ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 6 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 6

3 of 3หน้าถัดไป

แก้มซ้ายของเขายังคงมีกลิ่นหอมและความอบอุ่นหลงเหลืออยู่ ในสมองกลับมีเพียงสี่คำนี้ผุดเข้ามา ยามหลุบตาลงมอง สบเข้ากับดวงตาสุกใสแวววาวคู่นั้น เป็นแววตาที่ใสกระจ่างไร้สิ่งใดแปดเปื้อน

แม้จะรู้ว่าในใจของนางมีบางสิ่งที่ปรารถนาจากเขา แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่านางจะกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้!

ชั่วขณะนั้นเขาเพียงรู้สึกตื่นตะลึง ไม่ได้ยื่นมือไปผลักนางออก

นางเห็นเขาทั้งไม่ปฏิเสธและไม่ยอมรับ ส่วนลึกในดวงตาคล้ายมีประกายไฟวูบไหวระริก นางค่อยๆ ขยับเข้าไปอีก จุมพิตเขาอีกครั้ง

ขมับของอิงกว่าเต้นตุบๆ เขาหลุบตาลง ครานี้จึงคล้ายได้สติกลับคืนมา

ริมฝีปากของนางคล้ายดั่งปีกของผีเสื้อกระพือ เคลื่อนไหวเบาๆ บินโฉบเข้ามาใกล้ริมฝีปากของเขา

ร่างของเขาแข็งทื่อ ครานี้ยังคงไม่ได้ขยับและไม่ได้ผลักนางออก แต่สายตาที่จับจ้องนางกลับเป็นประกายดุจคมมีดดุจเปลวไฟ ฟาดฟันเข้าไปในส่วนลึกของดวงตานาง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยแตะต้องสตรีมาก่อน

ปีที่อายุสิบสองก็มีนางกำนัลมาปรนนิบัติถึงบนเตียง หากใช้คำพูดของบิดาของเขา เรื่องนี้ก็ถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ผู้เป็นกษัตริย์จะสูญเสียพลานุภาพได้อย่างไร

เพียงจำได้ว่าตอนนั้นมารดายิ้มพลางแค่นเสียงฮึทีหนึ่ง ใบหน้าแดงเล็กน้อย

ทว่าเขากลับลิ้มรสถึงความสุขชนิดวิญญาณแทบจะหลุดลอยออกจากร่างจากเรื่องนี้ไม่ได้ เพียงรู้สึกว่าเป็นพิธีกรรมที่ทำไปอย่างลวกๆ เพื่อบอกว่าเขากลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว นับแต่นั้นสามารถเข้าสำนักราชเลขาธิการเพื่อสังเกตการณ์และร่วมหารือเรื่องการเมืองได้

หลังจากนั้นหลายปีได้บังเอิญพูดถึงเรื่องนี้กับเสิ่นจือซู กลับถูกเสิ่นจือซูหัวเราะบอก คิดว่าเขาเกิดมาเป็นคนเย็นชาและมีความต้องการน้อย ไม่มีท่าทางเฉกเช่นบิดา

เขาไม่ได้ผลักไสนางออกไป เพียงอยากดูว่าสุดท้ายแล้วนางจะกำเริบเสิบสานไปถึงขั้นใด กลับคิดไม่ถึงว่านางถึงกับได้คืบจะเอาศอกจริงๆ ยื่นมือมาโอบกอดเอวของเขา

หัวใจของนางสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่งอยู่ตลอดเวลา

นางต้องเสียสติไปแล้วเป็นแน่ หาไม่เหตุใดจึงขวัญกล้าถึงกับทำเช่นนี้กับเขาในตำหนัก…

บางทีองค์รัชทายาทผู้ซึ่งฐานะสูงศักดิ์มีรูปโฉมหล่อเหลาหลายปีมานี้ในราชสำนักมีขุนนางสตรีที่มามอบกายถวายตัวให้มากมาย เขาจึงไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก หรือไม่ก็ยินดีที่จะเสพสุขจากความชื่นชอบจากอิสตรีเหล่านี้…

พอคิดได้เช่นนี้ นางพลันหยุดมือ

เขาเองในที่สุดก็ยกมือขึ้น จับมือซ้ายนางไว้ ตวาดให้นางหยุดเสียงเยียบเย็น “เมิ่งถิงฮุย!”

แต่เขาก็เพียงเรียกชื่อนางคำเดียว ไม่มีคำพูดอื่นตามมา

นางมองเขาเงียบๆ ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

เมิ่งถิงฮุยเข้าใจว่าเขาจะทำอะไรนาง ไหนเลยจะรู้เขาเป็นเพราะตื่นตะลึงเกินไป ส่งผลให้ไม่รู้ว่าควรจัดการกับนางอย่างไรดี

ประตูตำหนักพลันถูกคนเคาะจากข้างนอกสองที มีขันทีผลักประตูแง้มเป็นช่อง “องค์รัชทายาท เมื่อครู่ฝ่าบาท…”

ยังพูดไม่จบ คำพูดต่อจากนั้นของเขาก็ถูกกลืนกลับลงไปทั้งอย่างนั้น

คนผู้นั้นมองภาพในตำหนักตาปริบๆ จะเข้ามาก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้ คนคล้ายถูกตอกติดอยู่กับพื้นเช่นนั้น แม้แต่ก้มหน้าก็ลืมไปแล้ว

การอ่านราชโองการและจัดอันดับจิ้นซื่อก่อนการติดประกาศใหญ่เดิมก็เป็นเพียงขั้นตอนอย่างหนึ่ง องค์รัชทายาทเรียกพบคนก็เพื่อจะกำหนดบัณฑิตเอกชั้นหนึ่งบัณฑิตเอกชั้นรองของจิ้นซื่อสตรีทั้งสิบคน ตามระเบียบการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ที่กำหนดไว้ เดิมเข้าใจว่าเวลานี้เมิ่งถิงฮุยน่าจะใกล้ออกจากตำหนัก ใครเลยจะคาดคิด…ใครเลยจะคาดคิด…

มือขวาของนางยังแตะอยู่ที่เอวคอดของเขา มือขวาของเขาก็กุมมือซ้ายนางไว้แน่น

นางตัวแนบชิดอยู่กับเขา ส่วนเขาก็โน้มตัวเข้าหา ระหว่างคนทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงช่วงกระดาษกั้นแผ่นเดียว ท่าทางที่สนิทสนมแนบชิดทำให้คนเห็นแล้วหน้าแดงใจเต้น

นอกประตูมีคนของสำนักห้องเครื่องเฝ้าอยู่ ยามนี้ก็มองผ่านช่องประตูที่เปิดอยู่เข้ามาเห็นภาพข้างใน ชั่วขณะนั้นได้ดึงตัวขันทีที่ยังตะลึงงันอยู่ผู้นั้นออกไปทันที

ปึงๆ!

เสียงดังสนั่นสองเสียง ประตูตำหนักถูกคนลนลานปิดจากข้างนอกแล้ว

ในตำหนักมืดลงมาทันที แม้แต่เปลวเทียนเล็กเรียวตรงมุมห้องก็ยังสั่นไหวเล็กน้อย

ทั่วร่างของอิงกว่าทั้งบนล่างคล้ายมีไอเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา ถึงเขาไม่พูดอะไรสักคำก็ทำให้นางหนังศีรษะชาได้

เห็นชัดว่านางไม่คาดคิดว่าจะถูกคนพบเห็นเข้า ในใจใคร่ครวญอยู่นาน แต่ก็ไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี…

ลักษณะท่าทางระหว่างพวกเขาสองคนไม่ว่าตกอยู่ในสายตาใคร คิดว่าก็คงทำให้คนเข้าใจว่าเขากำลังข่มเหงนาง

ชื่อเสียงดีงามของเขาองค์รัชทายาทที่สั่งสมมาหลายปี วันนี้จะมาถูกทำลายด้วยน้ำมือของนางเช่นนี้ได้อย่างไร

นางพลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ถึงกับไม่คำนึงถึงความเดือดดาลของเขา มองเขาแล้วบอก “เป็นหม่อมฉันที่ล่วงเกินเบื้องสูง พระองค์ทรงตัดชื่อเสียงลาภยศของหม่อมฉันได้เลย”

“เมิ่งถิงฮุย” เขาพลันเอ่ยปาก “ตำแหน่งจ้วงหยวนในการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่สตรีในครั้งนี้ต้องเป็นเจ้าเท่านั้น”

นางประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้เขายังเอ่ยคำพูดนี้ออกมาได้อีก

เขาหมุนตัวเดินไปที่โต๊ะทองกลางตำหนัก บนนั้นมีแผ่นประกาศทองขนาดใหญ่เล็กพร้อมทั้งพู่กันและหมึก…รอให้เขาใส่ชื่อจิ้นซื่อที่ได้รับตำแหน่งด้วยตนเองหลังจากอ่านราชโองการและจัดอันดับจิ้นซื่อแล้ว ทว่าเวลานี้เห็นแผ่นประกาศขลิบทองนั่นแล้วกลับรู้สึกขัดตายิ่ง

นางมองเงาด้านหลังของเขาโดยไม่ละสายตา เห็นเขาโน้มตัวลงหยิบพู่กันจุ่มหมึก จรดปลายพู่กันลงไปบนแผ่นประกาศ เขียนชื่อนางลงไปในตำแหน่งบนสุดจริงๆ

เมิ่งถิงฮุยอดตื่นตะลึงไม่ได้ ยิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรดี

นางกำเริบเสิบสานเพียงนี้ เขาไม่เพียงไม่ลงโทษนาง กลับยังคงมอบตำแหน่งจ้วงหยวนให้นางอีก

ผู้คนต่างบอกว่าองค์รัชทายาทจิตใจล้ำลึกยากแก่การคาดเดา

พูดได้ไม่ผิดเลย

 

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน มีนาคม 2567)

 

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com