ววันหนึ่งครูให้การบ้านมาว่าให้ส่งจดหมายคุยกับเด็กที่เชียงใหม่อีกคน ซึ่งต้องติดตามต่อนะครับ (ยิ้ม) พวกเรื่องความสัมพันธ์อื่นๆ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่อยากสปอยล์ตรงนี้ (ขำ) ซึ่งหลังจากไนท์ได้คุยกับเพื่อนที่เชียงใหม่ที่ชื่อ ‘เมฆ’ แสดงโดยพี่ทอมมี่ เลยทำให้ไนท์รู้สึกอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ จากตอนแรกที่เป็นคนไม่ค่อยมีจุดมุ่งหมายในชีวิต
ในเรื่องจะมีความย้อนยุคไปปี 90 ด้วย เป็นยังไงบ้าง
จิมมี่: ย้อนยุคหรอ ความ 90 ก็คือ จะมีฉากหนึ่งที่ต้องเล่นกับวิทยุครับ แบบกรอเทป-อัดเทปอะไรแบบนี้ (ทำท่ากดปุ่มประกอบ) ผมนี่แบบถามพี่ทีมงานเลยว่า “พี่ อันนี้จะมีสอนทำใช่มั้ย” เพราะผมไม่ทันยุคเทป คือผมจะทันเป็นยุคตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญเลย อย่างตอนเด็กๆ อยู่โรงเรียนแล้วแม่จะบอกว่าให้โทรมาหาแม่ตอนเลิกเรียน ตอนนั้นเราเป็นเด็ก ไม่มีมือถือ แล้วพอมาดูตอนพี่ทอมมี่เล่นเป็นเด็กเชียงใหม่ หยอดตู้โทรศัพท์คุยก็ทำให้นึกถึง แล้วตอนที่ผมนั่งดูคือเพลินมาก มีเพลงคลอเข้ามาอีก รู้สึกได้เลยว่าเข้ากับเพลงมีปัญหาปรึกษาดาวมากๆ ครับ (ยิ้ม)
อย่างในเรื่องจะมีเขียนจดหมายเนอะ ตัวเราเองเคยเขียนจดหมายมาก่อนมั้ย
จิมมี่: การเขียนจดหมายหรอ โหย! ถ้าอาจารย์ไม่สั่งผมไม่เขียนเลยครับ เพราะแบบผมเกิดมา ตั้งแต่เด็กๆ ก็ยังเขียนจดหมายกันอยู่ แต่พอโตขึ้นมันเริ่มเป็น MSN เป็น hi5 เป็น Facebook เลยจะเป็นเด็กวัยรุ่นประมาณยุค 2010 ขึ้นเลยไม่ได้ทันยุคจดหมายครับ ถ้าล่าสุดที่เขียนจดหมายคือน่าจะเป็นช่วง ป.4 เลยครับ แค่ครั้งเดียวเลยที่เขียนจดหมาย (ยิ้ม)

…..

บท ‘เรย์’ นี่เป็นคนยังไง
คอปเตอร์: เรย์เป็นแฟนบอยดาราครับ ดาราชื่อ ‘เจได’ แบบดาราดังมาก เป็นซูเปอร์สตาร์เลย หยิ่งด้วย ซึ่งตัวบทเรย์เป็นพนักงานร้านกาแฟ ชอบเขามาก มโนเก่ง ขี้มโน
ในเรื่องได้ยินว่ามีพวกอุปกรณ์ IT VR ล้ำๆ ด้วย
คอปเตอร์: ใช่ครับ เขาเรียกว่าแบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยุค 5G นะครับ แบบว่าติ่งศิลปินผ่านทางแว่น VR เป็นขั้นสุดของประสบการณ์ติ่งเวอร์ชั่นใหม่เลยนะครับ อยากรู้ว่าขั้นสุดยังไงเดี๋ยวรอดูได้ครับ สุดกว่าประสบการณ์ติ่งใดๆ ทั้งสิ้นในโลกหล้านี้
ตอนอยู่ในกองประทับใจอะไร
คอปเตอร์: VFX เลยครับ ซีรี่ส์เรื่องนี้มี VFX นะครับ แบบ CG นะครับ รอดูได้เลยครับ
ปกติเคยเล่นซีรี่ส์กับ CG มาก่อนมั้ย
คอปเตอร์: ไม่เคยเลยครับ เอ้ย! จริงๆ เคยเล่นนะครับ ล่าสุดเรื่อง Avengers ตอนนั้นผมคือเป็นคนในกองทหารวากานด้าเลยครับ ฮ่าๆ ไปกันใหญ่แล้ว (หัวเราะขำ) ก็ถ้าถามว่าครั้งแรกมั้ย ก็ครั้งแรกครับ มี CG ด้วย รอดูว่าเขาจะทำออกมาเป็นแบบไหน
ตอนอ่านบทครั้งแรกรู้สึกยังไง
คอปเตอร์: ตลกดีครับ เหมือนเราเห็นตัวเองเป็นกลุ่มแฟนคลับอารมณ์นั้นเลยครับ แล้วอันนี้มีแบบการต่อยอดอีก ขยายความจากคำว่า Close Friend ด้วย ไปอีกขั้นหนึ่งแบบไม่ใช่เป็นแฟนคลับธรรมดา เป็นแฟนคลับที่...อยากให้ดู ไม่พูด ฮ่าๆ เป็นแฟนคลับที่ไปสุดเหมือนกัน
มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ มั้ย
คอปเตอร์: ครับ ก็คนดูอาจจะมองว่าในเรื่อง น้องเรย์เป็นอะไรมากหรือเปล่า (ขำ) แต่ว่าจิ้นนะ แฟนคลับคิมคอปบอกเลยเรื่องนี้ได้คิมคอปแน่นอน ชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์
.
ในเรื่องนี้คิมม่อนรับบทเป็นอะไร ไหนบอกหน่อย
คิมม่อน: รับบทเป็น ‘เจได’ ครับ ไปออกสมรภูมิรบครับ ใช้ดาบฟาดฟัน ไม่ใช่! (ยิ้ม) รับบทเป็นศิลปินไอดอล ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมอยากเป็นเหมือนกันครับ แต่ผมไม่ได้เป็น ก็มาเป็นเรื่องนี้เอา (ขำ)
ความสัมพันธ์กับตัวละครในเรื่องเป็นยังไง
คิมม่อน: ในเรื่องผมจะมีติ่งคนหนึ่งแบบคลั่งไคล้ผมมาก ทั้งห้องนอนเขาจะมีแต่รูปผม เราก็จะแบบเชิดๆ นิดนึงนะครับ มีแฟนคลับมาแอบชอบ เพราะเขาชนะรางวัลไงครับ เขาเลยได้รางวัลจากผมไป ซึ่งต้องรอติดตามนะครับว่าแฟนคลับคนนั้นจะเป็นใคร และเขาจะได้รางวัลอะไรจากผมไป เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ รับรองว่ามีเซอร์ไพรส์แน่นอนเรื่องนี้ ต้องมีแบบอ้าปากค้างแน่นอน
ได้ยินว่าปกติคิมจะเข้าหาคอป ในเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนเดิมมั้ย
คิมม่อน: อ่อ ปกติแฟนคลับจะบอกว่าผมคลั่งรักคอปเตอร์ แต่ตอนนี้คือคอปเตอร์คลั่งรักผมแทน ซึ่งต้องรอติดตามนะครับ เป็นการสลับกันนิดนึง คือแฟนคลับชอบบอกว่าคิมม่อนชอบคลั่งรักคอปเตอร์ แต่ถ้าเรื่องนี้คอปเตอร์คลั่งรักผมหนักมากครับ คุณเรย์ๆ เขาจะคลั่งรักคุณเจไดหนักมาก ซึ่งในเรื่องผมเป็นไอดอลไง ก็ไม่ได้วางตัวลำบากอะไร ทำตัวให้สมกับศักดิ์ศรีไอดอล สบายๆ
มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ มั้ย
คิมม่อน: ผมว่าสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับคิมคอปอยู่แล้วเนี่ย คิดว่าฟินแน่นอน อาจจะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่จะจดจำไปอีกนาน สนุกแน่นอนครับ แล้วเจอกัน Close Friend ในเพลงคิด-ไม่คิด แต่ผมคิดนะครับ คิดตังค์ ล้อเล่น! ฮ่าๆ (หัวเราะ)

เป็นยังไงกันบ้าง อ่านบทสัมภาษณ์จากนักแสดงในมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ทั้ง 6 คู่ แล้ว คงฟินกันแบบจัดหนักจัดเต็มใช่ไหมเอ่ย? แต่ถ้าใครอยากฟินมากกว่านี้อีก อย่าลืมตามไปดูมินิซีรี่ส์ Close Friend #โคตรแฟน ทาง VIU กันนะคะ

สำหรับนักอ่านคนไหนที่ Pre-Order นิยาย Close Friend #โคตรแฟน กันไปแล้ว ทางแจ่มใสจะเริ่มจัดส่งให้ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ส่วนใครรอช้อปนิยายในรอบปกติ รอติดตามทางเพจ everY นะคะ