ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 519-521 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ออกจากจวนมาไขคดี บทที่ 519-521

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 519 คราบบนสาบเสื้อ

เผยซู่สีหน้าเคร่งขรึม นิ้วกุมด้ามกระบี่แน่น ไม่พูดไม่จาอันใด

เฉินอิ๋งจ้องเขาเขม็ง ใบหน้าไม่ปรากฏท่าทีลังเลแม้แต่น้อย “คืนเกิดเรื่อง คนร้ายสวมเสื้อผ้าคล้ายเฉียนเทียนเจี้ยงพร้อมเทสุราลงบนตัว จนทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นสุรา ก่อนจะสวมรอยเป็นเฉียนเทียนเจี้ยง หลังคำนวณเวลาชัดแจ้ง เขาก็จงใจให้คนบอกเวลากับหญิงรับใช้สูงวัยเดินยามเห็นเขาเดินเข้าออกห้องส้วม จะได้เป็นพยานยืนยันให้กับปรากฏการณ์ลวงเรื่องเฉียนเทียนเจี้ยงพลัดตกบ่อน้ำ”

เผยซู่นิ่งเงียบ เขากำลังพยายามระงับอารมณ์โกรธขึ้งปรามไม่ให้ตนเองชักกระบี่ออกมา

ถึงจะมีลางสังหรณ์อยู่ก่อนหน้า ในใจหรือก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่ครั้นได้ยินเฉินอิ๋งเล่าความจริงออกมากับหูเช่นนี้ เพลิงโทสะในใจก็ยิ่งลุกโหม นึกโมโหที่ไม่อาจลงมือสังหารคนร้ายด้วยมือตนเอง

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ น้ำเสียงชวนประหวั่นของเขาก็ดังขึ้น “เฉียนเทียนเจี้ยงตายได้เช่นไร”

“จากผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึงบันทึกปากคำให้การ ผนวกกับการอนุมานของข้า ข้าคิดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าตายอยู่ในห้องนอนก่อน หลังจากนั้นถึงได้ถูกเอาศพไปโยนทิ้งบ่อน้ำ” เฉินอิ๋งบอก นางสวมถุงมือเดินไปที่ไม้กระดานวางศพ เลิกผ้าขาวออก ยกศีรษะของเฉียนเทียนเจี้ยงขึ้น และชี้ไปยังบาดแผลที่ส่งผลถึงแก่ความตายนั่น

“พูดถึงบาดแผลนี้ก่อน” นางขยับส่วนหัวของศพให้มันหันไปทางเผยซู่อย่างเบามือ “เท่าที่ข้ารู้ ถึงการตกจากที่สูงจะสามารถทำให้เกิดบาดแผลเช่นนี้ได้ ทว่ายังมีความเป็นไปได้อีกอย่างที่สามารถทำให้กระดูกต้นคอ…”

“ข้าเข้าใจแล้ว” เผยซู่เอ่ยปากตัดบทขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาขยับขึ้นหน้า ประคองรับศีรษะของผู้ตายมาจากมือของเฉินอิ๋ง สองมือเหยียดยื่นมาจากทางด้านหลัง มือข้างหนึ่งขยับขากรรไกรล่างของศพ ส่วนมืออีกข้างก็ตรึงข้างแก้มของศพไว้ ทำท่าบิด “เขาถูกคนหักคอ”

“ถูกต้อง” เฉินอิ๋งพยักหน้า “การเคลื่อนไหวนี้สามารถทำให้กระดูกต้นคอหลุดจากตำแหน่ง อีกทั้งยังทำให้คนตายได้ทันที หลังจากนั้นผู้ตายก็ถูกคนร้ายทิ้งลงมาจากที่สูงจนกะโหลกศีรษะกระดูกต้นคอแตกหักหลายจุด ทำให้สาเหตุการตายที่แท้จริงถูกร่องรอยกระดูกหักพวกนั้นกลบไปจนหมดสิ้น”

นางเดินไปยังอีกด้านของศพ น้ำเสียงใสสะอาดลอยละล่องอยู่ที่ข้างหูของเผยซู่ “ตอนนี้ข้าจะเล่าถึงการอนุมานทั้งหมดของข้าให้ท่านฟัง เริ่มต้นกันที่เวลาตายของเฉียนเทียนเจี้ยง”

นางหยิบเอาเสื้อตัวกลางสีขาวที่อยู่ในกองเสื้อผ้านั่นออกมา ชี้ไปยังคราบสีฟ้าบนเสื้อ “เสื้อตัวกลางที่มีสีตกใส่นี้เป็นหลักฐานแรกที่ทำให้ข้าคิดว่าการตายของเฉียนเทียนเจี้ยงเป็นการถูกผู้อื่นฆ่า และเป็นหนึ่งในหลักฐานที่สำคัญที่สุด”

เผยซู่นิ่งเงียบอีกครา สีหน้าเย็นเยียบชวนประหวั่น

ถึงจะเห็นท่าทีของอีกฝ่ายอยู่ในสายตา แต่ถึงกระนั้นเฉินอิ๋งก็มิได้แสดงอาการอันใดออกมามากมายนัก นางวางเสื้อตัวกลางลงก่อนจะหยิบเอาเสื้อคลุมสีฟ้าเทาขึ้นมา เลิกเปิดให้เห็นถึงซับในของมัน “พวกเรามาดูเสื้อตัวนี้ก่อน เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อสองชั้น มีด้านในกับด้านนอก หากไม่ใช่เพราะเปียกโชกจริงๆ สีฟ้าด้านนอกไม่มีทางซึมทะลุผ้าซับใน ย้อมถูกเสื้อตัวกลางได้ ด้วยเพราะเหตุนี้หลังพบรอยเปื้อนบนเสื้อตัวกลาง ข้าก็นึกสงสัยแล้วว่าคดีนี้ต้องมีสายสนกลในอะไรบางอย่าง”

นางวางเสื้อกลับเข้าที่ด้วยสายตาเมินเฉย “เฉียนเทียนเจี้ยงตกบ่อตาย นอนอยู่ที่ก้นบ่อเปียกชื้นนานหกชั่วยาม หรืออาจจะมากกว่านั้น ใบหน้า หู และมือของเขาล้วนสะอาดสะอ้าน จะมีก็แต่ท้ายทอยเท่านั้นที่มีคราบฝุ่นอยู่เล็กน้อย ด้านหลังของเสื้อคลุมหรือก็มีคราบสกปรกอยู่นิดหน่อย เห็นได้ชัดว่าสภาพศพตอนถูกพบเห็นอยู่ในท่านอนหงาย”

“ถูกต้อง” เผยซู่กล่าวยืนยัน “ตอนงมศพ ร่างของเขานอนหงายอยู่จริงๆ ขาทั้งสองข้างพับอยู่ใต้ร่าง งอเข้าด้วยกัน”

นางยิ้มให้กับเขา “เอาล่ะ พวกเรารู้แล้วว่าเขาตายอยู่ในสภาพนอนหงาย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเสื้อผ้าด้านหลังของเขาสัมผัสอยู่กับดินโคลนเปียกชื้นเป็นเวลานาน ทว่าเสื้อตัวกลางนั้นด้านหลังของมันกลับสะอาดสะอ้าน”

เฉินอิ๋งหยิบเอาเสื้อตัวกลางสีขาวนั้นขึ้นมาอีกครั้ง พลิกหันด้านหลังให้เผยซู่ดู “ดังนั้นข้ออนุมานแรกที่ข้าได้ก็คือระดับความชื้นของพื้นดินก้นบ่อนั้นไม่อาจทำให้สีของเสื้อตัวนอกตกใส่เสื้อตัวกลางได้ ซึ่งก็ทำให้ข้าได้ข้ออนุมานที่สองตามมา สาบเสื้อของเฉียนเทียนเจี้ยงน่าจะแช่อยู่กับน้ำปริมาณมาก ทำให้สีตกรุนแรง ย้อมสาบเสื้อตัวกลางที่อยู่ด้านในจนกลายเป็นสีฟ้า”

นางชักเท้าเดินช้าๆ น้ำเสียงสงบนิ่ง “เมื่อครู่ท่านเองก็บอกว่าผู้ตายนอนหงายอยู่ในบ่อ หากจะบอกว่าเพราะเมื่อคืนฝนตก น้ำฝนทำสาบเสื้อของผู้ตายเปียกโชกจนเกิดผลลัพธ์อย่างที่เห็นอยู่ในเวลานี้ คำพูดดังกล่าวย่อมฟังดูมีเหตุผล ทว่าหากคำพูดนี้ฟังขึ้น เช่นนั้นมันย่อมนำมาซึ่งคำถามใหม่ประการหนึ่ง”

นางก้มหน้าพลิกดูบันทึกในมือพลางบอก “จากปากคำให้การของคนบอกเวลากับหญิงรับใช้สูงวัยเดินยาม เมื่อคืนตอนพวกเขาเห็น ‘เฉียนเทียนเจี้ยง’ ปรากฏกาย มันเป็นช่วงหลังกลางยามจื่อหนึ่งเค่อ ทว่าในเวลานั้นฝนหยุดตกแล้ว”

นางมองไปทางเผยซู่ สีหน้าเคร่งขรึมเช่นเดียวกัน “เมื่อคืนข้าพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม เพราะไม่คุ้นชินนักจึงตื่นขึ้นมากลางดึกสองครั้ง ข้าจำได้ชัดว่าตอนตื่นขึ้นมาครั้งที่สอง กาน้ำหยดบอกเวลายามจื่อตรง นอกหน้าต่างไม่มีเสียงฝนแล้ว แต่เพราะกลัวจะจำผิด ข้าจึงซักถามคนบอกเวลากับหญิงรับใช้สูงวัยเดินยามนั้นอีกครั้งอย่างละเอียด พวกเขาต่างยืนยันว่าเมื่อคืนต้นยามจื่อสองเค่อโดยประมาณ ฝนหยุดตกโดยสิ้นเชิงแล้ว”

เผยซู่ตะลึงมองดูนางด้วยใจที่เต้นโครมคราม ช่องโหว่ใหญ่โตเช่นนี้แต่เขากลับมองไม่เห็น!

ตอนซักถามปากคำ เขาสนใจก็แต่สิ่งที่พยาน ‘พบเห็น’ แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสื้อผ้าเปียกชื้นกับเวลาที่พยานพบเห็นผู้ตายนั้นกลับขัดแย้งกันเอง

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเฉินอิ๋งพูดขึ้นอีก “หากว่ากันตามแนวคิดเช่นนี้ ความเป็นไปได้ที่สาบเสื้อของผู้ตายจะถูกน้ำฝนสาดซัดจนเปียกชุ่มย่อมสามารถตัดทิ้งได้ แล้วหากผู้ตายตกลงไปหลังฝนหยุดตก สาบเสื้อนั้นจะ ‘เปียกชื้น’ ได้เช่นไร ดังนั้นข้าจึงคิดว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เสื้อเขาถูกทำเปียกจากที่อื่น”

คำถามนี้เห็นได้ชัดว่านางกำลังถามตนเอง เผยซู่ฉลาดพอที่จะไม่ต่อความ

เฉินอิ๋งเริ่มตอบคำถามเอง “เอาเป็นว่าพวกเราสมมติกันก่อนก็แล้วกันว่าบางทีก่อนตกลงไปในบ่อผู้ตายทำสุราหกหรือไปสัมผัสกับน้ำเข้าจนเป็นเหตุให้สาบเสื้อเปียกชื้น ดังนั้นเมื่อครู่ตอนตรวจสอบที่เกิดเหตุ ข้าถึงคอยมองหาแหล่งน้ำอยู่ตลอดเวลา”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินอิ๋ง “ที่แรกที่สามารถตัดออกไปได้คือธารน้ำในสวนนั่น หนึ่งเพราะที่พำนักของผู้ตายอยู่ห่างจากธารน้ำนั่นค่อนข้างไกล สองเสียงตกน้ำดังเกินไป หากเป็นเช่นนั้นจริง คนที่อยู่แถวนั้นไม่ว่าเช่นไรก็ต้องได้ยินแน่ สามน้ำนั่นลึกไม่ใช่น้อย หากตกลงไปเนื้อตัวเขาต้องเปียกชุ่มไปกว่าครึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะเปียกแค่สาบเสื้อ”

นางหยุดไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวอนุมานต่อ “นอกจากนี้ข้ายังตัดห้องส้วมออกไปด้วย ที่นั่นเป็นส้วมหลุม ไม่มีน้ำอันใดแม้แต่น้อย หลังจากนั้นข้าก็นึกถึงห้องพักของผู้ตายขึ้นมาอีกครั้ง ถูกต้อง ข้าวของภายในห้องนั้นไม่ว่าจะอ่างน้ำ กาน้ำชา เหยือกสุราต่างล้วนสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนั้นได้ ทว่าการอนุมานนี้สุดท้ายก็ถูกหักล้างหมดสิ้น”

นางหยิบเอาบันทึกออกมาจากแขนเสื้อ เทียบกับเนื้อหาที่บันทึกอยู่ทางด้านบน “จากปากคำให้การของบ่าวทั้งสองคน เมื่อวานหลังกินข้าวเย็นเสร็จ สุราขวดสุดท้ายที่อยู่ในห้องถูกผู้ตายดื่มเกลี้ยง เขาเมาอ้อแอ้สั่งให้บ่าวคู่นั้นไปเอาสุรามาอีก พวกเขาสองคนเก็บข้าวของเครื่องใช้อย่างหวีผ้าเช็ดหน้าอ่างล้างหน้าต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมนำเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้ออกมาวางไว้ให้เฉียนเทียนเจี้ยงก่อนจะกลับห้องไป”

นางหยุดอีกครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “วันรุ่งขึ้นตอนเอาอาหารเช้าเข้ามาให้ เพราะเห็นม่านมุ้งยังคงปล่อยระพื้นอยู่ พวกเขาจึงคิดว่าผู้ตายยังไม่ตื่นเลยไม่ได้ปลุกอีกฝ่าย ในเวลานั้นชาที่อยู่ในกาด้วยเพราะไม่เคยถูกแตะต้องมาก่อน บ่าวหนึ่งในสองคนนั้นจึงเอามันไปเททิ้ง เปลี่ยนชาใหม่ให้เฉียนเทียนเจี้ยงก่อนจะถอยกลับออกไปอีกคราว”

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

community.jamsai.com