5 นิยายรัก ที่อ่านปลุกกำลังใจและเติมเต็มความสุขในยามท้อถอย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

นิยายอินไซต์ มากกว่ารัก

5 นิยายรัก ที่อ่านปลุกกำลังใจและเติมเต็มความสุขในยามท้อถอย

      ช่วงนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ยังคงรอการแก้ไข ดังนั้นในช่วงเวลานี้เพื่อนๆ ส่วนใหญ่จึงมีความกังวล มีความเครียดโดยที่หลายคนได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และเพื่อสร้างความสุขให้กับเพื่อนๆ แจ่มจึงนำนิยายรักที่มีเรื่องราวที่ช่วยปลุกกำลังใจ มอบความสุขและเรียกรอยยิ้มกลับคืนมาในช่วงเวลาที่หลายคนเป็นกังวลและต้องการกำลังใจอยู่ในขณะนี้ค่ะ จะมีนิยายรักเรื่องใดบ้างมาติดตามกันได้เลย

เรื่องแรก ‘ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า... คือข้าผู้เดียว’ (7 เล่มจบ) นิยายรักที่จะปลุกกำลังใจในการต่อสู้ฟาดฟันกับปัญหาและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

       เรื่องราวของ ‘ซูเพียนจื่อ’ เด็กสาวที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแม้เธอจะไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นใคร แต่เธอก็มีความหวังอยู่เสมอว่าวันหนึ่งจะได้พบกับครอบครัวของตัวเองเพราะว่ามีสิ่งหนึ่งที่อยู่ติดตัวของเธอมาตั้งแต่จำความได้นั่นคือจี้ไม้แกะสลักคล้องติดกับสร้อย เธอคิดว่าจี้ไม้แกะสลักและสร้อยเส้นนี้จะต้องมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับตัวเธออย่างแน่นอน จนกระทั่งวันหนึ่งจี้ไม้แกะสลักและสร้อยได้ขาดแล้วตกลงไปยังสระขอพรในอารามเต๋าแห่งหนึ่ง เธอจึงต้องแอบมาเก็บจี้ไม้และสร้อยในเวลากลางคืน ขณะที่ก้มลงไปเก็บพลันมีแสงสีม่วงออกมาคลุมตัวของเธอไว้แล้วฉุดเธอลงไปด้านล่าง

      ‘ซูเพียนจื่อ’ นางตื่นขึ้นมา ณ ดินแดนพันเมฆา นางไม่รู้ว่าที่แห่งนี้คือที่ใด มีผู้คนแต่งชุดโบราณเข้ามารายล้อมตัวนางไว้ จากสายตา ท่าทางและเสียงกระซิบพูดคุยกันดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับนางเป็นอย่างมาก พวกเขาคิดว่านางเป็นผู้มีพลังยุทธ์ขั้นสูงแต่แล้วเมื่อพวกเขาเห็นสัญลักษณ์บางอย่างที่ตัวนางจึงพากันจากไป ทิ้งนางไว้เพียงลำพัง จากนั้นมีชายหนุ่มรูปงามเข้ามาพูดคุยกับนาง และเมื่อเขาเห็นสัญลักษณ์บางอย่างนั้นก็เพียงบอกกล่าวไม่กี่คำแล้วจากไปอีกเช่นกัน

      ซูเพียนจื่อไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ทว่าในยามนั้นเองจู่ๆ ก็มีเสียงบุรุษพูดขึ้น นางต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงบุรุษนั้นแท้จริงแล้วคือม้าบินตัวหนึ่ง ‘ท่านอาชาเทพ’ ได้แนะนำตัวและบอกว่าจะพานางกลับบ้าน เนื่องจากไม่มีที่ไปนางจึงได้ขี่หลังของท่านอาชาเทพไปยังสกุลซู ระหว่างเดินทางนางได้นำจี้ไม้แกะสลักออกมาให้อาชาเทพดู ท่านอาชาเทพได้บอกว่า นางเป็นคุณหนูเจ็ดของสกุลซูที่หายสาบสูญไป และเพราะจี้ไม้นี้ทำให้ท่านอาชาเทพยืนยันว่านางคือคุณหนูเจ็ดตัวจริง นางหัวใจเต้นแรงและดีใจเป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่นางเคยคิดว่าจี้ไม่แกะสลักนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับที่มาของนาง  

     เมื่อซูเพียนจื่อกลับถึงสกุลก็พบว่าตัวเองไม่มีพลังยุทธ์ ผู้คนในดินแดนแห่งนี้นับถือผู้มีพลังยุทธ์ นางจึงไม่เป็นที่ยอมรับ ถูกดูหมิ่น ถูกรังแก และเมื่อได้ทราบว่าบิดามารดาหายตัวไปอย่างไรร่องรอยนางจึงปรารถนาจะตามหา แต่หากนางไม่มีพลังยุทธ์ใดการตามหาก็คงเป็นเรื่องยาก นางจึงตัดสินใจว่าจะต้องมีพลังยุทธ์ให้ได้ ทว่าการเลื่อนขั้นไม่ได้ง่าย แต่ละขั้นจะต้องใช้ไหวพริบสติปัญญาเป็นอย่างมาก นางจะทำอย่างไรกับปัญญาอุปสรรคที่พบนับไม่ถ้วนเหล่านี้

     หากเพื่อนๆ กำลังเหนื่อย ท้อหรือหมดกำลังใจ นิยายรักเรื่องนี้อาจมีส่วนช่วยให้เห็นมุมมองต่างๆ อาทิ ‘การมีความหวังอยู่เสมอ’ จงหาแรงจูงใจให้เจอและมากพอให้เราก้าวต่อไป ‘ความมุมานะพยายาม’ เมื่อพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบางคนคิดยอมแพ้และล้มเลิกความตั้งใจ สำหรับ ซูเพียรจื่อ นางเป็นตัวแทนของคนที่มีความพยายามเต็มเปี่ยม เมื่อนางมีเป้าหมายในใจนางจะหาหนทางและทำจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ‘การมีปฏิภาณไหวพริบ’ บางครั้งความเก่งหรือพยายามอย่างเดียวไม่อาจทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ จะต้องหมั่นสังเกตและตรึกตรองสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอยู่เสมอจะช่วยให้เราแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเร็ว ข้อคิดดีๆ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยที่นำมาแบ่งปันเท่านั้นค่ะ นิยายเรื่องนี้ยังเต็มไปมุกขำขันให้เพื่อนๆ หัวเราะและยิ้มได้ตลอดเรื่อง เพื่อนๆ สามารถเข้าไปทดลองอ่าน หากชื่นชอบก็สามารถช็อปมาอ่านแบบเต็มๆ กันได้เลยค่ะ

คลิกที่นี่ ทดลองอ่าน
คลิกดูรายละเอียดหนังสือ
... 

เรื่องที่สอง ‘นวลหยกงาม’ (15 เล่มจบ) ความเสียสละและความรักที่แสนอบอุ่นในครอบครัวจะทำให้คุณซาบซึ้งประทับใจ

      นวลหยกงาม เป็นเรื่องราวของ ‘อี๋อวี้’ หลังจากที่หญิงสาวประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากตึกดวงวิญญาณได้ทะลุมิติกลับมาสู่ยุคราชวงศ์ถัง วิญญาณของนางเข้าไปอยู่ในร่างของเด็กน้อยวัยสี่ขวบที่สมองพิการ ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกันสี่คนมีท่านแม่นามว่า ‘หลูซื่อ’ มีพี่ชายสองคนคนโตนามว่า ‘หลูจื้อ’ ส่วนคนรองนามว่า ‘หลูจวิ้น’ เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับครอบครัวใหม่เช่นนี้นางรู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดีและมีความสุขเป็นอย่างมาก แม้ว่าครอบครัวของนางจะไม่ได้ร่ำรวยฐานะค่อนข้างลำบาก แต่เพราะมีท่านแม่ที่รักลูกคอยดูแลเอาใจใส่พวกเขาด้วยความใกล้ชิด ยังมีพี่ชายที่รักและช่วยดูแลน้องสาวเป็นอย่างดีจึงทำให้ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข อบอุ่นหัวใจ แม้จะพบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายพวกเขาก็รับรู้ได้ว่ายังมีกันและกันอยู่เสมอ
      ‘อี๋อวี้’ จากเด็กน้อยสมองพิการหลังจากที่นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้อาการของเด็กน้อยค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติท่านแม่และพี่ชายของนางดีใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งถึงวัยที่ ‘หลูจื้อ’ จะต้องไปสอบเพื่อเป็นขุนนางและพี่รองได้ตามไปด้วยที่บ้านจึงเหลือเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นทำให้ผู้หวังผลประโยชน์กับท่านแม่ของนางคิดวางแผนร้าย ท่านแม่ถูกบังคับให้แต่งงานกับเศรษฐีผู้หนึ่ง ท่านแม่และอี๋อวี้รวมถึงเด็กสาวในหมูบ้านเดียวกันต้องพากันหนีออกมา จนกระทั่งได้พบกับ ‘คุณชายฉาง’ เขาได้ช่วยพวกนางเอาไว้ นับจากวันที่หนีออกมานั่นจึงเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนางอีกครั้ง
      เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ อี๋อวี่จะนำพาครอบครัวที่ลำบากให้ดีขึ้นได้อย่างไร จากนี้ไปนางและครอบครัวจะต้องพบกับเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมาย นวลหยกงาม นิยายที่มี 15 เล่มจบเรื่องนี้ บอกเลยว่าความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัวในเรื่องจะทำให้เพื่อนๆ ซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจจนทำให้นึกถึงครอบครัวและรักพวกเขาเพิ่มมากขึ้นค่ะ

สำหรับความรักของ ‘อี๋อวี่’ และ ‘หลีไท่’ ชายหนุ่มที่เป็นคนช่วยเหลือนางในวันนั้นเป็นความรักที่ค่อยๆ ซึมลึก เขาและนางพบกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนกระทั่งเติบโตเข้าสู่วัยหนุ่มสาว ความรักของเขาและนางจะสุกงอมและหวานล้ำขนาดไหน ต้องติดตามกันแล้วนะคะ
      สำหรับเรื่อง นวลหยกงาม เป็นเรื่องราวความรัก ความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของคนในครอบครัว ดังนั้นในช่วงเวลานี้แจ่มอยากชวนเพื่อนๆ เอาใจใส่และอยู่เคียงข้างคนในครอบครัวของเราให้มากยิ่งขึ้น แจ่มเชื่อว่าพวกเราจะผ่านเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอไปได้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งค่ะ

คลิกที่นี่ ทดลองอ่าน
คลิกดูรายละเอียดหนังสือ
...

เรื่องที่สาม ‘ข้าผู้นี้... วาสนาดีเกินใคร’ (3 เล่มจบ) ชีวิตของเขาและนางพบกับปัญหาอุปสรรคมากมาย ทว่าเมื่อได้พบกัน เขาและนางเปรียบเหมือนแสงสว่างให้แก่กัน

      ข้าผู้นี้... วาสนาดีเกินใคร เป็นเรื่องราวของ ‘เจินจยาฝู’ บุตรสาวของสกุลเจินที่มั่งคั่งแห่งเมืองเฉวียนโจว ในชาติที่แล้วนางแต่งงานกับ ‘เผยซิวจื่อ’ บุตรชายคนรองสกุลเผย เขาหลงใหลนางตั้งแต่แรกครั้งแรกที่พบกันต่อมาเขาได้มาสู่ขอนางและแต่งงานกับนาง จนกระทั่ง ‘เซียวอิ้นถัง’ อวิ๋นจงอ๋องซื่อจื่อ ผู้มีนิสัยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรเขาจะต้องได้ พบกับ ‘เจินจยาฝู’ เขาตกหลุมรักนางตั้งแต่ครั้งแรกเขาทำทุกอย่างให้นางเป็นของเขา ในคืนหนึ่งนางเข้านอนไปพร้อม ‘เผยซิวจื่อ’ แต่เมื่อตื่นมาอีกครากลับกลายเป็น ‘เซียวอิ้นถัง’ ที่นอนอยู่เคียงข้างนางเสียแล้ว นางจึงรู้ว่าผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของนางได้ยกนางให้ชายอื่นไป
      นางเป็นชายาแบบลับๆ ของ ‘เซียวอิ้นถัง’ เขาได้เป็นฮ่องเต้ในเวลาต่อมา แม้เขาจะรักนางมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจให้นางมีตัวตนในแผ่นดิน ให้คนรู้จักได้หรือมีชื่อของนาง และนางก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับชะตากรรมนี้
      เมื่อฮ่องเต้ ‘เซียวอิ้นถัง’ ประชวรหนักจึงมีรับสั่งหากพระองค์สิ้นขอให้นางตามพระองค์ไปเพราะไม่อาจทิ้งนางไว้เพียงลำพังและไม่ต้องการจากไปโดยไม่มีนาง และแล้วในชาตินี้นางจึงถูกฝังไปพร้อมกับฮ่องเต้ ในขณะที่นางเกือบสิ้นใจนางเห็นท่านพ่อของนางกลับมาหา ท่านพ่อของนางออกทะเลไปตั้งแต่นางยังเด็กและไม่ได้กลับมาอีกเลยแล้วนางก็สิ้นใจในเวลานั้น
      หลังจากที่นางสิ้นใจนางได้โอกาสกลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างของตัวเองอีกครั้ง เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ได้แต่งงานกับ ‘เผยซิวจื่อ’ นางจึงหาหนทางให้ไม่ต้องแต่งกับเขา นางจะต้องไม่มีชะตากรรมเหมือนในชาติที่ผ่านมา โดยจะต้องอยู่ให้ห่างจากชายสองคนหนึ่งคือสามีนาง ‘เผยซิวจื่อ’ ที่ยกนางให้ชายอื่น และ ‘เซียวอิ้นถัง’ หากไม่เข้าใกล้สองคนนี้ชีวิตของนางยังมีโอกาสได้อยู่ต่อไป
     ในชาติที่ผ่าน ‘เจินจยาฝู’ นางจำได้ว่ามีคนผู้หนึ่งที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนางไว้ เขาเป็นคนเดียวที่จะสามารถปกป้องนางได้โดยไม่หวั่นเกรงผู้ใด เขาคือ ‘พี่ใหญ่เผย’ หรือ ‘เผยโย่วอัน’ ฉะนั้นในชาตินี้นางจะต้องหาหนทางให้เขาอยู่เคียงข้างและปกป้องนางให้ได้ ‘เจินจยาฝู’ จึงเป็นฝ่ายรุกอย่างหนักเลยค่ะ เพราะหากไม่ได้พี่ใหญ่เผยมาคอยคุ้มครอง ชีวิตของนางอาจเดินซ้ำรอยเก่า พี่ใหญ่เผยจะทำอย่างไรเมื่อนางรุกอย่างหนัก เขาและนางจะผ่านปัญหาอุปสรรคมากมายนี้ได้อย่างไร ความรักที่อบอุ่นจะเป็นแสงสว่างนำทางให้กับเขาและนางอย่างไร มาติดตามความประทับใจได้ในเรื่องนี้ค่ะ และในช่วงเวลาแบบนี้อย่าลืมเอาใจใส่คนที่เรารักให้มากขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน และก้าวผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกันค่ะ

คลิกที่นี่ ทดลองอ่าน
คลิกดูรายละเอียดหนังสือ
... 

เรื่องที่สี่ ‘แพ็กคู่ คู่นิรันดร์พันภพ 1-2 และ 3-4’ อิ่มเอมหัวใจไปกับความรักที่ยิ่งใหญ่ รักที่มีแต่การให้และเสียสละ

      หากให้นึกถึงนิยายรักแปลจีนโบราณที่มีเรื่องราวซาบซึ้งตราตรึงใจหลายคนอาจจะเลือกไม่ถูกเพราะว่ามีหลายเรื่องที่ชื่นชอบใช่ไหมคะ แต่หนึ่งในหลายเรื่องน่าจะมีเพื่อนๆ คิดถึงเรื่อง คู่นิรันดร์พันภพ เหมือนกับแจ่ม ใครที่นึกถึงเรื่องนี้อย่าลืมคอมเมนต์บอกแจ่มให้ชื่นใจกันหน่อยนะคะ
     ‘คู่นิรันดร์พันภพ’ เป็นเรื่องราวของ ‘อาหลิง’ แม่มดพันปีแห่งหอคอยขาว นางมักจะถูกเหล่าปีศาจไล่ล่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเสมอ นางมีสายเลือดแห่งเทพที่มีชีวิตมาแล้วนับพันปี วันหนึ่งนางถูกปีศาจไล่ล่าจึงกระโจนลงไปในน้ำหวังหนีเอาชีวิตรอดแต่ก็ถูกปีศาจทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส นางนอนอยู่ริมน้ำ จนกระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางผ่านมาเห็น เขาคิดว่านางน่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่พออุ้มขึ้นมาพบว่านางยังหายใจอยู่ เขาคือ ‘ซ่งอิ้งเทียน’ คุณชายแห่งสำนักสนองฟ้าซึ่งเป็นสำนักแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขามีวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศเขาช่วยรักษานาง และยังคอยดูแลนางเป็นอย่างดีทั้งป้อนอาหาร ล้างแผล และผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง ทว่าเมื่อร่างกายของนางดีขึ้น นางกลับปล้นเอาสิ่งของต่างๆ ของเขาเสียจนหมดแล้วหนีไป

      ชายหนุ่มไม่ได้เร่งรีบติดตามนาง เขาไปช่วยตรวจโรคและรักษาชาวบ้านต่อ จนวันหนึ่งเขาไปรักษาวัวให้ชาวบ้าน แล้วพบนางนอนหมอบอยู่ภายในคอกวัวและมีอาการบาดเจ็บสาหัส เขาต้องช่วยเหลือนางไว้อีกครั้ง ครั้งนี้เขาพบว่าเลือดของนางคือสิ่งที่ดึงดูดปีศาจ เขาบอกให้นางอยู่ใกล้เขาไว้อย่าจากไปเพราะว่าหากพบปีศาจเขาจะได้ช่วยเหลือนางได้ทัน

เขาและนางได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ‘อาหลิง’ มักฝันร้ายโดยฝันว่าถูกปีศาจเข้ามาทำร้าย ‘ซ่งอิ้งเทียน’ เขาจะคอยสังเกตุจดบันทึกอาการของนางพยายามค้นหาว่าเหตุใดคนจึงกลายเป็นปีศาจ และจะคอยดูแลนางอย่างใกล้ชิด ความใกล้ชิดความห่วงใยก่อเกิดเป็นความรักความผูกพันธ์ หากนางไม่มีสายเลือดแห่งเทพที่มีอายุยืนยาว เลือดเนื้อของนางเป็นสิ่งที่เหล่าปีศาจต้องการจนนางถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากนางมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข เขาและนางคงได้พบกับชีวิตที่สุขสม แต่เพื่อนางอันเป็นที่รักเขาจึงพร้อมปกป้องนางให้มีชีวิตอยู่ต่อไป

      นิยายรักเรื่อง ‘คู่นิรันดร์พันภพ’ นี้เพื่อนๆ จะได้สัมผัสความรักที่ยิ่งใหญ่ ชายหนุ่มที่เสียสละเพื่อคนรัก อิ่มเอมไปกับความสัมพันธ์ที่ซึ้งตราตรึงใจ แจ่มหวังว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ของ ‘อาหลิง’ และ ‘ซ่งอิ้งเทียน’ จะเติมเต็มความสุขให้กับเพื่อนๆ ในยามนี้ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

คลิกที่นี่ ทดลองอ่าน
คลิกดูรายละเอียดหนังสือ
... 

เรื่องที่ห้า ‘ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง’ (6 เล่มจบ) พบกับเรื่องราวการผจญภัยของหญิงสาวที่มาจากโลกปัจจุบัน จากเด็กน้อยอ่อนแอโรครุมเร้าสู่ยอดสตรี

    ‘ยอดสตรีเป็นยากยิ่ง’ (6 เล่มจบ) ผลงานของ ‘อิ๋นเชียนอวี่’ เป็นเรื่องราวของของสัตวแพทย์สาวที่ดวงวิญญาณได้มาเกิดใหม่ในร่างของ ‘ฉู่อีเหริน’ คุณหนูน้อยสกุลฉู่ นางเกิดท่ามกลางบิดามารดามีความขุ่นข้องหมองใจกัน จึงทำให้เด็กน้อยไม่ได้เป็นที่รักของบิดามารดา แล้วยังคลอดก่อนกำหนดทำให้สุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด โชคยังดีอยู่บ้างที่นางมีพี่ชายที่แสนดีถึงสองคน ‘ฉู่เซวียนอั๋ง’ พี่ชายใหญ่ของนางได้มอบความรัก ดูแลและปกป้องนางมากกว่าผู้เป็นบิดาและมารดาแท้ๆ ส่วนพี่รอง ‘ฉู่เซวียนฉี’ ก็คอยผลัดเปลี่ยนมาดูแลน้องสาวเช่นกัน ในบ้านของสกุลฉู่ทุกคนรู้ดีว่าห้ามใครทำร้ายน้องสาวของพวกเขาเป็นอันขาด นางจึงเติบโตมาท่ามกลางความรักของพี่ชายทั้งสองคน
     จนกระทั่งนางอายุได้สามขวบพี่ชายใหญ่ได้พานางและพี่รองเข้าเมือง พี่ชายใหญ่ได้พาน้องทั้งสองไปที่สมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษเพื่อขึ้นทะเบียนให้กับพี่รอง ที่นี่ทั้งสามได้พบกับผู้อาวุโสของสมาคม ‘เฟิงเหยี่ยน’ และ ‘โม่ซั่งเฉิน’ หลังจากที่ได้พูดคุยกัน ผู้อาวุโส ‘เฟิงเหยี่ยน’ รับพี่รองเป็นศิษย์ ‘โม่ซั่งเฉิน’ สนใจในตัวของ ‘ฉู่อีเหริน’ จึงเดินทางไปยังสกุลฉู่ ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า ‘โม่ซั่งเฉิน’ ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่คือท่านตาของพวกเขา ท่านตาจึงได้ขอ ‘ฉู่อวิ๋นเฟย’ และ ‘โม่อี้โหรว’ ท่านพ่อและท่านแม่ของนางว่าจะขอรับนางไปเลี้ยงดู จากนั้นนางจึงได้ไปอยู่กับท่านตาบนเกาะโม่เสวียน ท่านตาได้สอนวิชาต่างๆ ให้กับนาง อาทิ เรียนวรยุทธ์ การปลูกสมุนไพร การปรุงยา การหลอมอาวุธ ฯลฯ
      วันเวลาผ่านไปนางได้พบกับเด็กชายอายุสิบห้าผู้หนึ่งและได้ช่วยเขานำบุปผากลางธาราขึ้นมาจากน้ำเพื่อให้เขานำไปช่วยเหลือชีวิตของบิดา เขามีนามว่า ‘ไป่หลี่จิงหง’ เขาซาบซึ้งใจและมอบสร้อยกับจี้ให้นางเป็นของตอบแทน และยังเอ่ยว่าเขาขอจับจองนางไว้ เป็นครั้งแรกที่เขาและนางได้พบกัน วันหนึ่งนางได้เดินทางออกจากเกาะเพื่อตามหาท่านตาจึงได้พบกับ ‘ไป่หลี่จิงหง’ เขาได้ติดตามและคอยช่วยเหลือนาง การผจญภัยของเขาและนางเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เพื่อนๆ สามารถร่วมผจญภัยไปกับพวกเขาผ่านนิยายรักเรื่องนี้ นอกจากนั้นยังได้สัมผัสกับความรัก การเสียสละและการช่วยเหลือที่พระ-นางมอบให้แก่กัน นิยายรักเรื่องนี้น่าจะช่วยให้เพื่อนๆ สนุกและอบอุ่นหัวใจได้ไม่น้อย ไปทดลองอ่านกันนะคะ

คลิกที่นี่ ทดลองอ่าน
คลิกดูรายละเอียดหนังสือ

    เต็มอิ่มไปกับเรื่องราวความรัก การเสียสละ ความเข้มแข็ง และการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้กันแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ แจ่มหวังว่านิยายรักทั้งห้าเรื่องอาจมีสักหนึ่งเรื่องที่จะช่วยเติมความสุขและเรียกรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ในสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างนี้ รวมทั้งช่วยปลุกกำลังใจได้ไม่มากก็น้อยค่ะ

    หากชื่นชอบนิยายรักในบทความนี้สามารถร่วมพูดคุยหรือแชร์ให้กับเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกันผ่านคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยนะคะ

...

เพื่อนที่สนใจสามารถช้อปนิยายรักผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
- ช้อปออนไลน์กับแจ่มใส : คลิกที่นี่
- ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช้อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
- ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in นิยายอินไซต์ มากกว่ารัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

community.jamsai.com