ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 3 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 3

“คนที่หากล่องแดงที่ข้าซ่อนไว้ใต้พื้นนี้เจอ คงเป็นคนที่ทำตามคำข้ากราบข้าเป็นอาจารย์ หลังจากข้าจากไป ตระกูลเว่ยก็มีคนสืบทอดแล้ว ข้ารู้สึกสบายใจมาก คำพูดต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ตรงของข้า ศิษย์จงจำไว้ นี่เป็นความลับของตระกูลเว่ย หากมิใช่ผู้สืบทอดจะแพร่งพรายออกไปไม่ได้…” พลิกผ่านหน้าแรก “ความรู้ในการปรุงเครื่องหอมมิใช่พรสวรรค์ของข้า ข้านั้นเป็นจิตวิญญาณพันปีให้หลังที่ทะลุเวลามา…” อ่านเพียงประโยคเดียว มู่หวั่นชิวกับหลีจวินก็เบิกตาโตอย่างตกใจ

ทั้งสองคนสบตากันอย่างไม่อยากเชื่อ มู่หวั่นชิวพูดพึมพำ “อาจารย์เป็นคนในพันปีให้หลังหรือ เป็นจิตวิญญาณหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร”

หลีจวินส่ายหน้า เขาเองก็ตกใจและสงสัยไม่น้อยไปกว่ามู่หวั่นชิว

ภายในถ้ำเงียบอย่างน่าประหลาด

ผ่านไปครู่ใหญ่ทั้งสองจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกัน แล้วมานั่งด้วยกันบนกองหญ้า ก่อนจะเริ่มอ่านอย่างละเอียด

แม่นางเว่ยมีชื่อจริงว่า ‘หลินซิ่วเจวี้ยน’ เป็นนักปรุงเครื่องหอมธรรมดาคนหนึ่งในพันปีให้หลัง ด้วยความบังเอิญครั้งหนึ่ง ตอนที่อยู่ในร้านของโบราณได้ถูกกำไลวงหนึ่งชักนำ กระทั่งทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเว่ยหงที่เจอกับปีแห่งภัยพิบัติจมน้ำตายทั้งครอบครัว หลังจากนางถูกช่วยไว้ก็หนีภัยมาที่เมืองอันคังกับกลุ่มญาติ อาศัยฝีมือในการปรุงเครื่องหอมที่เหนือชั้นได้อยู่มั่นในร้านเครื่องหอมแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว รัชศกเฉิงตี้ที่ยี่สิบห้า นางก็มีชื่อเสียงในงานประชันเครื่องหอมที่จัดห้าปีครั้งในเมืองอันคัง

และตอนนั้นเองนางได้รู้จักกับฮ่องเต้หย่งตี้ที่ยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ ซึ่งถูกความฉลาดหลักแหลมและสุดยอดอัจฉริยะของนางดึงดูดเข้า องค์รัชทายาทจึงมักจะแต่งชุดสามัญชนและใช้ชื่อว่า ‘หนานกงหลิ่ว’ ไปประชันเครื่องหอม เล่นหมากล้อม ชิมชา และท่องเที่ยวกับนาง ตอนนั้นเว่ยหงไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของหนานกงหลิ่ว คิดว่าเขาเป็นเพียงคุณชายตระกูลดังเท่านั้น และเพราะถูกความงามสง่าของเขาดึงดูดเข้า ทั้งสองจึงตกอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเว่ยหงที่มาจากพันปีให้หลังนั้น นางมีความคิดอิสระเช่นคนในรุ่นหลังหยั่งรากลึก นางเพียงตามหาความรักที่เท่าเทียม ดังนั้นแม้จะรู้ว่าตนเองรักแล้ว ก็ยังรักษาใจไว้ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ หวังว่าสักวันหนึ่งหนานกงหลิ่วจะยอมทิ้งตระกูลเพื่อนาง ทั้งสองออกท่องเที่ยวไปทั่วด้วยกัน มีชีวิตที่ไม่มีข้อผูกพันไปทั้งชาติ

จนกระทั่งวันหนึ่งเว่ยหงพบว่าหนานกงหลิ่วก็คือองค์รัชทายาทในตอนนั้น เขาได้เลือกชุยเยียนธิดาอัครเสนาบดีในตอนนั้นเป็นชายารัชทายาท อีกไม่กี่วันก็จะจัดงานราชพิธี ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด เว่ยหงจึงสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง นางตวัดมีดตัดรัก สาบานว่าชาตินี้จะไม่มีความรักอีก ขอมุ่งมั่นอยู่กับการปรุงเครื่องหอมเท่านั้น

แต่ว่าเมื่อรักนางแล้ว ฮ่องเต้หย่งตี้จะยอมปล่อยมือง่ายดายได้อย่างไร

หย่งตี้จึงตามหาไปทั่ว หลังจากนั้นไม่กี่ปีในที่สุดเขาก็หาตัวเว่ยหงซึ่งซ่อนชื่ออยู่ในร้านเครื่องหอมเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เมืองต้าเยี่ยพบ ตอนนั้นเขาขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ไปแล้ว ฮ่องเต้หย่งตี้ขอร้องนางแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจกักขังนางไว้ที่ตำหนักใน เวลานั้นนางได้ตั้งครรภ์ฮ่องเต้หนานตี้องค์ปัจจุบัน หลังให้กำเนิดหนานตี้ เดิมทีหย่งตี้ก็คิดว่านางจะกลับใจ ทว่าตั้งแต่เผชิญกับบรรดาสนมชายาโฉมสะคราญในตำหนักในของหย่งตี้ เว่ยหงก็ใจสลายไปนานแล้ว ไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไป

เห็นนางค่อยๆ ร่วงโรยไปในแต่ละวัน แม้แต่การปรุงเครื่องหอมที่ชอบที่สุดก็ยังกระตุ้นความสนใจนางไม่ได้อีก ด้วยความจนใจในที่สุดหย่งตี้ก็ตกลงปล่อยนางเป็นอิสระ ทั้งสองให้สัญญาแก่กันว่าขณะที่เว่ยหงท่องเที่ยวไปทั่วนั้น ไม่ว่านางไปถึงที่ใดก็ต้องส่งข่าวให้หย่งตี้เป็นคนแรก หย่งตี้ก็รับรองกับนางว่าชุยฮองเฮาเป็นชายารัชทายาทที่เสด็จพ่อขอมาให้เขาตอนที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ เขาทอดทิ้งไม่ได้ชั่วชีวิต หากวันหน้าชุยฮองเฮาสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เขาก็จะไม่แต่งตั้งฮองเฮาไปชั่วชีวิต แต่หากวันใดที่นางเหนื่อยแล้ว…ล้าแล้ว และอยากจะกลับมาเป็นชายาเอกข้างกายเขา เหนือหัวนางก็จะไม่มีฮองเฮาอีก…

ตำรารวมวัตถุดิบเครื่องหอมตระกูลเว่ยและตำราวิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ยล้วนเป็นตำราที่เว่ยหงเขียนไว้ระหว่างการท่องเที่ยวในช่วงนี้เอง

เว่ยหงท่องไปจนทั่วแคว้นต้าโจว หลังจากที่นางออกจากวังไปห้าปี ในที่สุดนางก็พบวิธีการใช้กำไลบนข้อมือของนาง พาตัวเองกลับไปยังพันปีให้หลัง

สำหรับไข่มุกราตรีเม็ดนั้น ในคืนวันที่หย่งตี้บังคับได้ตัวเว่ยหงแล้วก็ปลดออกมาจากหมวกมังกรด้วยมือตนเอง ตอนนั้นหย่งตี้สาบานว่า ‘น้องหงมีชาติกำเนิดเป็นช่าง ไม่อาจขึ้นเป็นแม่แห่งแผ่นดินได้ เราสาบานว่าชาตินี้จะรักน้องหงเพียงคนเดียว อาศัยไข่มุกเม็ดนี้ ภายหน้าถ้าน้องหงให้กำเนิดองค์ชาย เขาก็จะถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์รัชทายาท!’

ในฐานะชายาที่รัก ของกำนัลที่หย่งตี้พระราชทานให้นั้นไม่ใช่เพียงเท่านี้ ด้วยเห็นของล้ำค่าประหลาดมาจนชินตา เว่ยหงเดิมก็ไม่ได้เก็บไข่มุกราตรีเม็ดนี้มาใส่ใจ ภายหลังนางกลับพบว่าไข่มุกราตรีเม็ดนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือสามารถไล่กลิ่นคาวที่ยากจะขจัดทิ้งได้ออกจากเครื่องหอม โดยเฉพาะตอนที่ปรุงน้ำหอม หากเอาไข่มุกราตรีวางไว้ในน้ำหอมที่ปรุงเสร็จราวหนึ่งชั่วยามแล้วเอาออกมา กลิ่นน้ำหอมก็จะหอมบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น สีจะยิ่งใส และด้วยเหตุนี้หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากวัง นางจึงทิ้งสมบัติของล้ำค่าทุกอย่างที่หย่งตี้มอบให้ แล้วนำเพียงไข่มุกราตรีเม็ดนี้ออกมาอย่างเดียว…

“มิน่าเล่าปรมาจารย์เว่ยจึงตั้งป้ายเป็นให้กับตัวเอง ที่แท้นางยังไม่ตาย แต่กลับไปในยุคสมัยของนางแล้ว ไปอยู่อีกที่หนึ่งแล้ว” อ่านประวัติแม่นางเว่ยจบแล้ว หลีจวินก็พูดอย่างทอดถอนใจ เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นข้างแก้มของมู่หวั่นชิวเหมือนว่ามีรอยน้ำตาอยู่ เขาจึงเรียกอย่างตกใจ “อาชิว!”

“รักผิดชั่วชีวิต แม้จะกลับไปพันปีให้หลัง หัวใจอาจารย์ก็ยังว่างเปล่า” มู่หวั่นชิวถอนหายใจเอื่อยๆ พึมพำกับตนเอง “พันปีให้หลัง? นั่นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกัน” ในดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนา “สตรีเป็นขุนนางได้ ทำงานได้ มีความเท่าเทียมกับบุรุษ ถ้าไม่พอใจสามีก็สามารถหย่าสามีได้…ช่างดีจริง…ข้าหวังอย่างยิ่งว่าข้าจะได้เกิดในสมัยนั้น ต่อให้ยากจนข้นแค้นก็ยอม”

หลีจวินมีสีหน้ากระอักกระอ่วน “อาชิว…”

“เคียงคู่กันชั่วชีวิต จมอยู่ในโลกที่งดงาม…” จมอยู่ในจินตนาการพันปีให้หลังที่แม่นางเว่ยบรรยายเอาไว้แล้ว มู่หวั่นชิวก็มีสายตาเหม่อลอย “ชาตินี้ถ้าได้ความรักจริงเช่นนี้ แม้ตายก็พอใจแล้ว”

“อาชิวปรารถนาจะอยู่เคียงคู่กันชั่วชีวิตหรือ” หลีจวินมองหน้ามู่หวั่นชิวอย่างเงียบๆ

มู่หวั่นชิวส่ายหน้าพลางเยาะเย้ยตนเอง “จะเป็นไปได้อย่างไร”

อย่างไรเสียนี่ก็มิใช่พันปีให้หลัง แม้แต่แม่นางเว่ยที่มีฐานะเป็นปรมาจารย์ระดับแนวหน้าก็ยังขอไม่ได้ แล้วนางที่เป็นหญิงตัวคนเดียวจะกล้ามีความคิดนี้ได้อย่างไร

หากคิดเหลวไหลไปหวัง ไปรัก เกรงว่าสุดท้ายแล้วอาจต้องเสียหัวใจ กระทั่งอาจต้องแลกด้วยชีวิต

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com