ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 425-บทที่ 426 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 425-บทที่ 426

บทที่ 426

แม่ทัพหนุ่มอึ้งไปชั่วอึดใจ จากนั้นพยักหน้าเบาๆ “วางใจได้”

เขาพุ่งกระโจนออกไป ดาบยาวในมือแผ่ประกายเย็นเยียบ

เฉียวเจาเพียงทันได้เห็นโลหิตสีแดงฉานทั่วบริเวณ ก็ถูกเฉินกวงพาตัวเข้าเรือนไป

นางกระวนกระวายใจอยู่บ้าง ต่อให้เซ่าหมิงยวนนับเป็นเทพสงครามตามคำเล่าขาน ไม่มีเมืองใดตีไม่แตก ไม่มีศึกใดรบไม่ชนะ แต่ถึงที่สุดแล้วเขาก็เป็นมนุษย์มีเลือดมีเนื้อผู้หนึ่งอยู่ดี

นางเคยเห็นเขาทำเรื่องโง่งม เคยเห็นเขาทำหน้าหนา ทั้งยังเคยเห็นเขามีน้ำตาคลอเบ้าด้วยซ้ำไป

ขอเพียงเป็นมนุษย์ก็มีโอกาสได้รับบาดเจ็บเสมอ

ถึงหน่วยองครักษ์ประจำตัวพวกนั้นจะฝีมือดี แต่หลังจากต่อสู้กับคนชุดดำโขยงนั้น ด้วยศัตรูมีจำนวนมากกว่าย่อมต้องสูญเสียกำลังกายไปมาก แล้วจะรับมือทหารเกือบพันคนต่อได้เช่นไร

เซ่าหมิงยวน แผนสำรองของท่านคืออะไร ฉือชั่นไปตามทัพหนุนมาใช่หรือไม่

เฉียวเจาสังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าฉือชั่นหายไปไม่เห็นวี่แววตั้งแต่ฟ้ามืด แต่เขาไม่พูดนางก็ไม่ถาม

ทว่าเวลานี้นางอดตัดพ้อต่อว่าคนผู้นั้นไม่ได้แล้ว เขาจะเลิกทำลับลมคมในมิได้หรือไร

สถานการณ์การรบด้านนอกกำลังดุเดือดเลือดพล่าน

องครักษ์ของเซ่าหมิงยวนล้วนเป็นยอดฝีมือ มาตรว่ายามนี้ยังไม่มีคนล้มตาย แต่กลับบาดเจ็บเสียเลือดกันถ้วนหน้า

“ถิงเฉวียน ไม่ไหวแล้ว ต้านทานไม่อยู่แล้ว” หยางโฮ่วเฉิงนำกำลังองครักษ์จินอู๋สิบกว่าคนปักหลักอยู่นอกประตูลานเรือน รับหน้าที่จัดการพวกปลาหลุดจากแหที่ฝ่าแนวป้องกันของหน่วยองครักษ์ประจำตัวเซ่าหมิงยวนมาได้

แต่ยิ่งมาพวกปลาหลุดจากแหยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หยางโฮ่วเฉิงยังนับว่ามีวรยุทธ์ดี ส่วนองครักษ์จินอู๋คนอื่นๆ รู้วิชาหมัดมวยแบบงูๆ ปลาๆ ขณะนี้ล้วนแตกตื่นลนลานกันไปหมด ส่งผลให้อันตรายคืบคลานเข้ามาจากทุกทิศทาง

มีคนใจเสาะเริ่มร้องไห้ด่าทออย่างห้ามไม่อยู่ “หัวหน้า ไหนตอนแรกพูดว่าพวกเรามาทางทิศใต้เพื่อท่องชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ไม่ได้บอกว่าต้องเอาชีวิตเข้าแลกนะ…”

“หุบปาก พูดเรื่องเช่นนี้ในเวลานี้จะมีกำลังใจขึ้นหรือไม่ ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ เจ้าเมืองหลี่นั่นวิกลจริตไปแล้ว กระทั่งองครักษ์จินหลินยังกล้าลงมือ พวกเจ้านึกว่าเขาจะละเว้นพวกเราหรือ วันนี้พวกเราเหลือเพียงสองทาง ไม่อยู่ก็ตาย พี่น้องทั้งหลายเลือกกันเอาเองเถอะ!” หยางโฮ่วเฉิงตวาดเสียงดุดัน

“ต้านไว้อีกครู่หนึ่ง” เซ่าหมิงยวนยกเท้าถีบทหารผู้หนึ่งออกไป หางตาเขาเหลือบเห็นทหารสองสามคนเข้าไปรุมหยางโฮ่วเฉิงก็ม้วนตัวเตะกวาดพวกนั้นล้มลงพร้อมกับเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง

หยางโฮ่วเฉิงเบิกตากว้างกะทันหัน เขาตะโกนดังลั่น “ถิงเฉวียนระวัง!”

เขาเป็นคนเสียงดัง เฉียวเจาที่อยู่ในห้องได้ยินชัดถนัดหูแล้วหน้าเปลี่ยนสีอย่างสุดระงับ นางลุกพรวดขึ้นกล่าวถาม “เฉินกวง แม่ทัพเซ่าบาดเจ็บใช่หรือไม่”

เฉินกวงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเอ่ยตอบ “ต้องได้รับบาดเจ็บแน่ๆ ขอรับ คนเจ็ดแปดร้อยคนล้อมโจมตีพวกท่านแม่ทัพสิบกว่าคน แม่ทัพเซ่าก็ไม่ได้หนังทองแดงกระดูกเหล็กสักหน่อย”

เขาพูดแล้วลอบชายตามองสีหน้านาง

ใบหน้าของเฉียวเจาซีดขาวราวกระดาษ นางล้วงขวดกระเบื้องจากถุงผ้าปัก สูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งก่อนกล่าว “เฉินกวง เจ้าออกไปดูทีว่าท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บให้รีบเอายาขี้ผึ้งทาตรงปากแผลแล้วค่อยสู้ต่อ”

เขาไม่รับขวดกระเบื้องที่นางยื่นให้ “ท่านแม่ทัพให้ข้าคุ้มครองท่าน ข้าไปไม่ได้ขอรับ”

เฉินกวงหวั่นใจว่านางจะพูดต่อไป เขาจึงกล่าวเสริมขึ้นอีกคำ “อีกอย่างสถานการณ์ในสมรภูมิพลิกผันปรวนแปรในชั่วพริบตา จะมีเวลาใส่ยาที่ใดกันเล่าขอรับ”

เฉียวเจาอดกำขวดกระเบื้องในมือแน่นๆ ไม่ได้ เหตุผลข้อนี้นางย่อมเข้าใจได้เป็นธรรมดา

เฉินกวงชำเลืองมองนางแวบหนึ่งแล้วกล่าวทอดถอนใจ “ท่านว่าถ้าท่านแม่ทัพของข้าเป็นอะไรไปจะทำประการดีขอรับ”

เฉียวเจามุ่นคิ้วมองเขา นางไม่เคยรู้สึกรังเกียจความปากเสียของสารถีน้อยเช่นนี้มาก่อน

เซ่าหมิงยวนจะเป็นอะไรไปได้อย่างไร เขาบอกไว้มิใช่หรือว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นกับพวกนางอย่างแน่นอน เช่นนั้นสิ่งที่ต้องรักษาไว้เป็นอันดับแรกคือความปลอดภัยของตัวเขาเอง

แต่ว่าจะเตรียมการรอบคอบรัดกุมปานใดก็ยังเกิดเหตุไม่คาดฝันได้กระมัง

เจ้าเมืองหลี่มาดหมายจะเอาชีวิตของเซ่าหมิงยวนให้ได้ กำลังคนส่วนใหญ่ต้องพุ่งเป้าไปที่เขาแน่ ถึงเขาเป็นดั่งเทพเซียนมาจุติ สองหมัดก็ยากจะต่อกรกับสี่มือได้

ถ้าเกิด…

หัวใจของหญิงสาวคล้ายถูกบีบรัด นางไม่อยากคิดต่อไป

เฉินกวงเห็นเฉียวเจาเป็นเช่นนี้ก็แอบร้อง ‘ไชโย’ ในใจ

เขามองดูท่านแม่ทัพวิ่งไล่ตามคุณหนูหลีทั้งวัน แต่นางมักทำท่าเฉยเมยเย็นชาอยู่ร่ำไป เขายังนึกว่าจะเป็นดังคำโบราณที่ว่าเซียงอ๋องใฝ่ฝันหา เทพธิดาไร้หัวใจ* เสียอีก ตอนนี้ถึงรู้ว่าคุณหนูหลีก็ห่วงใยท่านแม่ทัพของเขาอยู่มาก

เห็นหรือไม่เล่า คุณหนูหลีดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

“เฮ้อ…ท่านแม่ทัพของข้าน่าสงสารนัก อายุตั้งยี่สิบกว่าเข้าไปแล้วไม่เคยแม้แต่จะได้จับมือสตรี ถ้าเป็นอะไรไปจริงๆ คงแทบจะเสียชาติเกิดเลยทีเดียว…” เฉินกวงเริ่มรำพึงรำพัน

เฉียวเจาฟังแล้วทำสีหน้าพิกล

ไม่เคยจับมือสตรี? ใครบอกกัน ข้าไม่นับเป็นสตรีใช่หรือไม่

เจ้าคนผู้นั้นมิใช่แค่เคยจับมือสตรี…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com